Film – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Thu, 21 Aug 2025 08:11:19 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 “หาคนอังกฤษแท้ๆ มาเล่นบทนี้เหอะ” Glen Powell เผยว่าเขาไม่เหมาะกับบท James Bond https://thestandard.co/glen-powell-james-bond/ Thu, 21 Aug 2025 06:05:59 +0000 https://thestandard.co/?p=1109604 Glen Powell ปฏิเสธบท James Bond ย้ำให้เลือกนักแสดงอังกฤษแท้

Glen Powell เผยเหตุผลสุดเซอร์ไพรส์ที่ทำให้เขาคิดว่าตัวเ […]

The post “หาคนอังกฤษแท้ๆ มาเล่นบทนี้เหอะ” Glen Powell เผยว่าเขาไม่เหมาะกับบท James Bond appeared first on THE STANDARD.

]]>
Glen Powell ปฏิเสธบท James Bond ย้ำให้เลือกนักแสดงอังกฤษแท้

Glen Powell เผยเหตุผลสุดเซอร์ไพรส์ที่ทำให้เขาคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับบท James Bond ถึงแม้ว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาจะมีผลงานที่น่าจดจำออกมามากมาย ทั้งภาพยนตร์ Top Gun: Maverick, Anyone But You และ Twisters ที่ล้วนทำให้เขาขึ้นแท่นเป็นนักแสดงหนุ่มสุดฮอตในดวงใจของคอหนังหลายคน

 

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter เพื่อโปรโมตซีรีส์เรื่องใหม่อย่าง Chad Powers อยู่นั้น Glen Powell ปฏิเสธเรื่องที่ว่า เขาอาจมีโอกาสที่จะได้รับบทเป็น James Bond สายลับชาวบริติชเป็นคนต่อไป โดยให้เหตุผลที่ทำให้เขาไม่เหมาะสมกับบทนี้ว่า

 

“ผมเป็นคนเทกซัส และคนเทกซัสไม่ควรมาแสดงเป็น James Bond ผมกับครอบครัวคุยกันเล่นๆ ว่าผมจะแสดงเป็น Jimmy Bond ก็ได้ แต่ไม่ควรเล่นเป็น James Bond เป็นอันขาด

 

“หาคนอังกฤษแท้ๆ มาเล่นบทนี้เหอะ คนที่เหมาะกับทักซิโดตัวนั้น”

 

แฟรนไชส์ภาพยนตร์ James Bond เป็นผลงานที่ดัดแปลงจากนวนิยายสายลับแห่งยุค 1950 และ 1960 ของ Ian Fleming นักเขียนชาวอังกฤษ และที่ผ่านมาก็มีเพียงนักแสดงชาวอังกฤษเท่านั้นที่ได้มารับบทเป็นสายลับ 007 สุดเนี้ยบ รวมไปถึง Daniel Craig นักแสดงคนล่าสุดผู้เป็นเจ้าของบทดังกล่าว โดยโปรเจกต์ James Bond เวอร์ชันต่อไปจะได้รับการกำกับโดย Denis Villeneuve เจ้าของผลงาน Dune และเขียนบทโดย Steven Knight ที่ฝากผลงานเรื่อง Peaky Blinders มาแล้ว ในขณะที่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่านักแสดงคนใดที่จะได้มารับบทเป็น James Bond

 

ภาพ: Neil Mockford/FilmMagic

อ้างอิง:

The post “หาคนอังกฤษแท้ๆ มาเล่นบทนี้เหอะ” Glen Powell เผยว่าเขาไม่เหมาะกับบท James Bond appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost) ได้รับเลือกเข้าชิง ‘รางวัลออสการ์’ ครั้งที่ 98 สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม https://thestandard.co/a-useful-ghost-oscar-nomination/ Thu, 21 Aug 2025 02:11:19 +0000 https://thestandard.co/?p=1109512

เมื่อวานนี้ (20 สิงหาคม) สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ […]

The post ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost) ได้รับเลือกเข้าชิง ‘รางวัลออสการ์’ ครั้งที่ 98 สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม appeared first on THE STANDARD.

]]>

เมื่อวานนี้ (20 สิงหาคม) สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ประกาศเลือกภาพยนตร์เรื่อง ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost) จาก 185 Films เป็นตัวแทนภาพยนตร์จากประเทศไทยเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 98 ในสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม (Best International Feature Film) หลังประสบความสำเร็จและได้รับคำชื่นชมในระดับโลก

 

 

ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost) คือภาพยนตร์ที่สามารถคว้ารางวัล Grand Prize จากสายประกวด Semaine de la Critique เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามาครอง โดยเป็นการคัดเลือกผลงานของผู้กำกับที่เพิ่งมีผลงานภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกหรือเรื่องที่สองให้เข้าประกวด นอกจากนี้ ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost) ยังถือเป็นภาพยนตร์ไทยในรอบ 10 ปีถัดจาก รักที่ขอนแก่น (Cemetery of Splendour) ของผู้กำกับ เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ที่ได้รับเลือกให้เข้าประกวดในเทศกาลนี้ ซึ่ง ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost) ยังเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของ รัชฏ์ภูมิ บุญบัญชาโชค ด้วยเช่นกัน

 

 

สำหรับนักแสดงนำของ ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost) ประกอบไปด้วยนักแสดงมากฝีมือและประสบการณ์มากมาย ได้แก่ ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่, อุ๋ม-อาภาศิริ นิติพน, โมสต์-วิศรุต หิมรัตน์ และวัลลภ รุ่งกำจัด ที่จะว่าด้วยเรื่องราวของ มาร์ช (โมสต์ วิศรุต) สามีที่กำลังโศกเศร้าหลังจากที่ แนท (ใหม่ ดาวิกา) ภรรยาของเขาเพิ่งเสียชีวิตเพราะมลพิษฝุ่น เขาพบว่าวิญญาณของเธอได้กลับคืนมาโดยการสิงสู่เครื่องดูดฝุ่น ในขณะเดียวกันวิญญาณของคนงานก็ได้มาก่อกวนโรงงานของแม่ของมาร์ช จนทำให้โรงงานต้องปิดตัวลง ครอบครัวของเขาจึงปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับผีที่ผิดปกติ แนทพยายามโน้มน้าวพวกเขาให้เชื่อว่ามาร์ชและเธอรักกันและอยู่ร่วมกันได้แบบมนุษย์กับเครื่องดูดฝุ่น จึงเสนอที่จะเคลียร์ปัญหาเรื่องผีๆ ในโรงงานของครอบครัว เพื่อทำตัวเป็นผีที่มีประโยชน์

 

แฟนๆ สามารถรอติดตามผลการประกาศรางวัลได้พร้อมกันในงานประกาศรางวัลออสการ์ หรือ Academy Awards ครั้งที่ 98 ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมีนาคม ปี 2569 โดยภาพยนตร์ ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost) ยังมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 28 สิงหาคมนี้

 

สามารถรับชมตัวอย่างภาพยนตร์ ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost) ได้ที่: https://youtu.be/rh0aOKhssKU

 

 

อ้างอิง:

The post ผีใช้ได้ค่ะ (A Useful Ghost) ได้รับเลือกเข้าชิง ‘รางวัลออสการ์’ ครั้งที่ 98 สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม appeared first on THE STANDARD.

]]>
Leonardo DiCaprio รู้สึกเสียดายที่เคยต้องปฏิเสธบทนำในหนังเรื่อง Boogie Nights https://thestandard.co/leonardo-dicaprio-boogie-nights-regret/ Sun, 17 Aug 2025 07:12:48 +0000 https://thestandard.co/?p=1108256 leonardo-dicaprio-boogie-nights-regret

ถึงแม้ว่าปัจจุบัน Leonardo DiCaprio จะเป็นหนึ่งในนักแสด […]

The post Leonardo DiCaprio รู้สึกเสียดายที่เคยต้องปฏิเสธบทนำในหนังเรื่อง Boogie Nights appeared first on THE STANDARD.

]]>
leonardo-dicaprio-boogie-nights-regret

ถึงแม้ว่าปัจจุบัน Leonardo DiCaprio จะเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง และมีโอกาสได้รับบทนำในภาพยนตร์มากมายหลายเรื่องมาตลอดหลายสิบปี แต่เขายังมีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เขายังคงรู้สึกเสียดายจนถึงทุกวันนี้เพราะไม่ได้ร่วมแสดง นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Boogie Nights

 

Leonardo DiCaprio ได้รับข้อเสนอให้เล่นหนังเรื่อง Boogie Nights ของผู้กำกับ Paul Thomas Anderson ในบท Eddie Adams เมื่อปี 1997 แต่เขาต้องปฏิเสธโอกาสนั้นไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากติดพันการถ่ายทำภาพยนตร์ Titanic ของ James Cameron ที่กลายเป็นผลงานแจ้งเกิดสำคัญของเขา สุดท้ายแล้วบท Eddie Adams จึงตกเป็นของ Mark Wahlberg อีกหนึ่งนักแสดงเจ้าบทบาทแห่งวงการฮอลลีวูด

 

ล่าสุด Leonardo DiCaprio ได้บอกกับ Paul Thomas Anderson ระหว่างการสัมภาษณ์ของ Esquire ว่า การพลาดบทดังกล่าวนี้ไป ยังคงเป็นสิ่งที่เขารู้สึกเสียดายมากที่สุดในเส้นทางอาชีพ เขาเผยว่า “สิ่งที่ผมเสียดายมากที่สุดคือการไม่ได้แสดงหนังเรื่อง Boogie Nights มันเป็นภาพยนตร์ที่ลึกซึ้งที่สุดในยุคของผมแล้ว

 

“ผมจินตนาการให้คนอื่นนอกจาก Mark มาเล่นเรื่องนี้ไม่ออก แต่ตอนที่ผมได้ดูหนังเรื่องนี้ผมคิดว่ามันเป็นผลงานชั้นเยี่ยมเลยล่ะ”

 

Boogie Nights เป็นเรื่องราวที่เล่าถึงวงการหนังผู้ใหญ่ในช่วงยุค 1970 ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นภาพยนตร์โมเดิร์นคลาสสิก และเป็นงานเปิดตัวของผู้สร้างหนังอย่าง Paul Thomas Anderson อีกทั้งยังเป็นผลงานที่ทำให้ Mark Wahlberg ได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดง หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเขามีชื่อเสียงในวงการแรปเปอร์โดยใช้นามว่า Marky Mark ซึ่งถึงแม้จะพลาดโอกาสในการร่วมงานกันในครั้งนั้น แต่ Leonardo DiCaprio กับ Paul Thomas Anderson ก็ได้โคจรมาร่วมงานกันในเรื่อง One Battle After Another ที่กำลังจะเข้าฉายเร็วๆ นี้

 

ภาพ: Gilbert Flores/Variety via Getty Images

อ้างอิง

The post Leonardo DiCaprio รู้สึกเสียดายที่เคยต้องปฏิเสธบทนำในหนังเรื่อง Boogie Nights appeared first on THE STANDARD.

]]>
Marty Supreme ของสตูดิโอ A24 ปล่อยตัวอย่างแรกที่ได้ Timothée Chalamet มาแสดงนำ https://thestandard.co/a24-marty-supreme-trailer/ Thu, 14 Aug 2025 08:47:59 +0000 https://thestandard.co/?p=1107347 Marty Supreme ของสตูดิโอ A24 ปล่อยตัวอย่างแรกที่ได้ Timothée Chalamet มาแสดงนำ

ภาพยนตร์ Marty Supreme ของสตูดิโอ A24 ที่นำแสดงโดยนักแส […]

The post Marty Supreme ของสตูดิโอ A24 ปล่อยตัวอย่างแรกที่ได้ Timothée Chalamet มาแสดงนำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Marty Supreme ของสตูดิโอ A24 ปล่อยตัวอย่างแรกที่ได้ Timothée Chalamet มาแสดงนำ

ภาพยนตร์ Marty Supreme ของสตูดิโอ A24 ที่นำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มเจ้าบทบาทอย่าง Timothée Chalamet ภายใต้การกำกับและเขียนบทของ Josh Safdie ได้เผยตัวอย่างแรกออกมาให้คอหนังรับชมกันแล้ว

 

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ Timothée Chalamet ได้รับบทเป็น Marty Mauser นักปิงปองมืออาชีพหนุ่มที่ต้องการทำตามความฝันของตัวเอง และต้องผ่านอุปสรรคอย่างมากมายเพื่อให้บรรลุถึงความเป็นเลิศท่ามกลางฉากหลังที่อยู่ในช่วงยุค 1950 ซึ่งถึงแม้ว่าจะยังไม่เคยมีการคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ตัวละคร Marty Mauser ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตอันโลดโผนของนักปิงปองระดับแชมป์ Marty Reisman ผู้ซึ่งมีเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

 

สำหรับ Marty Supreme แน่นอนว่าเราจะได้เห็น Timothée Chalamet ที่สลัดความเป็นตัวเองออกไปอย่างหมดจดและจับไม้ปิงปองพร้อมกับเล่นกีฬาดังกล่าวดังเช่นในตัวอย่างภาพยนตร์ที่เผยฉากการแข่งขันปิงปองอันดุเดือดออกมาให้เห็นเล็กน้อย โดยก่อนหน้านี้ผู้กำกับภาพชื่อดังอย่าง Darius Khondji เผยว่า Timothée Chalamet ฝึกฝนกีฬาปิงปองอย่างเอาเป็นเอาตายเป็นเวลาหลายต่อหลายเดือน เพื่อให้ตัวเองแสดงออกมาได้สมบทบาทราวกับเป็นนักปิงปองมืออาชีพที่แท้จริง เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่เขาฝึกฝนการเล่นกีตาร์และร้องเพลงสำหรับการรับบทเป็น Bob Dylan ใน The Complete Unknown และทำผลงานออกมาได้อย่างดีเยี่ยม

 

ตัวอย่าง Marty Supreme ยังเผยให้เห็นอีกหนึ่งนักแสดงนำอย่าง Gwyneth Paltrow ที่กลับมาแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 6 ปีในบทบาทของนักแสดงผู้เป็นคนรักต่างวัยของ Marty Mauser นอกจากนั้นยังมี Tyler, the Creator, นักมายากล Penn Jillette, Sandra Bernhard, Fran Drescher และอีกมากมายที่มาร่วมแสดง โดย Marty Supreme มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 25 ธันวาคมนี้

 

ภาพ: A24

 

อ้างอิง:

The post Marty Supreme ของสตูดิโอ A24 ปล่อยตัวอย่างแรกที่ได้ Timothée Chalamet มาแสดงนำ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Lindsay Lohan หงุดหงิดใจที่โดนจำกัดให้แสดงเพียงหนังคอเมดี้เท่านั้น https://thestandard.co/lindsay-lohan-serious-role/ Tue, 12 Aug 2025 09:17:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1106310 lindsay-lohan-serious-role

Lindsay Lohan แจ้งเกิดจากผลงานแนวคอเมดี้สุดน่ารักอย่าง […]

The post Lindsay Lohan หงุดหงิดใจที่โดนจำกัดให้แสดงเพียงหนังคอเมดี้เท่านั้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
lindsay-lohan-serious-role

Lindsay Lohan แจ้งเกิดจากผลงานแนวคอเมดี้สุดน่ารักอย่าง The Parent Trap ตั้งแต่ปี 1998 และหลังจากนั้น เธอก็แสดงภาพยนตร์แนวเดียวกันอีกมากมายหลายเรื่องตลอดการเติบโต ไม่ว่าจะเป็น Mean Girls, Just My Luck และ Freaky Friday เป็นต้น จนเรียกได้ว่า Lindsay Lohan เป็นหนึ่งในนักแสดงเจ้าแม่หนังคอเมดี้ในช่วงยุคหนึ่ง

 

แต่ถึงอย่างนั้น Lindsay Lohan ก็มีความใฝ่ฝันที่จะได้แสดงในบทบาทและภาพยนตร์ที่จริงจังมากกว่านี้ และการโดนจำกัดให้รับบทแนวโรแมนติกคอเมดี้แบบเดิมซ้ำๆ ตลอดมาก็เป็นสิ่งที่น่าหงุดหงิดสำหรับเธอเป็นอย่างมาก โดยเธอให้สัมภาษณ์ผ่าน The Times ว่า “ฉันดีใจมากที่ได้แสดงเรื่อง A Prairie Home Companion แต่มาจนถึงทุกวันนี้ฉันยังต้องต่อสู้เพื่อให้ได้แสดงหนังที่จริงจังแบบนั้นอยู่เลย ซึ่งมันน่าหงุดหงิดใจมาก”

 

Lindsay Lohan พูดถึงภาพยนตร์ดรามาเรื่อง A Prairie Home Companion ที่เธอได้แสดงร่วมกับ Meryl Streep เมื่อปี 2006 และนอกจากเรื่องนี้แล้วเธอยังมีผลงานภาพยนตร์ดรามาอย่าง Georgia Rule ที่ได้ร่วมงานกับอีกหนึ่งนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง Jane Fonda ในปี 2007 ซึ่งเธอก็รู้ว่าเธอทำมันออกมาได้ดีไม่แพ้หนังคอเมดี้เลย เธอเผยอีกว่า

“ในเมื่อคุณรู้ว่าฉันทำงานแบบนี้ได้และยังทำแบบอื่นได้เหมือนกันก็ปล่อยให้ฉันทำสิ ให้โอกาสฉันหน่อย ฉันต้องทำลายวัฏจักรนั้นและเปิดประตูเพื่ออย่างอื่นบ้าง ทำให้คนอื่นไม่มีทางเลือกน่ะ และเมื่อถึงเวลาที่ Martin Scorsese ติดต่อมา ฉันจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน”

 

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Lindsay Lohan กลับสู่วงการฮอลลีวูดอย่างสวยงามอีกครั้ง หลังพบมรสุมชีวิตใหญ่นานหลายปี โดยเธอได้แสดงภาพยนตร์ของ Netflix เรื่อง Our Little Secret ที่กลายเป็นภาพยนตร์ติดอันดับ Top 5 ที่มีคนดูมากที่สุดของแพลตฟอร์มเมื่อปีที่แล้ว และก่อนหน้านั้นยังมีผลงานเรื่อง Falling for Christmas อีกด้วย โดยขณะนี้เธอกำลังเดินสายโปรโมต Freakier Friday ที่เป็นภาคต่อจาก Freaky Friday ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2003

 

ภาพ:  Alan Chapman/Dave Benett/WireImage

อ้างอิง

The post Lindsay Lohan หงุดหงิดใจที่โดนจำกัดให้แสดงเพียงหนังคอเมดี้เท่านั้น appeared first on THE STANDARD.

]]>
Weapons จากคดีเด็กหายลึกลับที่อัดแน่นด้วยฉากจำชวนผวา https://thestandard.co/weapons-movie/ Tue, 12 Aug 2025 06:15:36 +0000 https://thestandard.co/?p=1106266 weapons

หนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญที่น่าจับตาที่สุดของปีนี้สำหรับ […]

The post Weapons จากคดีเด็กหายลึกลับที่อัดแน่นด้วยฉากจำชวนผวา appeared first on THE STANDARD.

]]>
weapons

หนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญที่น่าจับตาที่สุดของปีนี้สำหรับ Weapons ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ Zach Cregger ที่เคยสร้างความขวัญผวาให้ผู้ชมมาแล้วใน Barbarian (2022) กลับมาคราวนี้เขาจะพาผู้ชมไปร่วมไขคดีปริศนาที่บ้าคลั่งกว่าเดิม ตีบวกด้วยทัพนักแสดงมากฝีมือ นำโดย Julia Garner จาก The Fantastic Four: First Steps (2025), Josh Brolin จาก Dune (2021), Alden Ehrenreich จาก Hail, Caesar! (2016), Benedict Wong จาก Doctor Strange (2016), Austin Abrams จากซีรีส์ Euphoria (2019) และ Cary Christopher  

 

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น ณ เมืองเมย์บรู๊คที่เกิดคดีเด็กประถมจำนวน 17 คนที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกัน หายตัวไปพร้อมกันอย่างเป็นปริศนาในเวลาตี 2.17 นาที หลักฐานที่พบมีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นเด็กวิ่งออกจากบ้านไปที่ไหนสักแห่ง Justine (Julia Garner) ครูประจำชั้นของนักเรียนที่หายตัวไปจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญของคดีนี้ และยังมี Alex นักเรียนเพียงคนเดียวในห้องที่ไม่ได้หายตัวไปเหมือนคนอื่น เรื่องราวการไขคดีปริศนาที่ยิ่งขุดลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งเต็มไปด้วยความลับดำมืดจึงเริ่มต้นขึ้น 

 

 

ก่อนที่ผู้เขียนจะตีตั๋วไปชม Weapons เราเห็นเพจภาพยนตร์หลายเพจแนะนำว่าควรไปดูเรื่องนี้โดยที่ไม่ทราบอะไรมาก่อน เราจึงตัดสินใจไม่หาข้อมูลหรือดูตัวอย่างเลยก่อนเข้าโรง รู้เพียงว่านี่คือผลงานของผู้กำกับ Barbarian (ซึ่งทำให้เราพอจะนึกภาพคร่าวๆ ออกบ้างว่าภาพรวมของเรื่องจะเป็นประมาณไหน) ซึ่งผลลัพท์ที่ได้คือทุกฉากทุกตอนที่ผู้กำกับและทีมสร้างต้องการให้เราลุ้นระทึก ชวนสงสัย และเซอร์ไพรส์ มันทำงานกับเราได้ดีอย่างที่ผู้กำกับต้องการ จนเราสามารถกล่าวได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากจำที่ติดตาเราชนิดเอาออกจากหัวไม่ได้อยู่หลายฉากทีเดียว

 

จุดเด่นข้อหนึ่งของ Barbarian คือการเล่าเรื่องที่กระชับฉับไว ไม่มีการเกริ่นนำอะไรให้มากความ เหมือนจู่ๆ ผู้ชมก็ถูกโยนเข้าไปอยู่ในบ้านเช่ากับหญิงสาวแปลกหน้าแล้วปล่อยให้เราค่อยๆ ไปพบเจอและปะติดปะต่อเรื่องราวไปพร้อมกับตัวละคร อยากรู้ว่าผู้หญิงที่มาเช่าบ้านคนนี้เป็นใคร ผู้ชายที่มาก่อนหน้าเธอเป็นคนดีหรือร้ายกันแน่ แล้วที่มาของบ้านหลังนี้มันเป็นยังไง 

 

ซึ่งการเปิดเรื่องที่ไม่บอกรายละเอียดและเต็มไปด้วยคำถามแบบนี้ก็ช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้เราอยากติดตามเรื่องราวต่อในทันที ประกอบกับฝีมือการกำกับของ Zach Cregger ที่สร้างบรรยากาศให้เรารู้สึกไม่น่าไว้วางใจอยู่ตลอดเวลาและค่อยๆ ไต่ระดับความระทึกไปได้เรื่อยๆ ไม่มีตก ก็ยิ่งทำให้เรื่องราวของ Barbarian ที่ดูเหมือนจะเป็นเหตุการณ์เล็กๆ ในบ้านหลังหนึ่ง กลายเป็นเรื่องราวที่ชวนขวัญผวาแต่ก็น่าติดตามไปพร้อมกัน

 

และดูเหมือนว่าใน Weapons ผู้กำกับและทีมสร้างจะหยิบนำจุดเด่นของ Barbarian มายกระดับให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมทั้งในแง่เนื้อเรื่องและการนำเสนอ 

 

 

 

Weapons ยังคงเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่โดดเด่นด้วยฉากสุดสยองที่เต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนเช่นเดียวกับ Barbarian เพียงแต่ถูกขยับขยายให้มีลูกเล่นมากขึ้นตามสเกลของเรื่องที่ใหญ่ขึ้น และสิ่งที่เข้ามาช่วยยกระดับความสยองเหล่านั้นให้โดดเด่นและน่าจดจำคือการสร้างเหตุการณ์ ‘แปลกๆ’ ที่ทำให้เราคนดูรู้สึกสงสัยว่าสิ่งที่ตัวละครกำลังเจอมันคืออะไรกันแน่ เป็นวิญญาณที่มองไม่เห็น เป็นปีศาจร้าย เป็นมนุษย์ที่ถูกเข้าสิง หรือเป็นมนุษย์จริงๆ การสร้างความสับสนและชวนให้ผู้ชมสงสัยเหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้บรรยากาศของเรื่องดูไม่น่าไว้วางใจตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากๆ ของภาพยนตร์แนวนี้ 

 

ส่วนสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาจากความสยองคือเรื่องราวการสืบสวนคดีปริศนาที่สลับซับซ้อน โดยแบ่งการเล่าเรื่องออกเป็นบท แต่ละบทแทนมุมมองของตัวละครต่างๆ ที่ทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับคดีเด็กหาย ไล่เรียงตั้งแต่ครูประจำชั้นอย่าง Justine ที่เป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกๆ หรือมุมของ Archer พ่อของหนึ่งในเด็กที่หายตัวไปที่พยายามไล่ตามหาเบาะแสด้วยตัวเอง ไปจนถึงตัวละครที่ตอนแรกๆ เหมือนจะเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นตัวละครที่เชื่อมเหตุการณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันซะอย่างนั้น 

 

ซึ่ง Zach Cregger ก็ไม่ได้เล่าด้วยท่าทีปกติทั่วไป แต่เป็นการเล่าโดยไม่ได้บอกเราตรงๆ ว่าเหตุการณ์ของใครเกิดก่อน-หลัง เรื่องราวของแต่ละตัวละครจึงเป็นเหมือนจิ๊กซอร์ชิ้นเล็กๆ ที่เราต้องค่อยๆ ตามเก็บไปเรื่อยๆ เพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวว่าอะไรเป็นยังไง แต่ไม่ได้ซับซ้อนเกินไปจนเราตามเรื่องราวไม่ทัน

 

ในแง่หนึ่งมันก็มีข้อสังเกตเล็กๆ ตรงที่เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงช่วงใกล้จบ เราเริ่มเก็บชิ้นส่วนได้มากขึ้น เริ่มปะติดปะต่อและคาดเดาเรื่องราวได้มากขึ้น มันก็ทำให้ฉากที่ภาพยนตร์เปิดเผยต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้เราเท่าไรนัก แต่เปลี่ยนเป็นการอยากรู้ว่าสุดท้ายบทสรุปของตัวละครเหล่านี้จะไปจบที่ตรงไหนมากกว่า 

 

 

 

อีกหนึ่งจุดเด่นที่เราคิดว่าผู้กำกับและทีมสร้างนำเสนอมาได้ดีไม่แพ้กัน (และน่าจะเป็นจุดที่ผู้กำกับพยายามตีบวกให้ดีขึ้นจาก Barbarian) คือเรื่องราวของตัวละครที่ไม่ได้เป็นเพียงจิ๊กซอร์ให้เรารวบรวมเพื่อหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังคดีปริศนาเท่านั้น แต่พวกเขายังมีเรื่องราวที่ชวนให้เราอยากทำความรู้จักไม่แพ้กัน

 

ทั้งบทบาทของ Justine ครูประจำชั้นที่จู่ๆ เธอก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง เธอจึงต้องแบกรับแรงกดดันและความเกลียดชังจากผู้ปกครองอย่างหลีกเลี้ยงไม่ได้ จนกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เธอพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อหาความจริงที่เกิดขึ้น หรือ Archer พ่อที่ต้องจมอยู่กับความเศร้าและวิตกกังวลที่จู่ๆ ลูกของเขาก็หายตัวไป ไม่รู้ชะตากรรมว่ายังมีชีวิตอยู่รึเปล่า แถมตำรวจเองก็ดูจะไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย เขาจึงอาจเป็นตัวแทนของผู้ปกครองที่มองไปทางไหนก็ไม่เห็นความหวัง เขาจึงเลือกที่จะหาคำตอบนั้นด้วยตัวเอง

 

รวมถึง Alex เด็กหนุ่มที่แม้ช่วงแรกจะเต็มไปด้วยปริศนามากมาย แต่พอภาพยนตร์พาเราไปสำรวจเรื่องราวผ่านมุมมองของเขา ได้เห็นและเข้าใจความรู้สึกที่เขาต้องแบกรับ มันก็ส่งให้เขากลายเป็นตัวละครที่เราเอาใจช่วยมากที่สุดไปในทันที  

 

ส่วนตัวละครที่สร้างเซอร์ไพรส์และภาพจำให้เรามากที่สุดเห็นจะเป็นครูใหญ่ Andrew ที่รับบทโดย Benedict Wong ขอสารภาพตามตรงว่าในช่วงแรกๆ เรายังแอบติดภาพของเขาในบทฮีโร่จอมเวทย์จากจักรวาล MCU อยู่ แต่พอเรื่องราวดำเนินมาถึงเส้นเรื่องของเขา Benedict Wong และผู้กำกับก็ทลายภาพจำที่เราคุ้นเคยได้อย่างราบคาบ แถมฉากสำคัญของเขายังเป็นหนึ่งในฉากที่ทำให้เราเหวอจนอุทานว่า ‘อะไรเนี่ย’ ไปหลายวิเลยทีเดียว

 

 

ในภาพรวมแล้ว Weapons เป็นอีกหนึ่งผลงานจากผู้กำกับ Zach Cregger ที่สร้างความลุ้นระทึกชวนขวัญผวาให้กับเราได้ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะการสร้างบรรยากาศที่ดูไม่น่าไว้วางใจ ขณะเดียวกันเรื่องราวการไขคดีปริศนาก็ถูกนำเสนอมาได้น่าติดตาม อาจจะมีแค่ช่วงท้ายที่เราพอจะเริ่มจับทางได้แต่ก็ยังสามารถสร้างความตื่นเต้นให้เราได้จนจบ รวมถึงเหล่าตัวละครที่ต่างก็มีเรื่องราวที่น่าติดตามและมีฉากจำของตัวเองทุกคน 

 

Weapons เข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

Weapons รับชมตัวอย่างได้ที่

 

 

 

ภาพ: Warner Bros.

The post Weapons จากคดีเด็กหายลึกลับที่อัดแน่นด้วยฉากจำชวนผวา appeared first on THE STANDARD.

]]>
Lindsay Lohan เข้ากับเหล่านักแสดง Mean Girls ได้ยากด้วยจากวัยที่ต่างกัน https://thestandard.co/lindsay-lohan-mean-girls-age-gap/ Mon, 11 Aug 2025 08:52:41 +0000 https://thestandard.co/?p=1106154

Lindsay Lohan เล่าย้อนถึงความสัมพันธ์เบื้องหลังของเหล่า […]

The post Lindsay Lohan เข้ากับเหล่านักแสดง Mean Girls ได้ยากด้วยจากวัยที่ต่างกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>

Lindsay Lohan เล่าย้อนถึงความสัมพันธ์เบื้องหลังของเหล่านักแสดงนำภาพยนตร์เรื่อง Mean Girls ซึ่งเธอพบว่าตัวเองเข้ากับผู้อื่นได้ยาก เนื่องด้วยวัยที่แตกต่างกัน

 

ในภาพยนตร์ตลกร้ายสุดไอคอนิกเรื่อง Mean Girls ที่เปิดตัวเมื่อปี 2004 ทาง Lindsay Lohan ในวัย 17 ปี ได้ร่วมงานกับ Rachel McAdams นักแสดงสาววัย 25 ปีที่กำลังมาแรงในเวลานั้นผู้มารับบทเป็นควีนบีแห่งไฮสคูล ในขณะที่อีกสองนักแสดงผู้รับบทเป็นลูกสมุนแก๊งพลาสติกอย่าง Amanda Seyfried กับ Lacey Chabert มีอายุ 17 ปี และ 21 ปีตามลำดับ ซึ่ง Lindsay Lohan เผยถึงการเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับเหล่าเพื่อนนักแสดงผ่าน The New York Times ว่า

 

“มันเป็นเรื่องยากเพราะ Rachel McAdams อายุมากกว่าฉันเยอะเลย ตอนนั้นฉันยังเรียนอยู่ ส่วน Amanda กับ Lacey ก็แฮงเอาต์และเป็นเพื่อนกันไปแล้ว มันจึงยากสำหรับฉันที่จะรู้ว่าตัวเองเข้ากับตรงไหนกันแน่”

 

การพูดคุยถึงประเด็นนี้เกิดขึ้นเมื่อ Lindsay Lohan และนักแสดงภาพยนตร์ Freakier Friday อันเป็นภาคต่อจาก Freaky Friday ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2003 ได้ร่วมให้สัมภาษณ์กันที่ The New York Times โดย Lindsay Lohan ที่ปัจจุบันอยู่ในวัย 39 ปี บอกกับ Julia Butters วัย 16 ปี กับ Sophia Hammons วัย 18 ปีที่มารับบทเป็น ‘ว่าที่พี่น้องต่างพ่อและแม่’ ในเรื่องว่า “พวกเธอโชคดีที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน” ซึ่งนักแสดงรุ่นใหม่ทั้งสองก็เผยด้วยว่าพวกเธอกลายเป็นเพื่อนสนิทนอกจอกันไปแล้วจริงๆ หลังจากที่ทำงานด้วยกันทุกวัน และทั้งสองยังมีความผูกพันกับทั้ง Lindsay Lohan และ Jamie Curtis อีกด้วย

 

ภาพ: Paramount Pictures

 

อ้างอิง:

The post Lindsay Lohan เข้ากับเหล่านักแสดง Mean Girls ได้ยากด้วยจากวัยที่ต่างกัน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Matthew McConaughey พลาดบท Jack ใน Titanic เพราะเขาปฏิเสธที่จะละทิ้งสำเนียงเดิม https://thestandard.co/mcconaughey-titanic-role-accent/ Sat, 09 Aug 2025 07:49:03 +0000 https://thestandard.co/?p=1105629

Jon Landau โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง Titanic เคยเขียนหน […]

The post Matthew McConaughey พลาดบท Jack ใน Titanic เพราะเขาปฏิเสธที่จะละทิ้งสำเนียงเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>

Jon Landau โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง Titanic เคยเขียนหนังสือบันทึกความทรงจำก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ซึ่งในบันทึกนั้นพูดถึงช่วงเวลาของการทำงานในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมทั้งประเด็นที่ว่านักแสดงมากฝีมืออย่าง Matthew McConaughey เคยเกือบได้รับบท Jack Dawson แต่เขาพลาดไป เพราะเขาไม่ยอมทิ้งสำเนียงอเมริกันทางตอนใต้

 

ตามบันทึกนี้ระบุว่า Kate Winslet ผู้รับบท Rose ประทับใจในตัวเขา ทั้งในเรื่องการแสดง ความมีเสน่ห์ และเคมีก็ไปด้วยกันได้ดี แต่สำเนียงของเขากลับไม่ถูกใจผู้กำกับอย่าง James Cameron

 

โดยในขณะที่พวกเขากำลังอ่านบทออดิชันกันอยู่ ผู้กำกับบอกเขาให้ลองพูดด้วยสำเนียงอื่นๆ ว่า “แบบนี้เยี่ยมเลย ตอนนี้มาลองแสดงอีกแบบหนึ่งดูนะ” แต่เขากลับตอบว่า “ไม่นะ แบบนั้นก็ดีแล้ว ขอบคุณมาก” ซึ่งหลังจากที่โปรดิวเซอร์ได้ยินประโยคนั้น เขาก็เขียนไว้ในบันทึกนี้ว่า “พูดได้เลยว่านั่นคือจุดจบของ McConaughey”

 

สุดท้ายแล้ว บทของ Jack จึงตกเป็นของนักแสดง Leonardo DiCaprio และกลายเป็นบทในตำนานที่ผู้คนทั่วโลกหลงรัก ซึ่งตัวนักแสดง Matthew McConaughey ก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะในช่วงเวลานั้นเขาก็ได้รับบทใหญ่ในภาพยนตร์หลายเรื่อง

 

แต่เขาก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์ออดิชันในภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อนกับรายการพอดแคสต์ Literally! with Rob Lowe เมื่อปี 2021 พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เคยได้รับข้อเสนอบทนี้เลย แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าเขาได้บท แต่เขาเลือกปฏิเสธเองก็ตาม

 

“ผมไปอ่านบทกับ Kate Winslet ซึ่งมันไม่ใช่แบบการออดิชันทั่วไป มันจริงจังมากจนเหมือนการทดสอบหน้ากล้อง ละพอเราเดินออกมา ทีมงานก็เดินออกมาด้วย พอมาถึงปุ๊บ เขาก็บอกว่า มันเยี่ยมมากเลย ถึงขั้นกอดกันเลยนะ ผมคิดจริงๆ ว่าต้องได้แน่ แต่มันไม่เกิดขึ้นเลย”

 

ภาพ: Andreas Rentz/Getty Images

 

อ้างอิง:

The post Matthew McConaughey พลาดบท Jack ใน Titanic เพราะเขาปฏิเสธที่จะละทิ้งสำเนียงเดิม appeared first on THE STANDARD.

]]>
GDH เปิดตัว 5 โปรเจกต์ใหม่ จับตา ณเดชน์-มินนี่ (i-dle) ในภาพยนตร์ตีความใหม่จาก 50 First Dates https://thestandard.co/gdh-announces-5-new-projects/ Fri, 08 Aug 2025 11:33:20 +0000 https://thestandard.co/?p=1105427

ส่งข่าวดีให้แฟนหนังได้ตั้งตารอกันแล้วในวันนี้ วันนี้ (8 […]

The post GDH เปิดตัว 5 โปรเจกต์ใหม่ จับตา ณเดชน์-มินนี่ (i-dle) ในภาพยนตร์ตีความใหม่จาก 50 First Dates appeared first on THE STANDARD.

]]>

ส่งข่าวดีให้แฟนหนังได้ตั้งตารอกันแล้วในวันนี้ วันนี้ (8 กรกฎาคม) สำหรับ GDH ที่ได้จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์ 5 เรื่องร้อนรับฤดูกาลใหม่ ที่เตรียมให้ผู้ชมได้จับตารอชมกันตลอดปี 2026 ภายใต้ชื่อ GDH CIRCLES Connecting SEASON ‘วันเพิ่มเพื่อน’ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 

 

ประเดิมที่เรื่องแรก HUMAN RESOURCE โดย GDH ร่วมสร้างกับ One cool connect และ JAI Studio ภาพยนตร์ดราม่าว่าด้วยการสำรวจชีวิตมนุษย์ยุคปัจจุบันของหญิงสาวฝ่าย HR คนหนึ่งผ่านการสัมภาษณ์งานบุคคลหลากหลาย เพื่อหา ‘คนนั้น’ มาทำงานในบริษัทของเธอ

 

ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจาก เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ที่เพิ่งได้รับเลือกให้เปิดตัวฉายในรอบปฐมทัศน์โลก World Premiere โดยเป็นภาพยนตร์ที่เข้าฉายในสาย Orizzonti Competition ซึ่งเป็นหนึ่งในสายประกวดหลัก ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิซครั้งที่ 82 (Venice International Film Festival) ซึ่งจะจัดขึ้นที่ Lido di Venezia ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม ถึง 6 กันยายนนี้ นำแสดงโดย เอิงเอย-ประภามณฑล เอี่ยมจันทร์, เพชร-เผ่าเพชร เจริญสุข, อะตอม-ชนกันต์ รัตนอุดม, พิมมา-พิมพ์มาดา ใจสักเสริญ (พิมมา PiXXiE)

 

 

ต่อเนื่องที่ GOHAN ภาพยนตร์เรื่องแรกที่จัดทำขึ้นในนามบริษัท BASK ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ กับ GDH อีกทั้งยังเป็นการร่วมมือกันของ 3 ผู้กำกับในเรื่องเดียว ได้แก่ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ, หมู ชยนพ บุญประกอบ และ อัตต้า-อัตตา เหมวดี

 

GOHAN จะเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสุนัขจรจัด 1 ตัว ใน 3 ช่วงเวลาชีวิต ที่ผู้กำกับแต่ละคนจะนำจุดเด่นและความแตกต่างในแต่ละช่วงเวลาที่ทั้งอิ่มหรืออด สุขหรือทุกข์ หรือแม้กระทั่งการพบเจอและการพลัดพรากมารวมเข้าไว้ด้วยกัน โดยมี วัน-วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ และ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์

 

 

ตามมาด้วยภาพยนตร์ Inherit ที่ดัดแปลงจากบทประพันธ์ ทายาทอสูร โดยจะเป็นการตีความคุณยายวรนาฏใหม่เพื่อให้เข้ากับยุค 2026 กำกับและโปรดิวซ์โดย โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล โปรดิวซ์ร่วมโดย ตั้ม-วีรชัย ใหญ่กว่าวงศ์ นำแสดงโดย ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่

 

โต้ง บรรจง ได้กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ว่า “เรื่องนี้เป็นความทรงจำในวัยเด็ก เป็นละครที่โด่งดังมาก คิดว่ามันไอคอนิกมากๆ สำหรับคนไทย ผมสนใจอยากทำเรื่องนี้มาเป็นหนังหลายปีแล้ว ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้สามารถตีความใหม่ได้หลายแง่มุมมาก”

 

 

เข้าสู่ภาพยนตร์รักด้วยภาพยนตร์โรแมนติกในตำนานที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคนอย่าง “50 First Dates” ที่จะถูกนำมาตีความใหม่ในแบบฉบับของ GDH ร่วมกับ Sony Pictures Entertainment โดยฝีมือผู้กำกับ เมษ-ธราธร โดยมี วัน-วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์, เก้ง-จิระ มะลิกุล, เมษ-ธราธร และ สุย-สุวิมล เตชะสุปินัน รับหน้าที่ฌปรดิวเซอร์ นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ และ มินนี่-ณิชา ยนตรรักษ์ หรือ มินนี่ นักร้องสัญชาติไทยจากวง K-pop เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง i-dle

 

 

ปิดท้ายที่ภาพยนตร์ ดีว่า..ราวี ภาพยนตร์คอมเมดี้ที่เรื่องราวการห้ำหั่นกลางสมรภูมิคอนเสิร์ต ระหว่าง ‘ดีว่าสองล้านตลับ’ ที่หวนกลับมาจับไมค์พ่นไฟใส่ ‘แก๊งนักร้องไอดอลผู้ทรงอิทธิพลของวัยรุ่น GEN Z’ กำกับโดย ไตเติ้ล-กิตติภัค ทองอ่วม และได้ เดียว-วิชชพัชร์ โกจิ๋ว และ สุย-สุวิมล เตชะสุปินัน รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์

 

ดีว่า..ราวี นำแสดงโดย แจ็คกี้-ชาเคอลีน มึ้นช์, นุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์, ปิงปอง-ธงชัย ทองกันทม และ นินิว เพชรด่านแก้ว พร้อมกำหนดวันเข้าฉาย 10 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

เซอร์ไพรส์ยังไม่หมด GDH ยังปิดท้ายกับการประกาศเตรียมจัดคอนเสิร์ตครบรอบ 10 ปี GDH “โตไปด้วยกันคอนเสิร์ต” ที่เชื่อว่าฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะถึงนี้ แฟนผลงานภาพยนตร์ของ GDH จะเต็มอิ่มไปกับเดินทางของทั้ง 5 ภาพยนตร์และหนึ่งคอนเสิร์ตใหม่ตลอดปี 2026

 

แฟนๆ สามารถรอติดตามความเคลื่อนไหวของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง รวมถึงคอนเสิร์ตใหญ่จาก GDH ได้ที่ Facebook: GDH

The post GDH เปิดตัว 5 โปรเจกต์ใหม่ จับตา ณเดชน์-มินนี่ (i-dle) ในภาพยนตร์ตีความใหม่จาก 50 First Dates appeared first on THE STANDARD.

]]>
ท่าแร่ เปิดจักรวาลคู่หูปราบปีศาจต่างความเชื่อที่รวมกันแล้วมีเสน่ห์ https://thestandard.co/tha-rae-horror-movie-review/ Fri, 08 Aug 2025 09:45:35 +0000 https://thestandard.co/?p=1105347 ฉากบาทหลวงและแม่โสภาในภาพยนตร์ ท่าแร่ สยองขวัญไทย

ท่าแร่ ภาพยนตร์สยองขวัญไอเดียเจ๋งจากผู้กำกับ คุ้ย-ทวีวั […]

The post ท่าแร่ เปิดจักรวาลคู่หูปราบปีศาจต่างความเชื่อที่รวมกันแล้วมีเสน่ห์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ฉากบาทหลวงและแม่โสภาในภาพยนตร์ ท่าแร่ สยองขวัญไทย

ท่าแร่ ภาพยนตร์สยองขวัญไอเดียเจ๋งจากผู้กำกับ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา เจ้าของผลงานระดับปรากฏการณ์อย่าง ธี่หยด ทั้งสองภาค กับเรื่องราวของหนึ่งบาทหลวงและหนึ่งหมอผีที่มีความเชื่อต่างกัน แต่ต้องมาร่วมมือกันปราบปีศาจร้ายที่ยากจะต่อกร โดยได้สองนักแสดงหนุ่ม เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข จาก มาตาลดา (2560) และ มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร จากภาพยนตร์ชุด พี่นาค มาร่วมรับบทนำ พร้อมด้วย เอก-ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ จากซีรีส์ สงคราม ส่งด่วน (2568), แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ จาก เทอม 3 (2567), เอี้ยง-สวนีย์ นาวินธนันท์ชัย จาก ร่างทรง (2564) และนักแสดงเจ้าประจำอย่าง แฉะ-องอาจ เจียมเจริญพรกุล จาก ธี่หยด ทั้งสองภาค 

 

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น ณ ชุมชนท่าแร่ จังหวัดสกลนคร สถานที่ที่มีผู้นับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศไทย ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านท้องถิ่นที่มีความเชื่อเรื่องภูติผีและคาถาอาคมอยู่เช่นกัน 

 

วันหนึ่ง ตามิ่ง (เอก-ธเนศ วรากุลนุเคราะห์) อดีตบาทหลวงโดนปีศาจร้ายที่เคยถูกปราบไปเมื่อ 40 ปีก่อนเข้าสิงและสร้างความขวัญผวาไปทั่วชุมชน ชาวบ้านจึงเรียกตัว แม่เมืองโสภา (มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร) หมอเหยาหนุ่มผู้ใช้คาถาอาคมในการสื่อสารกับภูติผีและขับไล่สิ่งชั่วร้ายตามความเชื่อดั้งเดิมของภาคอีสาน มาช่วยจัดการ ขณะเดียวกันทางคริสตจักรก็ได้ส่ง บาทหลวงเปาโล (เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข) ผู้เชี่ยวชาญในการปราบปีศาจมาช่วยติดตามสถานการณ์ แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะย่ำแย่กว่าเดิม เมื่อ มาลี (แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์) ลูกสาวของตามิ่งที่เดินทางจากกรุงเทพฯ กลับถูกปีศาจร้ายเข้าสิงไปอีกคน แม่โสภาและบาทหลวงเปาโล จึงต้องหาทางหยุดยั้งปีศาจร้ายเพื่อช่วยชีวิตมาลีและผู้คนในชุมชนให้สำเร็จ

 

  

 

จุดเด่นอย่างหนึ่งในผลงานของผู้กำกับคุ้ย ทวีวัฒน์ ที่ผู้เขียนชื่นชอบคือบรรดาฉากแสดงอิทธิฤทธิ์ของเหล่าผีและปีศาจที่นอกจากจะสร้างความขวัญผวาให้กับเราได้ดีแล้ว มันยังถูกสร้างสรรค์และนำเสนอได้อย่างมีเสน่ห์และเสริมให้ตัวละครน่าจดจำ เริ่มตั้งแต่ ผีชุดดำ จาก ธี่หยด ที่มีอำนาจในการสร้างภาพหลอนเพื่อล่อลวงจิตใจของเหยื่อ หรือจะเป็น บุษบา จาก Attack วิญญาณเลขที่ 13 กับฉากไล่ล่าเหล่าเพื่อนนักเรียนในช่วงท้ายที่เต็มไปด้วยลูกล่อลูกชน 

 

สำหรับ ท่าแร่ ก็ยังเป็นผลงานของคุ้ย ทวีวัฒน์ ที่โดดเด่นมากๆ ในด้านการนำเสนอฉากสุดสยองที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ โดยหนึ่งในฉากที่เราชอบมากๆ คือฉากที่บาทหลวงเปาโลพยายามท่องคาถาขับไล่ปีศาจเพื่อช่วยเหลือมาลี แต่เขากลับถูกควบคุมจิตใจให้ตกอยู่ในอดีตอันเจ็บปวด หรือจะเป็นฉากแม่โสภาทำพิธีสื่อสารกับผีเพื่อขับไล่ปีศาจร้าย ที่มีการใช้เครื่องดนตรีอีสานควบคู่กับการร่ายรำและท่องคาถาที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังและชวนขนลุกในเวลาเดียวกัน

 

 

อีกเรื่องที่ภาพยนตร์นำเสนอได้ดีไม่แพ้กันคือสองตัวละครหลักอย่าง บาทหลวงเปาโลและแม่โสภาที่ เจมส์ จิรายุ และ มีน พีรวิชญ์ ถ่ายทอดบทบาทของตัวเองได้อย่างมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ทั้งบาทหลวงเปาโลที่มีความสุขุมรอบคอบ ยึดมั่นในความเชื่อที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า ไม่หวาดกลัวกับปีศาจร้ายตรงหน้า แต่ภายในกลับกำลังแบกรับอดีตบางอย่างไว้ ส่วนแม่โสภาที่นอกจากจะมีความเชื่อต่างจากบาทหลวงเปาโลแล้ว เขายังมีนิสัยที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับบทบาทหมอเหยาที่ดูเป็นกันเอง เข้าถึงได้ไม่ยาก แถมยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่พร้อมขายของให้ลูกค้าชนิดคุ้มค่าจ้าง แม้เขาจะยังหวาดกลัวเวลาเผชิญหน้ากับผีอยู่บ้าง แต่เมื่อเริ่มทำพิธีเขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองแบบไม่มีถอยเช่นกัน 

 

ขณะเดียวกันความแตกต่างเหล่านี้ยังช่วยเสริมให้เคมีของพวกเขามีเสน่ห์มากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นฉากสนทนาที่พวกเขาต้องหาทางจัดการกับปีศาจร้าย หรือจะเป็นฉากเผชิญหน้ากับปีศาจในช่วงท้ายเรื่อง จนเราอยากเห็นว่าหากเรื่องราวของทั้งคู่ได้ถูกนำไปขยับขยายเป็นภาพยนตร์ภาคต่อคงน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องราวฝั่งของแม่โสภาที่ยังมีช่องว่างให้ทีมสร้างนำไปต่อยอดได้อีก 

 

ฉากบาทหลวงและแม่โสภาในภาพยนตร์ ท่าแร่ สยองขวัญไทย

 

อีกหนึ่งเรื่องที่เราอยากชื่นชมคือทีมสร้างค่อนข้างผสมผสานสองความเชื่อระหว่างศาสนาคริสต์และความเชื่อเรื่องภูติผีดั้งเดิมในแถบภาคอีสานออกมาได้ลงตัว เพราะต้องยอมรับว่าการหยิบเรื่องราวของสองความเชื่อที่แตกต่างกันมาเล่าดูจะมีความละเอียดอ่อนพอสมควร ซึ่งผู้กำกับและทีมสร้างก็บาลานซ์และนำเสนอรายละเอียดของสองความเชื่อได้ดี ไม่มีฝั่งไหนที่ดูมากหรือน้อยไปกว่ากัน 

 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของหมอเหยาที่ถูกเล่าผ่านบทสนทนาระหว่างแม่โสภาและบาทหลวงเปาโล รวมถึงการฉายภาพของชุมชนท่าแร่ที่เสมือนเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญของเรื่อง ทั้งฉากในโบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลที่ใหญ่โตสวยงาม หรือการพาเราไปชมงานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส หนึ่งในเทศกาลสำคัญของชุมชนท่าแร่ที่จะจัดขึ้นในช่วงคริสต์มาสที่ชวนให้ผู้ชมเดินทางไปตามรอยดูสักครั้ง

 

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ท่าแร่ จะโดดเด่นมากๆ ในแง่ของการสร้างสรรค์ฉากสยองขวัญและเคมีที่เข้ากันของสองตัวละครหลัก แต่ภาพยนตร์ก็มีข้อสังเกตที่น่าเสียดายอยู่เช่นกัน 

 

ข้อแรกคือแม้เนื้อเรื่องในช่วงแรกถูกปูมาน่าติดตาม แต่พอผ่านไปเรื่อยๆ มันกลับดูธรรมดาลงซะอย่างนั้น เนื่องจากประเด็นหลักของเรื่องว่าด้วยการค้นหาต้นตอของปีศาจร้ายที่มาเข้าสิงตามิ่งและมาลีเพื่อหาทางปราบมันให้สำเร็จ แต่ภาพยนตร์กลับนำเสนอเรื่องราวการสืบหาความจริงของบาทหลวงเปาโลและแม่โสภาได้ไม่โดดเด่นนัก เพราะส่วนใหญ่แล้วภาพยนตร์มักจะเฉลยปมปัญหาต่างๆ ผ่านบทสนทนาของตัวละคร มากกว่าการฉายภาพให้เราเห็นขั้นตอนหรือวิธีการสืบสวนของบาทหลวงเปาโลและแม่โสภา เหมือนเราเดินตามและฟังสองตัวละครนี้คุยกันไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆ ก็บังเอิญไปเจอเฉลยอย่างง่ายๆ ซะงั้น 

 

ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่านี่คือแผลใหญ่ของเรื่องเพราะมันคือเส้นเรื่องหลักที่ดำเนินให้เรื่องราวไปข้างหน้า แถมพอถึงจุดที่ภาพยนตร์เฉลยปมปัญหาสำคัญมันก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเซอร์ไพรส์อะไรนัก มันจึงส่งผลให้เส้นเรื่องการสืบหาความจริงตรงนี้ดูธรรมดา ไม่น่าติดตาม กลายเป็นว่าสิ่งที่ทำให้เราพอจะตามเรื่องราวต่อไปได้จนจบคือสองตัวละครหลักที่ถูกออกแบบมาได้ค่อนข้างดี

 

อีกหนึ่งข้อสังเกตที่เชื่อมโยงกับข้อแรกคือเส้นเรื่องของตัวปีศาจและครอบครัวตามิ่งและมาลีก็ดูธรรมดาเช่นกัน ย้อนกลับไปในเรื่อง ธี่หยด สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากๆ คือเรื่องราวของครอบครัวตัว ย. ที่ถูกนำเสนอมาได้แข็งแรง ทั้งความขัดแย้งและความผูกพันของสมาชิกในครอบครัว หรือจะเป็นปมปัญหาที่เชื่อมโยงกับตัวละคร ผีชุดดำ ซึ่งเสริมให้ผู้ชมผูกพันและอยากเอาใจช่วยครอบครัวนี้ให้ปลอดภัย

 

ตัดสลับมาที่ครอบครัวของตามิ่งและมาลี เรากลับไม่ค่อยเห็นความสัมพันธ์ของพวกเขาเท่าไร ทั้งปมปัญหาของพ่อลูกที่ถูกเล่าให้เราพอเห็นภาพหรือประวัติของตามิ่งที่ตัวภาพยนตร์พยายามจะทำให้ดูมีปริศนา แต่มันกลับดูธรรมดาจนเราไม่รู้สึกน่าติดตามเท่าไร จนมีหลายช่วงที่เราคิดว่าภาพยนตร์สามารถตัดทอนบางช่วงออกไปและเพิ่มฉากสยองขวัญหรือรายละเอียดการสืบสวนของบาทหลวงเปาโลและแม่โสภาก็น่าจะช่วยให้ภาพรวมของภาพยนตร์น่าติดตามขึ้น  

 

ซึ่งข้อสังเกตเหล่านี้ก็ส่งผลไปถึงฉากสุดท้ายของเรื่อง แม้เราจะกล่าวไว้ในช่วงต้นว่าภาพยนตร์นำเสนอฉากแสดงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจออกมาได้ดี แต่นั่นคือฉากในช่วงแรกและกลางเรื่องเท่านั้น พอตัวเนื้อเรื่องระหว่างทางที่ควรจะบิลด์อารมณ์ของผู้ชมเพื่อนำไปสู่ฉากจบกลับดูธรรมดาและไม่น่าติดตาม มันจึงทำให้ฉากการเฉลยปมและการต่อสู้ระหว่างปีศาจกับบาทหลวงเปาโลและแม่โสภานั้นดูไม่อิมแพ็กต์อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งในแง่เรื่องราวของตัวละครหรือจะเป็นบทสรุปของเรื่องก็ตาม

 

 

ในภาพรวมแล้ว หากเทียบกับผลงานก่อนหน้าของคุ้ย ทวีวัฒน์ ส่วนตัวผู้เขียนอาจจะชอบ ธี่หยด และ Attack วิญญาณเลขที่ 13 มากกว่า แต่สำหรับ ท่าแร่ ก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจมากๆ ในแง่ของการออกแบบสองตัวละครหลักอย่างบาทหลวงเปาโลและแม่โสภาที่มีเสน่ห์แตกต่างกัน แต่เมื่อทั้งคู่มาอยู่ร่วมจอกันกลับยิ่งทำทั้งคู่มีเสน่ห์มากกว่าเดิม จนเราอยากเห็นเรื่องราวของพวกเขาได้รับการต่อยอดอีกในอนาคต  

 

ท่าแร่ เข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

รับชมตัวอย่างได้ที่: 

 

 

ภาพ: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

The post ท่าแร่ เปิดจักรวาลคู่หูปราบปีศาจต่างความเชื่อที่รวมกันแล้วมีเสน่ห์ appeared first on THE STANDARD.

]]>