Fashion – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 30 Jul 2025 11:55:12 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 Hermès เผยรายได้ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นถึง 8% รวมกว่า 3 แสนล้านบาท https://thestandard.co/hermes-half-year-2025-revenue-growth/ Wed, 30 Jul 2025 11:55:12 +0000 https://thestandard.co/?p=1101720 Hermès รายงานรายได้ครึ่งปีแรกปี 2025 เติบโต 8% จากยอดขายทั่วโลก

Hermès เปิดเผยรายได้ของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 […]

The post Hermès เผยรายได้ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นถึง 8% รวมกว่า 3 แสนล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
Hermès รายงานรายได้ครึ่งปีแรกปี 2025 เติบโต 8% จากยอดขายทั่วโลก

Hermès เปิดเผยรายได้ของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 กับรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นถึง 8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 8 พันล้านยูโรหรือราว 3 แสนล้านบาท

 

โดยตัวเลขรวมนี้มีผลมาจากยอดขายของบริษัทในไตรมาส 2 ก็พุ่งสูงถึง 3.9 พันล้านยูโร (1.4 แสนล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก ซึ่งรายงานครั้งนี้ก็ได้ระบุภูมิภาคที่มาแรงที่สุดได้แก่ประเทศญี่ปุ่น กับยอดขายที่เพิ่มขึ้น 16% ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีตัวเลขเพิ่มมากที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย ที่มีการเติบโตอยู่ที่ 3% ในไตรมาส 2 ส่วนทวีปยุโรปที่ไม่รวมฝรั่งเศสมีการเติบโตอยู่ที่ 13% ตามด้วยอเมริกาอยู่ที่ 12% ซึ่งมากกว่าประเทศฝรั่งเศสเพียง 3% และสำหรับภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงตะวันออกกลางก็มีการเติบโตโดยรวมที่ 17%

 

ซึ่งการเติบโตครั้งนี้ เป็นผลมาจากร้านค้าเปิดใหม่ พร้อมกับอีเวนต์ที่แบรนด์ได้จัดขึ้น อย่างเช่นการกลับมาเปิดร้าน Hermès ในห้างสรรพสินค้า Central Embassy ในเดือนมกราคมที่ใหญ่ขึ้น หรืออีเวนต์ Hermès in the Making ในเซินเจิ้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

 

และเมื่อแยกยอดขายตามหมวดหมู่ของประเภทสินค้าและบริการ หมวดหมู่เครื่องหนังมีการเติบโตสูงสุดที่ 12% โดยส่วนใหญ่มาจากความสนใจในคอลเล็กชันกระเป๋าใหม่ อย่างกระเป๋า Faubourg Express, P’tit Arçon, Médor และ Bolide Messenger

 

ตามมาด้วยหมวดหมู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของแบรนด์ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องประดับและของใช้ในบ้าน กับยอดขายที่เพิ่มขึ้นที่ 10% โดยคอลเล็กชันเครื่องใช้ในบ้านที่เปิดตัวในงาน Salone del Mobile เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็เป็นส่วนหนึ่งในตัวเลขครั้งนี้ ส่วนกลุ่มเสื้อผ้าเรดี้ทูแวร์และเครื่องประดับเพิ่มขึ้น 6% ตามด้วยกลุ่มผ้าไหมและสิ่งทอที่เติบโต 4%

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีกลุ่มสินค้าที่มียอดขายที่ลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว จากกลุ่มน้ำหอมและสินค้าบิวตี้ที่ลดลง 4% และกลุ่มนาฬิกาที่ 8%

 

จากการรายงานครั้งนี้ Hermès ก็ถือเป็นบริษัทเดียวที่มีผลการขายในเชิงบวกภายในตลาดสินค้าลักซ์ชัวรี ซึ่งในปีนี้เอง Hermes ก็ได้นำเสนอส่วนแรกของคอลเลกชัน Fall/Winter 2025 สำหรับผู้หญิงในเดือนมีนาคมในงาน Paris Fashion Week ตามด้วยส่วนที่สองในเดือนมิถุนายนที่เซี่ยงไฮ้ รวมถึงการแสดงคอลเล็กชัน Summer 2026 สำหรับผู้ชายที่ปารีสในเดือนเดียวกัน

 

นอกจากนี้ แบรนด์ยังประกาศเมื่อต้นปีนี้ ถึงความตั้งใจในการเข้าร่วม Paris Haute Couture Week ภายในปี 2027 อีกด้วย

 

ภาพ: CFOTO/Future Publishing via Getty Images

อ้างอิง: 

The post Hermès เผยรายได้ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นถึง 8% รวมกว่า 3 แสนล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
รายได้ของ Kering ในครึ่งปีแรก 2025 ลดลง 15% อยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาท https://thestandard.co/kering-2025-half-year-revenue-drop/ Wed, 30 Jul 2025 06:43:34 +0000 https://thestandard.co/?p=1101712

สถานการณ์ทางการเงินของเครือลักซ์ชัวรีอย่าง Kering ยังคง […]

The post รายได้ของ Kering ในครึ่งปีแรก 2025 ลดลง 15% อยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

สถานการณ์ทางการเงินของเครือลักซ์ชัวรีอย่าง Kering ยังคงน่าเป็นห่วง หลังจากบริษัทเปิดเผยรายงานรายได้ของครึ่งปีแรกในปี 2025 ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีจำนวนที่หดตัวลงถึง 15% ด้วยตัวเลข 7,587 ล้านยูโร หรือราว 2.84 แสนล้านบาท

 

โดยรายได้ที่หายไปนี้ มีปัจจัยหลักมาจากแบรนด์ใหญ่ที่สุดในเครืออย่าง Gucci ที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องถึง 25% กับรายได้รวม 3,027 ซึ่งหายไปจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึงหนึ่งพันล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามทาง Kering ระบุว่ายังมีความหวังจากกระเป๋ารุ่น Giglio ที่ประสบความสำเร็จและช่วยพยุงยอดขายไว้ได้

 

ส่วนแบรนด์รองลงมาอย่าง Saint Laurent ก็ตามหลังมากับรายได้รวม 1,288 ล้านยูโร ลดลงมาจากเดิม 10% ซึ่งจากตัวเลขนี้มีรายได้หลักมาจากสินค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะเสื้อผ้าและรองเท้าผลงานการออกแบบของ Anthony Vaccarello ในช่วงไตรมาสที่สองของปี

 

ส่วนแบรนด์อื่น ๆ เช่น Balenciaga, Alexander McQueen, Brioni และ Boucheron ก็มีรายได้รวมที่ลงดลงอีก 14% มีเพียง Bottega Veneta เพียงแบรนด์เดียวในเครือที่ยังคงทำรายได้ในแดนบวกที่ 2% กับรายได้รวม 846 ล้านยูโร 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งในอีกไม่กี่เดือนเราก็จะได้เห็นผลงานใหม่ของ Louise Trotter ที่เป็นอีกหนึ่งเดบิวต์คอลเล็กชันเด่นของมิลานแฟชั่นวีกที่จะถึงนี้

 

กลับมาที่สองแบรนด์ใหญ่ที่เราคงต้องรอชมผลงานของทั้งดีไซเนอร์คนใหม่พร้อม ๆ กัน ทั้ง Demna ที่ Gucci หลังจากที่เพิ่งทิ้งทวนโชว์สุดท้ายในคอลเลเล็กชันกูตูร์ที่ Balenciaga ก่อนที่ Pierpaolo Piccioli จาก Valentino จะเข้ามารับช่วงต่อ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญของรายได้ในครึ่งปีหลังและปีต่อ ๆ ไป

 

ภาพ: Balenciaga

อ้างอิง: 

The post รายได้ของ Kering ในครึ่งปีแรก 2025 ลดลง 15% อยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
Emily Blunt เริ่มถ่ายทำ The Devil Wears Prada 2 ในชุดจาก Dior และ Jean Paul Gaultier https://thestandard.co/emily-blunt-devil-wears-prada-2/ Wed, 30 Jul 2025 05:16:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1101640 Emily Blunt สวมชุด Dior และ Jean Paul Gaultier เข้าฉาก The Devil Wears Prada 2

มีภาพออกมาให้เราเรื่อยๆ สำหรับภาพยนตร์ The Devil Wears […]

The post Emily Blunt เริ่มถ่ายทำ The Devil Wears Prada 2 ในชุดจาก Dior และ Jean Paul Gaultier appeared first on THE STANDARD.

]]>
Emily Blunt สวมชุด Dior และ Jean Paul Gaultier เข้าฉาก The Devil Wears Prada 2

มีภาพออกมาให้เราเรื่อยๆ สำหรับภาพยนตร์ The Devil Wears Prada เมื่อในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาทางทีมงานได้เริ่มเปิดกล้องถ่ายทำหนังภาคต่อกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีภาพของ Anne Hathaway ในบทบาท Andy Sachs ออกมาให้เห็นมากมาย ตามมาด้วยภาพของ Meryl Streep ที่กลับมาสวมบทสุดไอคอนิกอย่าง Miranda Priestly และล่าสุดก็มาถึงคิวของ Emily Blunt ที่ได้ปรากฏตัวในบทบาทของ Emily Charlton เป็นครั้งแรก

 

โดย Emily Blunt กลับเข้าตัวละครแฟชั่นนิสต้าผมสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์จากภาคแรก ถึงแม้ว่าจะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า หลังผ่านไป 20 ปี เธอจะยังคงดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยของ Miranda อยู่หรือไม่ก็ตาม 

 

ส่วนเรื่องเสื้อผ้าของชุดแรกที่ใส่เข้าฉาก The Devil Wears Prada ภาค 2 นั้นประกอบเสื้อเชิ้ตแขนยาว พร้อมด้วยกระเป๋าและแว่นตาสีดำจาก Dior ทับด้วยคอร์เซ็ตลายทาง เข้าคู่กับกางเกงลายเดียวกันจาก Jean Paul Gaultier ที่ทำให้เรานึกถึงลุคของ Madonna จากทัวร์คอนเสิร์ต MDNA Tour ปี 2012 

 

ขณะนี้มีภาพของทีมนักแสดงนำ The Devil Wears Prada ได้กลับมาเข้าฉากด้วยกันอย่างพร้อมหน้าออกมาให้เห็นกันแล้ว ทั้ง Meryl Streep, Anne Hathaway, Stanley Tucci และ Emily Blunt โดยพวกเขากำลังถ่ายทำกันอยู่ ณ ใจกลางมหานครนิวยอร์ก ท่ามกลางสายตาของชาวนิวยอร์กเกอร์หลายคนที่มีโอกาสได้เห็นนักแสดงเหล่านี้ทำงานกัน 

 

ซึ่งสำหรับหนังภาคต่อ ผู้ที่ดูแลเรื่องคอสตูมของเหล่านักแสดงก็คือเจ้าของรางวัล Emmy Awards อย่าง Molly Rogers และเธอก็ได้ทำงานกับดีไซเนอร์ชื่อดังมากมายหลายคน และร่วมออกแบบคอสตูมสำหรับซีรีส์ And Just Like That… ภาคต่อของ Sex & The City

 

ภาพ: Jose Perez/Bauer-Griffin/GC Images

อ้างอิง: 

The post Emily Blunt เริ่มถ่ายทำ The Devil Wears Prada 2 ในชุดจาก Dior และ Jean Paul Gaultier appeared first on THE STANDARD.

]]>
Calvin Klein เปิดตัวแคมเปญใหม่สำหรับเอเชียที่ได้ ตู ต้นตะวัน มาร่วมถ่ายแบบ https://thestandard.co/tu-tontawan-calvin-klein-asia-campaign/ Tue, 29 Jul 2025 10:59:06 +0000 https://thestandard.co/?p=1101385 ตู ต้นตะวัน ถ่ายแบบชุดชั้นใน Calvin Klein คอลเล็กชันใหม่ประจำเอเชีย

Calvin Klein เปิดตัวแคมเปญชุดชั้นในใหม่ล่าสุดประจำเอเชี […]

The post Calvin Klein เปิดตัวแคมเปญใหม่สำหรับเอเชียที่ได้ ตู ต้นตะวัน มาร่วมถ่ายแบบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ตู ต้นตะวัน ถ่ายแบบชุดชั้นใน Calvin Klein คอลเล็กชันใหม่ประจำเอเชีย

Calvin Klein เปิดตัวแคมเปญชุดชั้นในใหม่ล่าสุดประจำเอเชีย พร้อมได้นักแสดงชาวไทยชื่อดังอย่าง ตู ต้นตะวัน มาร่วมถ่ายแบบ ร่วมด้วย พร้อมกับดาราเกาหลีใต้อย่าง ROWOON และ Nana 

 

เริ่มด้วยนักแสดงสาวอย่าง ตู ต้นตะวัน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากบทบาทในภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง หลานม่า ในปี 2024 ที่ได้ไปแฟชั่นโชว์คอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 ภายใต้ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่อย่าง Veronica Leoni ถึงที่ New York Fashion Week เมื่อต้นปีนี้ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้เธอมาในลุคกางเกงเดนิม พร้อมกับบราสีชมพู

 

โดยคอลเล็กชันนี้ได้นำชุดชั้นในรุ่นซิกเนเจอร์ของแบรนด์มาปรับใหม่ให้มีความสบายที่เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ผ่าน 3 รุ่นพิเศษ ตั้งแต่รุ่น Icon Cotton Modal ที่มีดีไซน์ขอบเอว Infinity Bond Waistband หรือขอบเอวที่ใช้เทคนิคการเชื่อมติดแบบไร้รอยต่อ พร้อมกับตะขอที่ไร้ตะเข็บ เพื่อให้ชุดชั้นในระบายอากาศได้ดีขึ้น 

 

ตามมาด้วยรุ่น Heritage Cotton ที่ได้นำขอบเอวโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาปรับใหม่ให้เป็นสไตล์วินเทจที่ผสมผสานกับความสบาย และสามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง ปิดท้ายด้วยรุ่น Perfectly Fit กับบราแบบเต็มตัวที่มีสัมผัสที่นุ่มลื่นและเรียบเนียน ซึ่งเหมาะกับการใส่ทุกวัน

 

ซึ่งนอกจากตู ต้นตะวันแล้วยังมีทั้ง Nana ซึ่งเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ทาง Netflix เรื่อง Mask Girl ในปี 2023 ก็เคยร่วมงานผ่านแคมเปญชุดชั้นในเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2024  ส่วนทาง ROWOON ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการแสดงเรื่อง The King’s Affection ในปี 2021 ก็ได้ตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้ และล่าสุดได้สวมชุดเดนิมเซ็ตของแบรนด์ในงานแฟนมีตติ้งที่เกาหลีใต้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

 

ภาพ: Calvin Klein

The post Calvin Klein เปิดตัวแคมเปญใหม่สำหรับเอเชียที่ได้ ตู ต้นตะวัน มาร่วมถ่ายแบบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
LVMH กำลังเจรจาขายแบรนด์ Marc Jacobs ด้วยมูลค่าคาดการณ์ถึง 3.2 หมื่นล้านบาท https://thestandard.co/lvmh-negotiating-marc-jacobs-sale/ Tue, 29 Jul 2025 06:37:55 +0000 https://thestandard.co/?p=1101221

หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่า LVMH กำล […]

The post LVMH กำลังเจรจาขายแบรนด์ Marc Jacobs ด้วยมูลค่าคาดการณ์ถึง 3.2 หมื่นล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>

หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่า LVMH กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขายแบรนด์แฟชั่น Marc Jacobs ให้เครือบริษัทอื่น ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3.2 หมื่นล้านบาท หลังอยู่ในมือ Bernard Arnault มานานเกือบ 30 ปี

 

โดยบริษัทใหม่ที่ทางแหล่งข่าวต้นทางระบุว่ามีแนวโน้มในการซื้อขายมีทั้ง Authentic Brands Group เครือบริษัทแฟชั่นจากฝั่งสหรัฐอเมริกาที่มีแบรนด์ในมือตั้งแต่ Reebok, Champion จนถึง Juicy Couture ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็จะทำให้แบรนด์กลับมาอยู่ในฝั่งประเทศบ้านเกิดอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ยังมี WHP Global อีกหนึ่งเครือแฟชั่นที่ถือแบรนด์แฟชั่นระดับไฮเอนด์จากฝั่งนิวยอร์กอย่าง Vera Wang และ Rag & Bone รวมไปถึงอดีตแบรนด์สุดฮิตในยุค 90 อย่าง Isaac Mizrahi

 

การตัดสินใจครั้งนี้แม้ว่าจะไม่มีฝ่ายใดออกมายืนยันอย่างเป็นทางการ แต่จากสถานการณ์รายได้ของ LVMH อาจเป็นปัจจัยสำคัญของการตัดแบรนด์ออก โดยเมื่อไม่นานมานี้ทาง LVMH ได้ขายแบรนด์ Off-White™ ให้กับ Bluestar Alliance ในราคาที่ไม่ถูกเปิดเผยเมื่อเดือนกันยายนปี 2024 ต่อด้วยการขายหุ้นคืนให้กับ Stella McCartney ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาหลังจากเข้าลงทุนปี 2019 ในสัดส่วน 90%

 

Marc Jacobs ก่อตั้งแบรนด์ของตัวเองขึ้นในปี 1984 ได้ขายแบรนด์ตัวเองให้ให้กับ LVMH ในปี 1997 ซึ่งเป็นในเวลาเดียวกับที่ดีไซเนอร์ได้รับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Louis Vuitton โดยในปี 2013 เขาก็ได้ลาออกจากตำแหน่งนี้ไปโฟกัสแบรนด์ตัวเองมากขึ้น ส่วนแบรนด์รองแต่ขายดีอย่าง Marc by Marc Jacobs ก็ได้ในปี 2015

 

ความเคลื่อนไหวของแบรนด์ปัจจุบันคือการจัดโชว์ของตัวเองที่นิวยอร์ก และเน้นการขายสินค้าฝั่งกระเป๋าและแอ็กเซสซอรีเป็นหลัก ทั้งรุ่น The Tote Bag, The Sack Bag Dual, และรุ่นใหม่อย่าง The Cristina และยังมีแผนที่จะเปิดตัวไลน์ Marc Jacobs Beauty อีกครั้งในปีนี้ หลังจากที่ได้ปิดไลน์ไปในปี 2021

 

ภาพ: Lexie Moreland/WWD via Getty Images

 

อ้างอิง:

The post LVMH กำลังเจรจาขายแบรนด์ Marc Jacobs ด้วยมูลค่าคาดการณ์ถึง 3.2 หมื่นล้านบาท appeared first on THE STANDARD.

]]>
Von Dutch เตรียมต่อยอดกระแสเพลง Charli xcx ด้วยการเปิดแบรนด์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง https://thestandard.co/von-dutch-fnb-genz/ Mon, 28 Jul 2025 02:51:17 +0000 https://thestandard.co/?p=1100778 von-dutch-fnb-genz

Von Dutch ต่อยอดกระแสเพลงฮิตชื่อเดียวกันของ Charli xcx […]

The post Von Dutch เตรียมต่อยอดกระแสเพลง Charli xcx ด้วยการเปิดแบรนด์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
von-dutch-fnb-genz

Von Dutch ต่อยอดกระแสเพลงฮิตชื่อเดียวกันของ Charli xcx เตรียมเปิดตัว Von Dutch F&B ที่จะขายอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อตั้งเป้าให้เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ควบคู่ไปกับแฟชั่น ที่จะมีทั้งไลน์เครื่องดื่มทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ 

 

สำหรับสินค้าช่วงแรกจะประกอบไปด้วย ม็อกเทลออร์แกนิกจากพืชและโซดาทางเลือกที่พัฒนาร่วมกับบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนากลิ่นรสสำหรับเครื่องดื่มอย่าง Flavor House รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หลากหลายอย่างวอดก้า เตกีลา และ เบียร์ ต่อด้วย Von Dutch Water ซึ่งจะเป็นไลน์น้ำระดับพรีเมียม เพื่อแนะนำแบรนด์ Von Dutch ให้กับคนรุ่นใหม่ผ่านร้านสะดวกซื้อ บาร์ ร้านอาหาร และเทศกาลดนตรีต่างๆ

 

และปิดท้ายด้วย Von Dutch Cafés กับสาขาที่นิวยอร์กและลอสแอนเจลิส ที่จะเปิดให้บริการในอีก 1 ปีข้างหน้า โดยจะมีความพิเศษตรงที่ร้านจะให้บรรยากาศของคาเฟ่ในช่วงกลางวัน แต่เปลี่ยนเป็นบาร์หรือร้านอาหารที่ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมกับการแสดงสดในตอนกลางคืน เพื่อนำเสนอประสบการณ์ของวัฒนธรรม Von Dutch 

 

สำหรับแบรนด์แฟชั่นอย่าง Von Dutch เป็นที่รู้จักอย่างมากในช่วงปี 2000 กับหมวกอันเป็นเอกลักษณ์รุ่น Trucker hat ซึ่งถูกสวมโดยดาราดังมากมายรวมถึง Britney Spears และ Justin Timberlake และในช่วงปีที่ผ่านมาก็มีการกลับมาของแบรนด์กับคนยุคใหม่ โดยล่าสุดแบรนด์ได้ขยายธุรกิจนอกเหนือจากแฟชั่น กับแพลตฟอร์มที่เน้นกลุ่มคนรุ่น Gen Z ด้วยโปรเจกต์ Von Dutch Loves ที่จะมาโฟกัสฝั่งดนตรีและวัฒนธรรมอันเดอร์กราวด์ ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ซีอีโอของ Von Dutch อย่าง Jack Cheika ก็ได้ออกมาให้เครดิตถึงความสำคัญของนักร้องชาวอังกฤษอย่าง Charli xcx ในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับแบรนด์ไปสู่ทิศทางใหม่ ผ่านเพลง Von Dutch ของเธอจากอัลบั้ม Brat ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 

 

“เพลงของ Charli xcx ได้จุดประกายความสนใจของคนรุ่น Gen Z ที่มีต่อแบรนด์เรามาอีกครั้ง พร้อมกับสร้างแรงผลักดันให้กับเรามากขึ้น และยังสอดคล้องกับสิ่งที่เรากำลังสร้างอยู่ นั่นคือ แบรนด์ที่เชิดชูรากฐานของความกล้าของตัวเอง พร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน” Jack Cheika กล่าว

 

ภาพ: Von Dutch

 

อ้างอิง: 

 

The post Von Dutch เตรียมต่อยอดกระแสเพลง Charli xcx ด้วยการเปิดแบรนด์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
7 THINGS WE LOVE ABOUT INFLUENTIAL FEMALE DESIGNERS ดีไซเนอร์หญิงผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงแฟชั่น https://thestandard.co/7-things-we-love-about-influential-female-designers/ Sun, 27 Jul 2025 09:11:14 +0000 https://thestandard.co/?p=1100645 7 THINGS WE LOVE ABOUT INFLUENTIAL FEMALE DESIGNERS

เป็นเรื่องแปลกของอุตสาหกรรมแฟชั่น วงการที่นำเสนอเรื่องค […]

The post 7 THINGS WE LOVE ABOUT INFLUENTIAL FEMALE DESIGNERS ดีไซเนอร์หญิงผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงแฟชั่น appeared first on THE STANDARD.

]]>
7 THINGS WE LOVE ABOUT INFLUENTIAL FEMALE DESIGNERS

เป็นเรื่องแปลกของอุตสาหกรรมแฟชั่น วงการที่นำเสนอเรื่องความสวยความงามของเสื้อผ้า กระเป๋าและรองเท้า โดยมีฐานลูกค้าเป็นผู้หญิงกว่า 80% ของทั้งหมด กลับกลายเป็นว่ามีดีไซเนอร์ผู้ออกแบบที่เป็นเพศหญิงเทียบเป็นสัดส่วนแล้วนั้นถือว่าน้อยมาก แม้ว่าจุดเริ่มต้นของบางแบรนด์มาจากผู้ก่อตั้งที่เป็นผู้หญิงแต่สิ่งนั้นกลับไม่ใช่วิถีตกทอดที่แบรนด์เลือกสานต่อ สิ่งสำคัญคือความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถขับเคลื่อนแบรนด์ไปข้างหน้ามากกว่า 

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเกินกว่าครึ่งดีไซเนอร์แบรนด์แฟชั่นชั้นนำจะเป็นผู้ชาย ก็มีดีไซเนอร์ผู้หญิงทรงอิทธิพลแทรกตัวอยู่ พวกเธอมีแนวคิดเป็นของตัวเอง สร้างปรากฏการณ์และเปลี่ยนแปลงนิยามความงาม ความหรูหราผ่านมุมมองของผู้หญิง พวกเธอเหล่านี้ล้วนเป็นข้อพิสูจน์ยืนยันว่าความคิดสร้างสรรค์ไม่มีเพศจำกัด วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 7 ดีไซเนอร์หญิงผู้ทรงอิทธิพลของยุคนี้กันว่ามีใครบ้าง

 


 

Veronique Nichanian 

 

สำหรับ Veronique Nichanian เป็นตัวอย่างของดีไซเนอร์หญิงที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะเธอเป็นดีไซเนอร์ผู้หญิงที่ออกแบบเสื้อผ้าผู้ชาย เธอดำรงตำแหน่งอาร์ติสติกไดเรกเตอร์ให้กับ Hermès ฝั่ง Menswear มายาวนานกว่า 35 ปี โดยในยุคที่เสื้อผ้าผู้ชายถูกตีกรอบให้ดูฟอร์มอล Veronique ทลายกรอบด้วยการนำเสนอเสื้อผ้าสไตล์ Relaxed Elegance ผ่านการผสมผสานเนื้อผ้าแนวสปอร์ตแวร์เข้ากับงานเทเลอริ่งได้อย่างลงตัว เสื้อผ้าของเธอมีความแคชชวลแต่ดูเรียบหรูที่ใส่ได้ในชีวิตจริงแต่ยังคงดูแพงและไร้กาลเวลา แม้จะเป็นผู้หญิง แต่ Veronique กลับเข้าใจความต้องการของผู้ชายอย่างลึกซึ้ง เสื้อผ้าของเธอเน้นความเรียบง่ายที่แฝงด้วยดีเทลและการเลือกใช้วัสดุชั้นดี เธอเข้าใจว่าฐานลูกค้าคนซื้อ Hermès ไม่ได้มองหาเสื้อผ้าตามเทรนด์พวกเขาต้องการสิ่งที่เหนือไปกว่านั้น ซึ่งระยะเวลา 35 ปีพิสูจน์ว่าเธอนั้นเข้าใจอย่างถ่องแท้ 

 

 


 

Phoebe Philo 

 

Phoebe Philo สร้างชื่อของตัวเองจาก Chloe แบรนด์หรูจากฝรั่งเศสที่เธอยกระดับความเฟมินีนให้ดูเท่ขึ้นจนเป็นที่นิยมอย่างสูง เธอสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในปี 2008 เมื่อเข้ามาดูแลงานครีเอทีฟให้กับ Celine เธอเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์จากแบรนด์ฝรั่งเศสธรรมดาให้ดูเรียบหรูแบบมีชั้นเชิง รวมถึงสร้างเทรนด์อย่าง Quiet Luxury และ Normcore ผ่านงานดีไซน์เนี้ยบ เรียบง่ายและดูโก้ ชิ้นงานที่ดูไม่พยายามแต่โดดเด่นที่สุดในห้อง จนหลายแบรนด์พยายามทำตาม aesthetic ที่เธอสร้างขึ้น ในปี 2023 เธอกลับมาพร้อมกับแบรนด์ Phoebe Philo โดยได้แบ็กอัปเป็นเครือบริษัทอย่าง LVMH ถือหุ้นบางส่วน เสื้อผ้าของ Phoebe สะท้อนตัวตนของเธออย่างแท้จริง ดีไซน์มินิมอลแต่ทรงพลังอัดแน่นไปด้วยชิ้นงานเทเลอร์สุดคม คัตติงเนี้ยบ รวมถึงหนังคุณภาพสูง หลังจากเปิดตัวไม่นาน แบรนด์ Phoebe Philo กลายเป็นแบรนด์ที่ถูกพูดถึงตลอดเวลาพอปล่อยคอลเลกชันออกมา ซึ่งแม้ราคาจะสูง แต่แฟนๆของ Phoebe ต่างเชื่อในวิสัยทัศน์และมาตรฐานที่เธอสร้างไว้จนยอมจ่ายเพื่อให้ได้ครอบครองชิ้นงานของเธอ โดย Phoebe เปลี่ยนแนวคิดความลักชัวรีจากการเน้นโลโก้สู่ความหรูหราแบบมีคุณภาพด้านการตัดเย็บ และรายละเอียดที่คนเห็นก็รู้ทันทีว่าเป็นงานของเธอ

 

 


 

Stella McCartney

 

ดีไซเนอร์สาวแกร่งผู้ยืนหยัดด้านสิ่งแวดล้อม Stella McCartney สร้างเฮดไลน์ในวงการแฟชั่นจากการที่เธอเข้ารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ Chloe ต่อจาก Karl Lagerfeld ด้วยวัย 25 ปีเท่านั้น ก่อนจะเปิดแบรนด์ภายใต้ชื่อของตนเองในปี 2001 โดยยึดหลักงานออกแบบรักษ์โลก ไม่ใช้หนังสัตว์และใช้ขนสัตว์ ซึ่งขัดกับรากฐานของแบรนด์ลักชัวรี เธอพิสูจน์ว่าแฟชั่นรักษ์โลกก็สามารถหรูหรา ใส่ได้จริง และขายได้จริง เธอปลุกกระแส Sustainable Fashion ให้แบรด์อื่นๆ เริ่มหันมาทำตาม รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับบริษัทผลิตใยผ้าเพื่อพัฒนา Textile Innovation ใหม่ๆ มาใช้ทดแทน เช่น Mylo หนังที่ทำขึ้นจากเห็ดที่เธอใช้มาทำกระเป๋า Falabella จนขายดีไปทั่วโลก โดยงานดีไซเนอร์ของเธอดูเซ็กซี่ โก้ และหรูหรา ย้ำชัดว่าแฟชั่นรักษ์โลกไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย Stella เชื่อว่าแฟชั่นที่ดีต้องเป็นมิตรต่อผู้สวมใส่และกับโลก ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องมีจริยธรรมและความหมายในตัวเอง เธอเป็นไอดอลของดีไซเนอร์สายรักษ์โลกด้วยแนวคิดสุดโต่งที่ทำได้จริง 

 

 


 

Chemena Kamali

 

ชื่อของ Chemena Kamali ถือว่าใหม่มากหากเทียบกับดีไซเนอร์หญิงทั้งหมดจากลิสต์นี้ แต่ Chemena สร้างปรากฏการณ์ให้วงการแฟชั่นกลับมาให้ความสนใจและพูดถึง Chloé อีกครั้งหลังจากที่เปลี่ยนดีไซเนอร์หลายต่อหลายคน ประสบการณ์ของ Chemena ค่อนข้างโชกโชนเพราะเธอเคยทำงานร่วมกับ Phoebe Philo และ Clare Waight Keller ที่ Chloé รวมถึง Anthony Vaccarello ที่ Saint Laurent มาแล้ว ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Chloé ในช่วงปลายปี 2023 ซึ่งผลงานเดบิวต์ของเธอคอลเลกชัน Fall/Winter 2024 ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์อย่างล้นหลามจากงานดีไซน์ที่อิงจากจิตวิญญาณของแบรนด์แต่นำมาปรับใหม่ให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น เธอเชื่อใน Honest Femininity หรือความสวยงามที่จริงใจ ตรงไปตรงมา เสื้อผ้ากลิ่นอายโบฮีเมียนยุค 70 ดูมีอิสระ สวมใส่สบายและเป็นมิตรกับผู้หญิงทุกรูปแบบ เลยไม่แปลกหากชื่อของ Chemena จะถูกจับตามองเพราะมุมมองงานดีไซน์ผู้หญิงถึงผู้หญิงของเธอนั่นเอง 

 

 


 

Silvia Venturini Fendi 

 

ทายาทตระกูล Fendi ผู้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับ Karl Lagerfeld พลิกโฉมให้ Fendi กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ Silvia Venturini Fendi เริ่มทำงานกับแบรนด์ครั้งแรกในปี 1997 ในตำแหน่ง Artistic Director แผนกแอ็กเซสซอรี ก่อนจะเข้ามาดูแลไลน์เสื้อผ้าของ Menswear และ Childrenwear ในเวลาต่อมา เธอคือผู้อยู่เบื้องหลังงานดีไซน์กระเป๋าระดับไอคอนิกของแบรนด์อย่างกระเป๋ารุ่น Baguette และ Peekaboo มุมมองของ Silvia มีความขี้เล่นจะเห็นได้จากแรงบันดาลใจจากกระเป๋าทั้งสองที่มาจากไอเดียแนวคิดสนุกๆ ของเธอ Silvia ยังสร้างจักรวาลของผู้ชาย Fendi ให้มีความอ่อนช้อยมากกว่าเข้มขรึมด้วยการหยอดความเฟมินินลงไป เพราะเธอเชื่อว่าการแต่งตัวไม่ควรมีกฎเกณฑ์ หลังจาก Karl เสียชีวิตลงและ Kim Jones ออกจากตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ Silvia จึงได้มีโอกาสออกแบบไลน์ Womenswear ซึ่งหลายคนต่างชื่นชมซิลูเอตเฟมินินและเสน่ห์ของ Fendi ในมุมของผู้หญิงจากเธอ และคิดว่าอาจไม่จำเป็นต้องหาดีไซเนอร์คนใหม่มาดีไซน์อีกต่อไป 

 

 

 


 

Sarah Burton 

 

อีกหนึ่งดีไซเนอร์ผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลของวงการแฟชั่น นั่นก็คือ Sarah Burton อดีตมือขวาของ Alexander McQueen ดีไซเนอร์ผู้ล่วงลับ เธอเข้ารับตำแหน่งต่อจากเขาทันทีโดยยังรักษาความดรามาติก ความดาร์กโรแมนติก และงานคราฟต์ระดับสูงเอาไว้ แต่เพิ่มเติมความโรแมนติกตัวตนของเธอลงไปเพื่อให้แบรนด์ในยุคของเธอนั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงยังเน้นโครงสร้างที่สะท้อนความเป็นผู้หญิงมากขึ้น Alexander McQueen ในช่วงที่เธอยังความลักชัวรี theatrical อยู่ แต่ดูสง่างามขึ้น กว่า 13 ปี Sarah ได้ออกจากกรอบของเธอในปี 2024 กับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับแบรนด์หรู Givenchy หลายคนมองว่าเธอจะเป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างความคลาสสิกของ Hubert de Givenchy และ Modern Femininity ของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผลงานแรกของเธอสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการแฟชั่นอย่างมาก เธอนำ Givenchy กลับสู่ความหรูหรา เรียบโก้ผ่านเทคนิคการตัดเย็บระดับโอต์กูตูร์ เธอลบภาพผู้หญิงสายดาร์กให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้น เชื่อว่าเธอน่าจะสร้างตำนานบทใหม่ให้กับแบรนด์หรูนี้ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

 

 


 

Miuccia Prada 

 

หากกล่าวถึงผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่นชื่อของ Miuccia Prada จะต้องติดอยู่อันดับต้นๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์แฟชั่นอย่าง Prada และ Miu Miu จนกลายเป็นอาณาจักรแฟชั่นขนาดใหญ่ที่มีส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นอย่างมาก เธอสร้างชื่อจากงานดีไซน์แบบ ‘Ugly Chic’ แนวคิดย้อนแย้งที่เธอนำมาใช้เพื่อสร้างตัวตนของแบรนด์ให้แตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างสิ้นเชิง เธอเปลี่ยนมุมมองของวงการแฟชั่นด้วยคอลเล็กชั่นที่ตั้งคำถามต่อสังคม ศิลปะ และการเมืองในแบบฉบับของเธอเอง คอลเล็กชันของ Prada และ Miu Miu มักสร้างความเซอร์ไพรส์และไวรัลตลอดเวลา รวมถึงเป็น Trendsetter ของวงการแฟชั่นเพราะ Miuccia ไม่เคยตามเทรนด์ใครทั้งนั้น เธอจะสร้างเทรนด์ของเธอขึ้นมาเอง ปัจจุบัน Prada ได้ Raf Simons เข้ามาช่วยแชร์ไอเดียในการออกแบบ ในขณะที่ Miu Miu นั้นเธอยังดูแลเรื่องงานดีไซน์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ Miuccia จึงถือเป็นต้นแบบของดีไซเนอร์ผู้หญิงของวงการแฟชั่นอย่างแท้จริง 

 

The post 7 THINGS WE LOVE ABOUT INFLUENTIAL FEMALE DESIGNERS ดีไซเนอร์หญิงผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงแฟชั่น appeared first on THE STANDARD.

]]>
UNIQLO : C เปิดตัวพาร์ตแรกของคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 https://thestandard.co/uniqlo-c-fw2025-launch/ Sat, 26 Jul 2025 08:15:44 +0000 https://thestandard.co/?p=1100351 เสื้อผ้า UNIQLO : C คอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 ดีไซน์โดย Clare Waight Keller

UNIQLO : C ไลน์เสื้อผ้าแคชวลแวร์ของ UNIQLO ที่มีดีไซเนอ […]

The post UNIQLO : C เปิดตัวพาร์ตแรกของคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 appeared first on THE STANDARD.

]]>
เสื้อผ้า UNIQLO : C คอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 ดีไซน์โดย Clare Waight Keller

UNIQLO : C ไลน์เสื้อผ้าแคชวลแวร์ของ UNIQLO ที่มีดีไซเนอร์ชาวอังกฤษมากฝีมืออย่าง Clare Waight Keller มานั่งตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ เปิดตัวคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 ที่ยังคงสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของตัวดีไซเนอร์ ทั้งความลื่นไหล มูฟเมนต์ และแฝงด้วยความเป็นเฟมินีนอย่างแยบยลเช่นเดิม

 

สำหรับ UNIQLO : C คอลเล็กชันใหม่จะทยอยปล่อยออกมาทั้งหมด 2 ครั้ง โดยครึ่งแรกจะมีไอเท็มอย่างสเวตเชิ้ตคอกลมที่ได้รับการอัปเดตดีไซน์ให้มีความยาวลงมาในสไตล์โมเดิร์นสำหรับช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่านฤดูร้อนสู่ฤดูใบไม้ร่วง ในโปรดักต์ของคอลเล็กชันส่วนถัดมาจะมีความเฉพาะเจาะจงและบ่งบอกถึงการรองรับสภาพอากาศที่หนาวเย็นขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยการใช้ผ้าแคชเมียร์ HEATTECH ผสมผสานกับสเวตเตอร์คอกลมและสเวตเตอร์คอเต่า รวมไปถึงเสื้อตัวนอกหลากหลายแบบที่ใช้แมตทีเรียลใหม่อย่าง PUFFTECH จาก Toray เป็นตัวชูโรง และด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้านี้ ก็ทำให้ไอเท็มอย่างแจ็กเก็ตในคอลเล็กชันสามารถสร้างความอบอุ่นได้ดีและมีน้ำหนักเบา

 

Clare Waight Keller พูดถึงคอลเล็กชันนี้ว่า “ความสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันสามารถดีไซน์ลุคที่มีความมินิมัลอย่างแท้จริง ผสมผสานกับทั้งวอลลุ่มและความเบาสบายในแจ็กเก็ตฮู้ดดี้โมเดิร์นที่มาพร้อมกับฟังก์ชันระดับเหนือชั้นของ UNIQLO สำหรับเสื้อผ้าผู้หญิงในคอลเล็กชันนี้ ได้เน้นเรื่องของการตัดเย็บอย่างนุ่มนวลของผ้าทวีดโมเดิร์นเทคนิคพิเศษ เพื่อที่จะครีเอตเสื้อผ้าที่สะท้อนถึงซีซันสุดโปรดแห่งการใช้ HEATTCH และผ้าแคชเมียร์ผ่านโทนสีอันเลอค่า”

 

UNIQLO : C Fall/Winter 2025 ครึ่งแรกวางจำหน่ายทางออนไลน์และร้าน UNIQLO ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนครึ่งหลังสำหรับฤดูใบไม้ร่วงจะตามมาในวันที่ 4 กันยายน

 

ภาพ: Uniqlo 

อ้างอิง: 

The post UNIQLO : C เปิดตัวพาร์ตแรกของคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 appeared first on THE STANDARD.

]]>
JISOO กลับมาขึ้นแคมเปญของ Self-Portrait ในคอลเล็กชันล่าสุดที่ใช้ AI ช่วยสร้างภาพ https://thestandard.co/jisoo-self-portrait-fall-winter-2025-ai-campaign/ Sat, 26 Jul 2025 08:05:44 +0000 https://thestandard.co/?p=1100345 JISOO ในแคมเปญ Self-Portrait คอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 พร้อมลุคสุดล้ำและภาพเมืองที่สร้างด้วย AI

JISOO กลับมาขึ้นแคมเปญให้กับแบรนด์ Self-Portrait อีกครั […]

The post JISOO กลับมาขึ้นแคมเปญของ Self-Portrait ในคอลเล็กชันล่าสุดที่ใช้ AI ช่วยสร้างภาพ appeared first on THE STANDARD.

]]>
JISOO ในแคมเปญ Self-Portrait คอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 พร้อมลุคสุดล้ำและภาพเมืองที่สร้างด้วย AI

JISOO กลับมาขึ้นแคมเปญให้กับแบรนด์ Self-Portrait อีกครั้ง สำหรับคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 ที่มาพร้อมกับภาพเมืองในอนาคตจากการใช้เทคนิค AI เข้ามาช่วยสร้างภาพ (Generative Image-Making)

 

โดยแคมเปญนี้ถือเป็นภาคต่อจากคอลเล็กชัน Pre-Fall 2025 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ถูกอัปเดตเวอร์ชันที่ทันสมัยมากขึ้น ผ่านการถ่ายภาพของ Drew Vickers กับ 3 ลุคที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นอย่างมินิเดรสสีดำที่มีลายดอกไม้ 3 มิติตรงชายกระโปรง มินิเดรสลูกไม้สีขาวที่มีโบใหญ่ตรงด้านหลัง และแจ็กเกตสีดำที่มีปลายแขนเป็นขนเฟอร์ พร้อมกับเลกกิ้ง และกระเป๋าใบเล็กสีดำลายจระเข้เข้าชุด

 

ทาง JISOO ได้กล่าวถึงการร่วมมือครั้งนี้ว่า “ฉันชอบการทดลองอะไรใหม่ๆ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ทำงานกับเทคโนโลยีประเภทนี้ ส่วนผลลัพธ์ที่ได้นั้น ให้ความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากทุกอย่างที่ฉันเคยทำมาก่อน”

 

นี่ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ JISOO ได้ร่วมงานกับแบรนด์จากลอนดอนอย่าง Self-Portrait ของดีไซเนอร์ Han Chong โดยเธอได้ขึ้นแคมเปญครั้งแรกสำหรับคอลเล็กชัน Spring/Summer 2024 ตามด้วย Pre-Fall 2024 ที่ถ่ายทำในสตูดิโอในกรุงโซล กับเสื้อผ้าจากคอลเล็กชันที่เธอได้เลือกมาถ่ายแบบเองทั้งหมด

 

ล่าสุดเธอยังใส่ชุดและโพสต์ภาพลงบน Instagram ในชุดเดรสเดนิมแขนกุดของแบรนด์บนถนนของเมืองลอสแอนเจลิส ที่เธอเพิ่งแสดงคอนเสิร์ต DEADLINE World Tour ของวง BLACKPINK อีกด้วย

 

ภาพ: Self-Portrait

อ้างอิง: 

The post JISOO กลับมาขึ้นแคมเปญของ Self-Portrait ในคอลเล็กชันล่าสุดที่ใช้ AI ช่วยสร้างภาพ appeared first on THE STANDARD.

]]>
SALOMON XT-6 เปิดตัวโมเดล 2 สีใหม่ล่าสุด และครั้งแรกของรุ่น XT-6 Shadow https://thestandard.co/salomon-xt6-shadow-new-colors/ Sat, 26 Jul 2025 07:39:39 +0000 https://thestandard.co/?p=1100014 รองเท้า SALOMON XT-6 และ XT-6 Shadow เปิดตัว 4 สีใหม่ล่าสุดในไทย

SALOMON แบรนด์สปอร์ตสไตล์จากฝรั่งเศส เดินหน้าเปิดตัวรอง […]

The post SALOMON XT-6 เปิดตัวโมเดล 2 สีใหม่ล่าสุด และครั้งแรกของรุ่น XT-6 Shadow appeared first on THE STANDARD.

]]>
รองเท้า SALOMON XT-6 และ XT-6 Shadow เปิดตัว 4 สีใหม่ล่าสุดในไทย

SALOMON แบรนด์สปอร์ตสไตล์จากฝรั่งเศส เดินหน้าเปิดตัวรองเท้ารุ่นไอคอนิกอย่าง XT-6 ทั้ง 2 เฉดสีใหม่ล่าสุดประจำคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 ฝีมือดีไซน์ของ Benjamin Grenet ที่มาพร้อมกับสี Grisaille-Blue Nights-Quarry และสี White-Vanilla Ice-Plum รวมถึงเปิดตัว Model ใหม่เป็นครั้งแรก กับรุ่นที่ชื่อว่า XT-6 Shadow ทั้ง 2 สี อย่าง Gull-Gray-Violet-Quarry และสี Blue Nights-Grisaille-Stone

 

รองเท้า SALOMON XT-6 มาพร้อมเทคโนโลยี QUICKLACE ใส่ง่าย ถอดเร็ว, ระบบ SensiFIT ที่โอบกระชับตั้งแต่พื้นชั้นกลางถึงเชือก และพื้น Contagrip ที่พร้อมลุยได้ทุกสภาพผิว โดยมีแขกสุดฮอตอย่าง นานิ หิรัญกฤษฎิ์, เอมี่ ทสร และ โจริญ วง 4EVE ร่วมพรีเซนต์ความเท่ในงานเปิดตัวที่ SALOMON Flagship Store ชั้น 2 ศูนย์การค้า Emporium

 

รองเท้า SALOMON XT-6 และ XT-6 Shadow เปิดตัว 4 สีใหม่ล่าสุดในไทย

 

ภาพ: SALOMON Thailand

The post SALOMON XT-6 เปิดตัวโมเดล 2 สีใหม่ล่าสุด และครั้งแรกของรุ่น XT-6 Shadow appeared first on THE STANDARD.

]]>