วริศรา ลิ้มอนันตระกูล – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 10 Oct 2023 05:38:34 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ‘FIFTY FIFTY’ คลาสเวตหนัก เบิร์นระห่ำ 40 นาที จาก Encore Training Club https://thestandard.co/fifty-fifty-encore-training-club/ Sun, 24 Sep 2023 13:07:08 +0000 https://thestandard.co/?p=845550 FIFTY FIFTY

จากใจที่รักการออกกำลังกายในลักษณะกรุ๊ปคลาสสุดเข้มข้น ทั […]

The post ‘FIFTY FIFTY’ คลาสเวตหนัก เบิร์นระห่ำ 40 นาที จาก Encore Training Club appeared first on THE STANDARD.

]]>
FIFTY FIFTY

จากใจที่รักการออกกำลังกายในลักษณะกรุ๊ปคลาสสุดเข้มข้น ทั้งในรูปแบบคาร์ดิโอและเวตเทรนนิ่ง จนได้มาซึ่งรูปร่างที่ฟิตแข็งแรงจนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันในวัยเลข 4 ต่างต้องล้วงถึงเคล็ดลับในการดูแลตัวเอง ตุ๊กตา-วันทนีย์ เลาหสัจจาพร สานแพสชันพร้อมส่งต่อพลังให้ทุกคนที่อยากพัฒนาศักยภาพร่างกายของตัวเองด้วยการก่อตั้งบูติกยิม ‘Encore Training Club’ ขึ้นในปี 2020 และได้กระแสตอบรับดีจนต้องขยายพื้นที่สู่บ้านหลังใหม่ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา 

 

FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY

 

What is it?

Encore (อองคอร์) เป็นภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า ‘Again’ สะท้อนถึงความตั้งใจอยากให้ทุกคนได้กลับมาออกกำลังกายกันอีกครั้ง 

 

FIFTY FIFTY

 

บูติกยิมแห่งนี้ตั้งอยู่ชั้น 11 ในอาคารปัญจภูมิ ย่านสาทร ทันทีที่เปิดประตูเข้ายิมก็จะพบกับลานออกกำลังกายที่กว้างขวาง พร้อมแสงสว่างสาดส่องผ่านกระจกของอาคาร มองเห็นวิวเมืองแบบพาโนรามา ให้ความรู้สึกโปร่งสบายไม่อึดอัด

 

FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY

 

นอกจากนี้ก็ยังมีผ้าขนหนูและห้องอาบน้ำบริการให้อีกด้วย ไม่ต้องกังวลว่าจะออกไปใช้ชีวิตต่อด้วยตัวชุ่มเหงื่อ

 

FIFTY FIFTY

 

เอกลักษณ์ของ Encore Training Club คือ Strength Training ทุกคนจะได้ยกเวตแบบเน้นๆ และมีเวลาพักระหว่างเซ็ตเพียงพอ เพราะคลาสส่วนใหญ่ของที่นี่จะผสมผสานการออกกำลังแบบแรงต้านเสมอ อีกทั้งยังมีบริการบันทึกน้ำหนักที่ลูกค้ายกได้เพื่อให้เห็นพัฒนาการของตัวเองอีกด้วย

 

FIFTY FIFTY

 

“เราถือคติว่า นอกจากความเหนื่อยเหงื่อแตกแล้ว เราต้องได้รู้ว่าเรามีพัฒนาการจากการที่จ่ายเงินมาออกกำลังกาย ซึ่งเราเชื่อว่าตัวชี้วัดที่ดีที่สุดก็คือร่างกายเราเองนี่แหละ เรายกหนักขึ้นได้ก็แปลว่าเราแข็งแรงขึ้น” ตุ๊กตากล่าว

 

Try

สำหรับคลาส FIFTY FIFTY ที่ทีม THE STANDARD LIFE ได้มาประลองในวันนี้เป็นคลาสใหม่แกะกล่องที่มัดรวม Strength Training และ Cardio เข้าไว้ด้วยกัน แบ่งเป็นเวตเทรนนิ่งใน 20 นาทีแรก และคาร์ดิโอใน 20 นาทีหลัง 

 

ก่อนเริ่มเข้าสู่สมรภูมิรบ โค้ชจะให้วอร์มร่างกายแล้วจับคู่กับบัดดี้ออกกำลังกายเพื่อประจำสเตชันแล้วอธิบายรูปแบบการเล่นพร้อมสาธิตท่าให้ดู

 

FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY

 

แต่ละสเตชันจะประกอบไปด้วยสองเวิร์กเอาต์ เริ่มกันที่ Landmine Squat ท่าบริหารกล้ามเนื้อช่วงล่างโดยใช้มือทั้งสองข้างจับบาร์เบลแล้วสควอต ซึ่งโดนทั้งขา ก้น สะโพกแบบเต็มๆ และ Single-arm Bench Press ท่าบริหารกล้ามเนื้ออกโดยใช้อุปกรณ์ดัมบ์เบลยกสลับทีละข้าง 

 

FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY

 

แต่ละคู่จะทำท่าละ 10 ครั้ง แล้วสลับไปเล่นอีกท่า วนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบเวลา 11 นาที 

 

FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY

 

จากนั้นจะเป็น T-row ท่าที่เน้นบริหารกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและกลาง และ Single-leg Romanian Deadlift ที่ทำให้ต้นขาด้านหลังสั่นสะท้านไปหมด เช่นเดียวกับสองเวิร์กเอาต์แรก แต่ละคู่จะต้องทำท่าละ 10 ครั้ง แล้วสลับกันเล่นไปเรื่อยๆ จนครบ 11 นาที

 

FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY

 

แม้ว่าแต่ละท่าบริหารข้างต้นจะโฟกัสที่กล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วคุณยังได้บริหารกล้ามเนื้อมัดรองไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องที่ต้องเกร็งตลอดเวลา หรือกล้ามเนื้อแขนที่คอยออกแรงยก

 

FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY

 

แค่ครึ่งแรกกับ Strength Training ก็เริ่มเห็นใบหน้าเลือดฝาดและเสื้อที่เริ่มเปียกกันแล้ว ทว่าครึ่งหลังกับ Cardio นี่แหละคือเซสชันที่เค้นทุกสิ่งออกจากร่างกาย เริ่มกันที่ Battle Rope การออกกำลังด้วยเชือกขนาดใหญ่ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อทั่วร่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ไหล่ แขน หลังส่วนบน-ล่าง แกนกลาง ขา และถือเป็นท่าที่เร่งอัตราการเต้นของหัวใจ เบิร์นได้ดีสุดๆ

 

FIFTY FIFTY

 

Russian Twist ท่าที่เน้นบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านข้าง โดยมีการจับแผ่นน้ำหนักไว้ด้วย ดูด้วยตาเปล่าอาจมองว่าเป็นท่าที่ง่าย ได้นั่งอู้ แต่ความจริงแล้วหน้าท้องของแต่ละคนกำลังตะโกนร้องขอชีวิตกันอยู่

 

FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY

 

Machine สเตชันนี้มีแมชชีนสำหรับคาร์ดิโอให้เลือกอันที่ถูกใจอยู่ 4 ตัวเลือก ได้แก่ Skill Mill ลู่วิ่งที่ไม่ใช้ไฟฟ้า สปีดของตัวเครื่องขึ้นอยู่กับผู้วิ่งล้วนๆ

 

FIFTY FIFTY

 

SkiErg ที่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อส่วนแขน ขา และแกนกลางได้เป็นอย่างดี

 

FIFTY FIFTY

 

Assault Airbike ที่ต่างจากจักรยานทั่วไปโดยสิ้นเชิง เพราะคุณต้องออกแรงปั่นต้านลมไม่เบาเลยล่ะ 

 

FIFTY FIFTY

 

Rowing Machine เครื่องกรรเชียงบกที่ได้ฝึกความแข็งแรงทั้งขา แขน และแกนกลางลำตัว 

 

FIFTY FIFTY

 

มาถึงสเตชันสุดท้าย Burpees ที่ทำเอาขั้วหัวใจหลุดไม่แพ้กันด้วยการผสมผสานระหว่างท่าวิดพื้นและการสควอตจัมป์ ได้บริหารครบทุกส่วนในร่างกาย 

 

FIFTY FIFTY

 

ผู้เล่นจะต้องทำทั้ง 4 เวิร์กเอาต์ที่กล่าวมา โดยแบ่งเป็นเวิร์กเอาต์ละ 40 วินาที พัก 20 วินาที แล้ววนทำใหม่จนครบ 3 รอบ

 

 

FIFTY FIFTY FIFTY FIFTY

 

Result

จบคลาส 40 นาที พร้อมอัตราการเต้นของหัวใจที่ทะลุกราฟและสภาวะทิ้งตัว การได้โฟกัสกับแต่ละจุดประสงค์ของการออกกำลังกายอย่างชัดเจน ทำให้เราได้ใส่พลังให้กับแต่ละเวิร์กเอาต์อย่างเต็มที่จนหมดแรงในยกสุดท้ายพอดี ฟังดูอาจเป็นคลาสเข้มข้นและหนักหน่วง แต่จริงๆ เราสามารถเลือกทำเท่าที่ร่างกายไหว ไม่ต้องฝืนยกน้ำหนักเกินที่ตัวเองจะยกได้ และไม่ต้องกังวลว่าจะทำผิดเพราะมีโค้ชคอยประกบดูแลอย่างทั่วถึง

 

FIFTY FIFTY

 

Good for

สายฟิตหรือชาวออฟฟิศย่านสาทรที่ชอบคลาสออกกำลังกายแบบ Strength Training หรือใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว เพราะที่นี่รองรับจำนวนผู้เล่นสูงสุดเพียง 15 คนต่อคลาส แม้จะมีพื้นที่กว้างก็ตาม แต่หากต้องการเน้นจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่งอย่างเจาะจงแบบ Personal Training ก็มีรองรับเช่นกัน

 

FIFTY FIFTY

 

ใครที่ขับรถมาก็หมดกังวลเรื่องที่จอด เพราะที่นี่ที่จอดรถค่อนข้างกว้าง ในส่วนของแพ็กเกจคลาสออกกำลังกายก็ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นด้วยอายุของแพ็กเกจที่นานกว่ายิมทั่วไป และยังสามารถแชร์เครดิตกับเพื่อนได้อีกด้วย 

 

Encore Training Club

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.30-21.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. 

Address: 11th Floor, Phanjaphum Building 

Budget: สิทธิพิเศษสำหรับผู้อ่าน THE STANDARD LIFE รับ Free Trial 1 ครั้ง, ราคา Drop-in ครั้งแรก 300 บาท ครั้งต่อไป 900 บาท, 5 คลาส ราคาเริ่มต้นที่ 3,450 บาท 

Website: https://www.encoretrainingclub.com/ 

Facebook: https://www.facebook.com/encoretrainingclub

The post ‘FIFTY FIFTY’ คลาสเวตหนัก เบิร์นระห่ำ 40 นาที จาก Encore Training Club appeared first on THE STANDARD.

]]>
จากออสเตรเลียสู่ไทย endota spa เปิดตัวแห่งแรกในเอเชียที่ InterContinental Bangkok https://thestandard.co/endota-spa-at-intercontinental-bangkok/ Thu, 21 Sep 2023 03:33:54 +0000 https://thestandard.co/?p=844112 endota spa

เชื่อว่าสายคลีนบิวตี้คงจะคุ้นเคยกันดีกับ endota แบรนด์ส […]

The post จากออสเตรเลียสู่ไทย endota spa เปิดตัวแห่งแรกในเอเชียที่ InterContinental Bangkok appeared first on THE STANDARD.

]]>
endota spa

เชื่อว่าสายคลีนบิวตี้คงจะคุ้นเคยกันดีกับ endota แบรนด์สปาและสกินแคร์คุณภาพระดับพรีเมียมอันโด่งดังจากออสเตรเลีย ที่ถูกยกให้เป็น ‘Best Australian Beauty Brand’ ถึง 3 ปีซ้อน อีกทั้งยังเป็นแบรนด์สปาอันดับหนึ่งด้าน Well-being จากออสเตรเลีย แถมยังมีสาขามากที่สุดในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

 

ข่าวดีสำหรับใครที่เป็นแฟนตัวยงของแบรนด์นี้ เพราะล่าสุด endota spa ได้เปิดตัวเป็นที่แรกในเอเชีย ณ โรงแรม InterContinental Bangkok ซึ่งงานนี้ Melanie Gleeson ผู้ก่อตั้งแบรนด์ก็ได้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเฉลิมฉลองและต้อนรับการเดินทางครั้งใหม่ของแบรนด์อีกด้วย

 

เพียงตบเท้าเข้าสปาก็จะสัมผัสได้ถึงความสงบในจิตใจด้วยการตกแต่งที่ล้อไปกับโทนสีอบอุ่นของธรรมชาติ สะท้อนถึงคอนเซปต์ที่ Melanie ตั้งใจสร้าง endota ให้เป็นเสมือนที่พำนักพักพิงปลอบประโลมจิตใจและร่างกาย หลบหลีกจากความวุ่นวาย ความเครียดและความกดดันที่ต้องเจอในแต่ละวัน

 

ในส่วนของทรีตเมนต์นั้นมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่การนวดผ่อนคลายร่างกายไปจนถึงการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก และยังมีโปรแกรมยอดนิยมอย่าง Pregnant Pause สำหรับคุณแม่อีกด้วย

 

แวะไปสัมผัสบริการด้วยตัวเองได้แล้ววันนี้ที่โรงแรม InterContinental Bangkok ชั้น G ตึก President Tower ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.endotathailand.com/

 

endota spa endota spa endota spa endota spa endota spa endota spa endota spa endota spa endota spa endota spa

The post จากออสเตรเลียสู่ไทย endota spa เปิดตัวแห่งแรกในเอเชียที่ InterContinental Bangkok appeared first on THE STANDARD.

]]>
15 คลาสออกกำลัง ระเบิดพลังแบบ Build & Burn! https://thestandard.co/15-build-and-burn-classes/ Thu, 14 Sep 2023 01:06:13 +0000 https://thestandard.co/?p=841427 15 คลาสออกกำลัง

ใครที่เบื่อกับการออกกำลังกายอยู่กับที่หรือทำอะไรซ้ำๆ แล […]

The post 15 คลาสออกกำลัง ระเบิดพลังแบบ Build & Burn! appeared first on THE STANDARD.

]]>
15 คลาสออกกำลัง

ใครที่เบื่อกับการออกกำลังกายอยู่กับที่หรือทำอะไรซ้ำๆ และอยากชาเลนจ์ตัวเอง ลองมาตามรอย 15 คลาสออกกำลังกายสุดเร้าใจที่จะทำให้ทุกคนได้ระเบิดพลัง อัป Heart Rate เบิร์นแบบเหงื่อชุ่ม พร้อมได้บิลด์กล้ามเนื้อแบบเน้นๆ เสริมความแข็งแรงรอบด้าน การันตีได้ว่าตลอดคลาสไม่มีเบื่อแน่นอน!  

 

Titan Class – F45 

F45 เป็นยิมที่เลื่องชื่อเรื่องกรุ๊ปคลาส HIIT (High Intensity Interval Training) ที่มีความเข้มข้นสูงในระยะเวลาสั้นๆ สลับกับการพัก ไม่ว่าเลือกคลาสไหนคุณก็จะได้ออกกำลังกายในรูปแบบ HIIT อยู่ที่ว่าคลาสนั้นจะเน้นการบริหารส่วนใดเป็นพิเศษ แต่หากอยากเน้นเป็นการออกกำลังในรูปแบบ Resistance แนะนำให้ลอง Titan Class ได้เวตเน้นๆ สมใจแน่นอน

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-20.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-12.00 น.

Address: B1 Floor, Mahanakhon CUBE

Budget: Drop-in 700 บาทต่อคลาส, 3 คลาสเริ่มต้นที่ 1,800 บาท, Unlimited 1 เดือน เริ่มต้นที่ 4,900 บาท

Contact: https://www.instagram.com/f45_training_silom/ 

 

Native Cycle

ลบภาพการปั่นจักรยานในสวนไปก่อน เพราะคลาสที่ Native Cycle เป็นการปั่นจักรยานแบบ Rhythm Cycling 45 นาที หรือการปั่นตามจังหวะของเสียงเพลงสุดระทึกที่มีทั้งหนักสลับเบา และยังมีการใช้เวตเทรนนิ่งในคลาสอีกด้วย 

 

สำหรับการเตรียมตัว ขอแค่สวมใส่ชุดออกกำลังกายที่สะดวกและถุงเท้ามาก็เป็นพอ เพราะที่นี่มีรองเท้าสำหรับปั่นโดยเฉพาะให้ใส่ด้วย

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป, วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-12.00 น.   

Address: 6th Floor, The Fig Lobby  

Budget: Drop-in 890 บาทต่อคลาส, 3 คลาส เริ่มต้นที่ 1,800 บาท 

Contact: https://www.facebook.com/profile.php?id=100081749445595 

 

BASECAMP – BASE

BASE อีกยิมที่เลื่องชื่อกับความเข้มข้นจัดหนักจัดเต็มของกรุ๊ปคลาส โดยเฉพาะ BASECAMP คลาสซิกเนเจอร์ความยาว 55 นาที ที่น่าจะทำให้คุณก้าวข้ามขีดจำกัดตัวเองไปได้ไม่น้อย ประหนึ่งได้มาเข้าแคมป์สมชื่อด้วยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอผสมผสานกับเวตเทรนนิ่งในรูปแบบของ HIIT 

 

โดยภายในคลาสจะแบ่งออกเป็นสเตชันย่อยๆ เช่น ลู่วิ่ง (Assault Runner) เครื่องกรรเชียงบก (Rower) และจักรยาน (Assault Bike) สลับกับการยกเวตด้วยอุปกรณ์ฟรีเวตต่างๆ ตั้งแต่ดัมบ์เบล TRX และอีกมากมาย 

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: เช็กเวลาทำการได้ทางเว็บไซต์ BASE

Address: Thonglor (Noble Remix 2), Sathorn (Sathorn Thani 2), Langsuan (Soi Langsuan) 

Budget: Drop-in 975 บาทต่อคลาส, 7 วัน (Unlimited) 3,900 บาท, 16 คลาส เริ่มต้นที่ 5,400 บาท

Contact: https://www.facebook.com/basebangkok 

 

Cardio Barre – CURVE BKK

ใครอยากเน้นกระชับรูปร่างและไม่กลัวกับความร้าวของร่างกายต้องลองมาเข้าคลาส Cardio Barre ที่เป็นการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง สอนโดยนักเต้นมืออาชีพที่สร้างท่าเต้นและการผสมผสานด้วยท่าออกกำลังกายต่างๆ กับเวตน้ำหนักเบาแบบไม่หยุดตลอด 60 นาที ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณขา ต้นขา และก้น ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบครอบคลุมหลายกลุ่ม ทั้งกล้ามเนื้อมัดใหญ่และเล็ก โดยหนึ่งคลาสสามารถเบิร์นได้สูง 300-500 แคลอรีเลยทีเดียว 

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-20.30 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.30-20.30 น.

Address: 50 Sukhumvit 51 Alley 

Budget: Drop-in 890 บาทต่อคลาส, 3 คลาส เริ่มต้นที่ 2,550 บาท

Contact: https://www.facebook.com/CurveBangkok    

 

Circuit 57- Physique 57

คลาสที่ผสมผสานการออกกำลังกายสไตล์ HIIT และ Barre ด้วยแรงกระแทกต่ำ ซึ่งเป็นศาสตร์ของ Pilates, Body Weight และ Ballet Barre มาประยุกต์เข้าด้วยกัน โดยมีการใช้อุปกรณ์อย่างดัมบ์เบล ลูกบอล และบาร์ เรียกว่าคุณจะได้บริหารทั้งกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็ก เบิร์นไขมัน และได้ปั้นหุ่นใหม่สมใจ เพราะครูฝึกที่นี่มีเทคนิคบริหารกล้ามเนื้อที่ช่วยพาทุกคนก้าวข้ามลิมิตตัวเองชนิดที่ต้องตะโกนว่า “ฉันมาทำอะไรที่นี่!” 

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: เช็กเวลาทำการได้ทางเว็บไซต์ Physique 57

Address: Erawan, Sukhumvit 49, Sathorn 

Budget: Drop-in 1,200 บาทต่อคลาส, 4 คลาส เริ่มต้นที่ 3,600 บาท 

Contact: https://www.facebook.com/Physique57Bkk    

 

Build & Burn – New Moves BKK

ชื่อก็บ่งบอกอย่างชัดเจนกับบิลด์แอนด์เบิร์น ด้วยศาสตร์การออกกำลังกายที่ใช้ 3 Dimensional Weight Training และการออกกำลังกายแบบ HIIT ร่วมกัน โดยจะมีการเปลี่ยนสเตชันไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มความท้าทายและการบริหารกล้ามเนื้อในหลากหลายส่วน 

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-21.30 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น. Address: 518/3 2th Floor, Maneeya Center (North Building)

Budget: Drop-in ครั้งแรก 400 บาทต่อคลาส ครั้งต่อไป 800 บาท, 10 คลาส เริ่มต้นที่ 6,600 บาท 

Contact: https://www.facebook.com/NewMovesBKK     

 

HEAT – The Standard Gym 

The Standard Gym ยิมดีไซน์สุดเก๋ สวยทั้งการตกแต่ง วิว และล้ำด้วยอุปกรณ์ ก็มีกรุ๊ปคลาสออกกำลังกายที่ช่วยเรียกเหงื่อสมใจเช่นกัน อย่างคลาส HEAT เน้นการเคลื่อนไหวสูงเพื่อให้ Heart Rate สูง โดยมีการใช้ทักษะกีฬาในการประกอบคลาส ไม่ว่าจะเป็น Speed, Agility, Balance, Power ออกกำลังกายเสร็จสามารถแวะเติมพลังกับอาหารภายในโรงแรมหรือตึกมหานครข้างๆ ก็ได้นะ 

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: ทุกวัน 24 ชั่วโมง

Address: The Standard, Bangkok Mahanakhon 

Budget: Quickie (รายวัน) 1,000 บาท, One Up (สมาชิกราย 1 เดือน) เริ่มต้นที่ 11,000 บาท 

Contact: https://www.facebook.com/thestandardbangkok 

 

CrossFit & HIIT – CrossFit Club 49

ชื่อคลาสกับชื่อคลับก็บ่งบอกแล้วว่าจะเจอกับอะไร คลาสที่นี่แบ่งเป็นส่วนของ Strength และ Work Out of the Day ส่วนของ Strength จะมีการบริหารท่าจำพวก Squat, Deadlift, Pull up, Snatch, Clean & Jerk เป็นเซ็ต ประมาณ 4-8 เซ็ต ส่วน Work Out of the Day จะเป็นการรวมเอาหลายๆ มูฟเมนต์มารวมกันทำ เช่น For Time ทำมูฟเมนต์หลายๆ ท่าที่กำหนดไว้ให้เสร็จไวที่สุด, AMRAP (As Many Rounds As Possible) ทำให้ได้จำนวนครั้งมากที่สุดในเวลาที่จำกัด, EMOM (Every minute on the minute) ทำท่าตามที่กำหนดในทุกๆ 1 นาที ไม่ต้องเดาว่า Heart Rate จะพุ่งขนาดไหน

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-20.30 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น. 

Address: Sukhumvit 49

Budget: ราคา Drop-in 700 บาทต่อคลาส, สมาชิกราย 1 เดือน เริ่มต้นที่ 5,200 บาท (สมาชิกใหม่ติดต่อทดลองเล่นฟรีครั้งแรกได้กับทางคลับ) 

Contact: https://www.facebook.com/crossfitclub49 

 

OT 360 – Ontrack Gym

360 เป็นคลาสซิกเนเจอร์ 50 นาทีที่รวบตึงระหว่างการออกกำลังแบบ Strength และ CrossFit โดยในส่วนของ Strength จะเป็นการเน้นความแข็งแรงตามชื่อด้วยท่าบริหารกล้ามเนื้อแบบเน้นๆ อย่าง Squat, Deadlift หรือ Pull up เป็นต้น ส่วน CrossFit จะเป็นการผสมผสานท่าออกกำลังกาย โดยทำท่าซ้ำหลายๆ รอบให้ได้จำนวนครั้งมากที่สุดหรือเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือสายฟิตสุดโหดก็สามารถเข้าร่วมคลาสนี้ได้ โดยสามารถเลือกออปชันเท่าที่ร่างกายตัวเองไหว สำหรับใครที่เข้าคลาสนี้ในวันเสาร์ก็สามารถรับบริการ Ice-bath ต่อได้อีกด้วย  

  

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: วันจันทร์, อังคาร และพฤหัสบดี เวลา 08.00-20.30 น., วันพุธ, ศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น. 

Address: 483/1 Rama III Rd  

Budget: ราคา Drop-in ครั้งแรก 500 บาท ครั้งต่อไป 1,000 บาทต่อคลาส, 12 คลาส เริ่มต้นที่ 9,600 บาท

Contact: https://www.instagram.com/ontrackgym/ 

 

Grid Training – Virgin Active

คลาสฮอตประจำคลับที่เรียกว่าหมดแรงทุกครั้งหลังจบคลาส ด้วยการออกกำลังกาย 45 นาที ที่ผสามผสานทั้งบอดี้เวต ดัมบ์เบล เคตเทิลเบล และเครื่องคาร์ดิโอ ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่ง กรรเชียงบก และจักรยาน แต่รูปแบบการออกกำลังกายนั้นจะเวียนเปลี่ยนไปตามวัตถุประสงค์ เช่น พละกำลัง ที่มุ่งเน้นเป็นรูปแบบ EMOM เช่น ถ้าคุณออกกำลังกาย 40 วินาที คุณจะได้เวลาพัก 20 วินาที หรือถ้าคุณออกกำลังกายเสร็จใน 35 วินาที คุณจะได้พัก 25 วินาที และเมื่อขึ้นนาทีใหม่อีกครั้ง หลักๆ จะมุ่งเน้นที่จำนวนครั้ง ไม่ใช่ความเร็ว แต่หากเป็นวัตถุประสงค์กีฬาก็จะเป็น AMRAP ที่เน้นทำจำนวนครั้งสูงสุด

  

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: เช็กเวลาทำการได้ทางเว็บไซต์ Virgin Active

Address: Empire Tower, The EmQuartier, Siam Discovery, Wireless Road, CentralFestival EastVille, 101 True Digital Park

Budget: One Day Pass 800 บาท (ไม่รวม VAT), (สมาชิกใหม่ติดต่อทดลองเล่นฟรีครั้งแรก / สอบถามตารางคลาสได้กับทางคลับ) 

Contact: https://web.facebook.com/VirginActiveThailand 

 

Strong Peach – Iron Hive Gym

คลาสนี้น่าจะถูกใจสาวๆ ที่อยากปั้นก้นเป็นพิเศษ หลักๆ คลาสจะแบ่งเป็น 3 พาร์ต พาร์ตแรกคือการบริหาร Lower Body เน้นในช่วงก้นตรงตามชื่อ Strong Peach พาร์ตที่ 2 จะเป็น Upper Body แล้วตบท้ายด้วยคาร์ดิโอ รวมแล้วคุณจะได้ออกกำลังกายครบทุกส่วนของร่างกายเลยล่ะ

 

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-22.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น. 

Address: 1022 Soi Sukhumvit 42/1 

Budget: ราคา Drop-in 800 บาทต่อคลาส, สมาชิกราย 1 เดือน เริ่มต้นที่ 4,600 บาท 

Contact: https://web.facebook.com/ironhivegym 

 

HardCore – Fitness First

แค่ชื่อก็ฟังดูเหนื่อยแล้วสำหรับ HardCore คลาสเด่นใน Fitness First ที่ช่วยให้คุณได้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อหลายส่วนในคราวเดียว ได้ฝึกทั้งความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อแกนกลาง การทรงตัว ความคล่องตัว ความอดทน เพิ่มประสิทธิภาพและพละกำลังของกล้ามเนื้อ

 

คลาสนี้ยังสามารถใช้เป็นการออกกำลังกายเพื่อการฟื้นฟูสำหรับนักกีฬายกน้ำหนัก หรือใครที่ต้องการสร้างความแข็งแกร่งแก่ร่างกายทั่วร่างได้อีกด้วย

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: เช็กเวลาทำการได้ทางเว็บไซต์ Fitness First

Address: 33 สาขา ดูเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ Fitness First 

Budget: One Day Pass 800 บาท (ไม่รวม VAT) (สมาชิกใหม่ติดต่อทดลองเล่นฟรีครั้งแรก / สอบถามตารางคลาสได้กับทางคลับ) 

Contact: https://www.facebook.com/FitnessFirstThailand 

 

B.Y.O.M. – Cubic Fitness

อีกคลาสที่สายนักปั่นต้องมาลอง โดยปกติแล้วเราอาจเคยชินกับคลาสปั่นจักรยานที่ผู้สอนจัดเพลงมาให้เรียบร้อย แต่สำหรับที่ Cubic Fitness นั้นผู้เข้าคลาสสามารถรีเควสต์เพลงที่ชอบสมกับชื่อคลาส B.Y.O.M. ที่หมายถึง Bring Your Own Music นั่นเอง คลาสสปินของที่นี่จะเป็นการปั่นที่ใส่แรงหนัก ไม่มีการพักใดๆ นอกจากนี้ยังได้สร้างกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น เพราะการเคลื่อนไหวที่โค้ชสอนนั้นเน้นการออกกำลังกายตามจังหวะของเพลง คล้ายกับการเต้นบนจักรยาน ผนวกกับ ‘Weight Song’ แทร็กที่ครูสอนจะให้เหล่านักปั่นได้ใช้ดัมบ์เบลไปด้วย 

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.30-21.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. 

Address: 973 G Floor, President Tower

Budget: ราคา Drop-in 1,200 บาท, 10 คลาส (สำหรับสมาชิกใหม่) ราคาเริ่มต้นที่ 3,900 บาท 

Contact: https://www.facebook.com/TheCubicFitness 

 

FIFTY FIFTY – Encore Training Club  

Encore Training Club คลับที่เพิ่งย้ายมาปักหลักที่โลเคชันใหม่ใหญ่กว่าเดิม แถมคลาส FIFTY FIFTY เองก็เป็นคลาสใหม่อีกเช่นกัน เอกลักษณ์ของบูติกยิมแห่งนี้คือ Strength Training โดยบริการที่ผู้เล่นทุกคนไม่ว่าจะหน้าเก่าหรือใหม่ได้รับคือการดูแลโดยโค้ชอย่างทั่วถึง และการบันทึกน้ำหนักที่ยกได้ในแต่ละครั้งเพื่อเก็บเป็นข้อมูลไว้เปรียบเทียบพัฒนาการของตัวผู้เล่น ประหนึ่งมี Personal Training ประจำตัว รูปแบบคลาส FIFTY FIFTY จะแบ่งเป็นเวตเทรนนิ่งแบบ Total Body ใน 20 นาทีแรกแบบหนักหน่วง คาร์ดิโอใน 20 นาทีหลังแบบหนักหน่วงอีกเช่นกัน เน้นการพักน้อยๆ ตอบโจทย์ใครที่อยากพัฒนาสกิลตัวเองแบบสุดทุกทาง 

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.30-21.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. 

Address: 11th Floor, Phanjaphum Building 

Budget: ราคา Drop-in ครั้งแรก 300 บาท ครั้งต่อไป 900 บาท, 5 คลาส ราคาเริ่มต้นที่ 3,450 บาท 

Contact: https://www.facebook.com/encoretrainingclub  

 

BODYPUMP® 45 – JETTS Fitness  

BODYPUMP คลาสเวตเทรนนิ่งอันเลื่องชื่อจาก Les Mills ที่ใช้สอนในยิมชั้นนำทั่วโลก โดยหลักแล้ว BODYPUMP จะช่วยเสริมสร้างความฟิต ความแข็งแรงของร่างกายทุกส่วน สำหรับ BODYPUMP® 45 จะเป็นคลาสที่ใช้เวลา 45 นาทีในการออกกำลังกับอุปกรณ์อย่างบาร์เบลและเวตเพลตไปพร้อมๆ กับดนตรีสุดเร้าใจ นอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อแบบลีนอีกด้วย

 

15 คลาสออกกำลัง

 

Open: ทุกวัน 24 ชั่วโมง

Address: เช็กสาขาได้ทางเว็บไซต์ JETTS 

Budget: One Day Pass 500 บาท (รวม VAT) 

Contact: https://www.facebook.com/JettsThailand 

The post 15 คลาสออกกำลัง ระเบิดพลังแบบ Build & Burn! appeared first on THE STANDARD.

]]>
Suki Desu คาเฟ่ขนมจากหัวใจที่อยากซัพพอร์ตเกษตรกรโคนมบุรีรัมย์ https://thestandard.co/suki-desu/ Fri, 01 Sep 2023 03:46:13 +0000 https://thestandard.co/?p=836383 Suki Desu

“ในวันที่นมพาสเจอไรซ์มีเจ้าตลาดอยู่แล้ว เราจะต่อยอดนมอย […]

The post Suki Desu คาเฟ่ขนมจากหัวใจที่อยากซัพพอร์ตเกษตรกรโคนมบุรีรัมย์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Suki Desu

“ในวันที่นมพาสเจอไรซ์มีเจ้าตลาดอยู่แล้ว เราจะต่อยอดนมอย่างไรดี?” คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจของ ยุ้ย-ธนาภรณ์ ไชยพฤกษ์

 

ผู้มีพี่ชายคนโตเป็นเจ้าของฟาร์มโคนมที่บุรีรัมย์ ด้วยความที่ตนจบหลักสูตรเชฟทำขนมมาจากสหรัฐอเมริกา ผนวกกับหัวใจที่อยากสนับสนุนเกษตรกรโคนมที่บ้านเกิดร่วมกับสามี ป้อง-พุฒิพงศ์ ล้อประสิทธิ์ เลยผุดไอเดียเปิดร้านขนมขึ้นมาภายใต้ชื่อภาษาญี่ปุ่น ‘Suki Desu’ ที่แปลตรงตัวได้ว่า ‘ฉันชอบ’ คาเฟ่แห่งนี้เลยเปรียบเสมือนเครื่องสะท้อนความชอบของตัวเองเต็มร้อย และในขณะเดียวกันก็อยากให้คนอื่นมาชอบในสิ่งที่ตนทำเช่นกัน 

 

Suki Desu

 

จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2564 ที่บุรีรัมย์…วันนี้ Suki Desu ได้เดินทางมาปักหลักที่กรุงเทพฯ พร้อมให้ทุกคนได้สัมผัสคุณค่าของนมโคที่เกิดจากพลังใจของเกษตรกรท้องถิ่นในกลุ่มสหกรณ์เล็กๆ ที่ชื่อปะคำและโนนสุวรรณ 

 

The Vibe

Suki Desu สาขาสองปักหลักลงที่คอมมูนิตี้มอลล์ Bambini Villa ในช่วงเดือนมีนาคม หากมองดูภาพลักษณ์ของร้านสาขานี้ก็จะสัมผัสได้ชัดๆ ถึงกลิ่นอายญี่ปุ่นพื้นเมือง ทั้งการตกแต่งภายในร้าน เมนูขนมและเครื่องดื่ม และยังมีครัวกระจกใสที่มองเห็นเชฟทำขนมได้เพลินๆ

 

Suki Desu Suki Desu

 

ภายในร้านยังมีโซนขายแดรี่โปรดักต์ภายใต้แบรนด์ WonderMilk Dairy และโชคุปังสำหรับซื้อกลับบ้านอีกด้วย “บางคนอาจจะไม่ชอบดื่มนม เราเลยอยากเอานมมาแปรรูปหลายๆ รูปแบบเพื่อให้ได้รับคุณค่าจากนม หรือถ้าใครที่แพ้นมเราก็มีนมคีโตเช่นกัน” ยุ้ยเสริม

 

Suki Desu

 

ส่วนเบเกอรีและเค้กที่เรียงรายอย่างสวยงามชวนน้ำลายสอหน้าตู้นั้นล้วนเป็นสูตรที่ร้านทำเอง ซึ่งเบเกอรีบางเมนูจะเป็นเมนูพิเศษประจำสัปดาห์อีกด้วย 

 

Suki Desu Suki Desu

 

The Taste

เมนูที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเบเกอรี ขนมญี่ปุ่น เครื่องดื่มตั้งแต่ชาเขียว นม กาแฟโซดา แต่ถ้ามาแล้วเราแนะนำให้สั่งทุกเมนูที่มีนมเป็นส่วนผสม เริ่มจาก Signature Toast (95 บาท) โทสต์ทาเนยที่ชูความเป็นพื้นเมืองของญี่ปุ่น ความเรียบง่ายของขนมจานนี้กลับกลายเป็นจานที่ขายดีที่สุดของร้าน ตัวโชคุปังมีความกรอบนอกนุ่มใน หอมเนย จับคู่กินกับสเปรดชาเขียว แยมสตรอว์เบอร์รีและสับปะรดสูตรโฮมเมดของร้านแล้วได้ความอร่อยคนละแบบ 

 

Suki Desu

 

ต่อด้วย Dango (130 บาท) ดังโงะ ขนมโบราณคู่ใจของชาวญี่ปุ่นที่สายโมจิเป็นต้องหลงรัก ซึ่งสูตรแป้งโมจิของร้านก็ผสมนมด้วยเช่นกัน ดังโงะมีความหนึบหนับกำลังดี กินคู่กับซอสมิตะราชิหวานเค็มฉ่ำๆ และผงคินาโกะที่เสิร์ฟมาด้วยแล้วเข้ากันสุดๆ 

 

Suki Desu

 

มาถึงเบเกอรีจากตู้กันบ้าง เริ่มที่ Melonpan (89 บาท) ขนมปังที่ไม่ได้มีส่วนผสมของเมลอน แต่เป็นขนมปังที่หุ้มด้านบนด้วยคุกกี้น้ำตาลและมีลายแตกบนผิวคล้ายกับผิวเมลอน กินแล้วจะได้ทั้งเท็กซ์เจอร์กรุบกรอบและแป้งนุ่มๆ ในคราวเดียว

 

ส่วนจานข้างๆ คือ Daily Special (89 บาท) เมนูพิเศษเฉพาะเทศกาล ซึ่งสัปดาห์ที่เราไปเป็นครัฟฟินที่เป็นลูกผสมระหว่างครัวซองต์และมัฟฟิน ราดซอสมัทฉะเข้มข้น ท็อปด้วยถั่วอัลมอนด์กรุบกรอบ ชิ้นนี้ต้องติดดาวให้จริงๆ ด้วยเท็กซ์เจอร์ที่เคี้ยวสนุกทั้งคำ ความหอมเนยของตัวแป้งที่เข้ากันได้ดีกับความหวานหอมของซอสมัทฉะด้านบน

 

Suki Desu

 

Greek Yogurt Parfait (185 บาท) กรีกโยเกิร์ตทำเองท็อปด้วยผลไม้สดอย่างพีช ส้ม สตรอว์เบอร์รี และบลูเบอร์รี แทรกเลเยอร์ด้วยครัมเบิลกรุบกรอบ เมนูนี้ร้านภูมิใจนำเสนอเป็นพิเศษ แถมยังตั้งใจอยากให้เป็นอันดับหนึ่งของกรีกโยเกิร์ตอีกด้วย ตัวโยเกิร์ตที่ทำเสิร์ฟในครั้งนี้เป็นสูตรคีโตเฟรนด์ลี

 

Suki Desu

 

ลองตักจากเลเยอร์ล่างสุดเข้าปากคำโตๆ แล้วถึงกับต้องตาลุกวาว อร่อยมาก! ความสดของผลไม้ เนื้อนุ่มละมุนของกรีกโยเกิร์ต ครัมเบิลที่ฉ่ำไปด้วยน้ำผึ้งดอกลำไย คอมบิเนชันทุกอย่างเพอร์เฟกต์แบบเต็มสิบ 

 

Suki Desu

 

จัดเต็มกับขนมไปแล้วต้องมาจิบเครื่องดื่มแก้ฝืดคอกันบ้าง เริ่มจาก Matcha Latte Premium (160 บาท) ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับวากาชิ เนริกิริ ขนมพื้นเมืองของญี่ปุ่นที่ทำจากถั่วขาว ใครที่เป็นสายมัทฉะลาเต้น่าจะถูกใจแก้วนี้ ด้วยรสชาติอันเข้มข้นของมัทฉะและความหอมนมแท้ๆ แบบไม่หวาน

 

Suki Desu

 

มาถึงหมวดกาแฟกันบ้างกับ Dirty Coffee (140 บาท) กาแฟรสชาติเข้มข้นหอมมันนมที่เราแนะนำให้ลอง แต่หากไม่ดื่มนมก็สามารถสั่งเป็น Americano (100 บาท) ได้เช่นกัน กาแฟที่นี่จะเป็นคั่วกลาง น่าจะถูกใจใครที่ไม่ชอบกาแฟเปรี้ยว

 

Suki Desu Suki Desu

 

Good for…

นอกจากครอบครัวที่พาเด็กเล็กมาใน Bambini Villa แล้ว Suki Desu ยังตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบเบเกอรีกลิ่นอายญี่ปุ่น และที่สำคัญคือเป็น Dairy Lover นอกจากคุณจะได้เอ็นจอยกับเมนูขนมและเครื่องดื่มจากนมคุณภาพดีแล้ว คุณยังได้สนับสนุนเกษตรกรโคนมท้องถิ่นไปพร้อมๆ กันอีกด้วย 

 

Suki Desu

 

Suki Desu

Open: เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.

Address: Bambini Villa, Sukhumvit 26

Instagram: https://www.instagram.com/sukidesubambini/  

Facebook: https://www.facebook.com/sukidesumilkandbread 

Budget: เริ่มต้นที่ 95 บาท 

Map: 

 

 

ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์

The post Suki Desu คาเฟ่ขนมจากหัวใจที่อยากซัพพอร์ตเกษตรกรโคนมบุรีรัมย์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
365 Days Jazz Bar บาร์แจ๊สสไตล์บ้านเพื่อนฝรั่งที่เสิร์ฟค็อกเทลสุดคราฟต์ https://thestandard.co/365-days-jazz-bar/ Sun, 27 Aug 2023 09:49:11 +0000 https://thestandard.co/?p=834342 365 Days Jazz Bar

ใครขับรถผ่านถนนเส้นสุรวงศ์ก็คงเป็นต้องสะดุดตากับร้านอาห […]

The post 365 Days Jazz Bar บาร์แจ๊สสไตล์บ้านเพื่อนฝรั่งที่เสิร์ฟค็อกเทลสุดคราฟต์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
365 Days Jazz Bar

ใครขับรถผ่านถนนเส้นสุรวงศ์ก็คงเป็นต้องสะดุดตากับร้านอาหารชื่อดังอย่างสมบูรณ์โภชนาที่ตั้งตระหง่านอยู่หัวมุมสามแยก หากเลยไปอีกไม่ถึงร้อยเมตรแล้วไม่ทันสังเกตก็คงไม่รู้ว่ามีบาร์แจ๊สไวบ์ดีซ่อนอยู่ บาร์แห่งนี้มีชื่อว่า 365 Days Jazz Bar ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

 

365 Days Jazz Bar

 

The Vibe

เดิมทีพื้นที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมด้านข้างที่เจ้าของสนองแพสชันที่มีต่อดนตรีแจ๊ส ด้วยการเนรมิตเป็นบาร์เพื่อให้ตัวเองได้แวะมาพักใจ ฟังแจ๊สหลังเลิกงาน และที่สำคัญคือต้องเป็นบาร์ที่ให้ความรู้สึกสบาย ไม่อึกทึก ไม่อึดอัด ไม่ต้องแต่งตัวเลิศหรูก็แวะมาได้ ประหนึ่งแวะมานั่งเล่นบ้านเพื่อน และต่อให้แวะมาคนเดียวก็ต้องไม่รู้สึกเกร็ง 

 

พอผลักประตูเข้าไปปั๊บ ความรู้สึกแรกคือ ‘สบายจัง’ สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือบาร์ที่ส่องสว่างพร้อมเก้าอี้หนังเรียงราย ท่ามกลางไฟในร้านที่ถูกดิมให้สลัวและบทเพลงของ Louis Armstrong ที่เปิดอยู่ 

 

365 Days Jazz Bar

 

มองไปรอบๆ เห็นถึงการตกแต่งโทนไม้ด้วยสีของเฟอร์นิเจอร์ วอลล์เปเปอร์ หากเดินลัดเลาะเข้าไปด้านในตัวร้านอีกนิดก็จะสัมผัสถึงกลิ่นอายวินเทจยิ่งขึ้นด้วยวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้ โคมไฟยุคก่อน 

 

365 Days Jazz Bar 365 Days Jazz Bar 365 Days Jazz Bar

 

ตลอดจนแผ่นไวนิลและภาพของศิลปินแจ๊สระดับตำนานที่ประดับอยู่บนกำแพง ซึ่งล้วนทำให้รู้สึกว่าเรากำลังแวะมาเที่ยวบ้านเพื่อนฝรั่งคนหนึ่งที่มีหัวใจแจ๊สอย่างแท้จริง

 

365 Days Jazz Bar 365 Days Jazz Bar 365 Days Jazz Bar

 

The Taste

ดริงก์ของที่นี่จะเน้นเป็นค็อกเทลที่มีความคราฟต์ (แบบจริงจัง) ในวัตถุดิบและส่วนผสมที่ใช้ โดยจะเป็นการใช้ผลไม้สดมาทำทั้งหมด เพื่อให้คนดื่มได้รสชาติของน้ำผลไม้สดและความหวานแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ใช่จากไซรัป ยกเว้นในหมวดคลาสสิกค็อกเทลบางตัวที่ต้องมีบ้างเพื่อให้ได้รสชาติตามสูตร ซึ่งน้ำผลไม้ที่ได้จากการคั้นสดนั้นก็ยังต้องนำมาเข้าสู่กระบวนการคราฟต์ให้ได้รสชาติที่มีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น ตัวแก้วที่ใช้เสิร์ฟก็ยังต้องแช่เย็นติดลบ 20 องศา เพื่อรักษาอุณหภูมิดริงก์ และอีกจุดที่ทางร้านให้ความสำคัญคือรสชาติที่ต้องบาลานซ์ตามสโลแกนที่บาร์เทนเดอร์กระซิบมา “เหล้าถึง…แต่กินง่าย” แต่หากใครไม่ดื่มค็อกเทล ที่นี่ก็มีไวน์ด้วยเช่นกัน

 

365 Days Jazz Bar 365 Days Jazz Bar

 

ขณะนั่งหน้าบาร์ก็เหลือบไปแผ่นเมนูที่ชวนสะดุดตากับหมวด Signature Cocktail 8 แก้ว ด้วยชื่อแต่ละแก้วที่ตั้งตามบทเพลงแจ๊สในตำนาน ซึ่งทางร้านเสริมว่าลิสต์ค็อกเทลที่เห็นในเมนูก็คือเรียงลำดับความแรงจากน้อยไปมากไว้แล้วเรียบร้อย เริ่มกันที่ Cheek to Cheek (380 บาท) ที่เหมาะเป็นแก้วสตาร์ทเตอร์ ด้วยรสชาติที่ดื่มง่าย หอมกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำเก๊กฮวย น้ำสับปะรดคั้นสด เพิ่มความหอมหวานด้วยฮันนี่จิงเจอร์  

 

365 Days Jazz Bar 365 Days Jazz Bar 365 Days Jazz Bar

 

เพิ่มความสดชื่นขึ้นมาหน่อยกับ Fly Me to the Moon (380 บาท) วอดก้าผสมกับชากุหลาบผิวส้ม น้ำมะพร้าว ท็อปด้วยโฟมยูซุเนื้อละมุนและผลไม้ ที่แน่นอนว่าทางร้านนำไปคราฟต์เองอีกเช่นกัน     

 

365 Days Jazz Bar

 

ระหว่างที่กำลังเอ็นจอยกับค็อกเทล ทางร้านแนะนำให้ลอง Cold Cut (420 บาท) ที่ใช้ชีสนำเข้าจากอิตาลีมากินเล่น ถ้าคุณเป็นสายชีสเราแนะนำว่าสั่งเถอะ ต่อให้คุณจะไม่ดื่มไวน์ในวันนั้นก็ตาม เพราะชีสที่นี่คือดีแบบเต็มสิบด้วยคุณภาพและรสชาติที่กินง่ายอร่อยเพลิน เผลอแป๊บเดียวทีม LIFE ก็หยิบกันหมดถาดแล้ว

 

365 Days Jazz Bar 365 Days Jazz Bar

 

ต่อกันด้วย In a Sentimental Mood (380 บาท) ที่เริ่มมีดีกรีความแรงขึ้นมาแบบรู้สึกได้ด้วยเบสเป็นจิน ชาเขียวที่นำไป Clarify ฟลอรัลเบียร์ไซรัป และเปปเปอร์เมลอน รสชาติโดยรวมจะมีความขมเล็กๆ แต่ยังให้ความรู้สึกสดชื่นอยู่

 

365 Days Jazz Bar

 

เดินทางมาถึงครึ่งทางกับ Tenderly (380 บาท) ค็อกเทลสีชมพูสวยหวานตกแต่งด้วยผลไม้และดอกไม้ด้านบน ซึ่งรสชาติออกเป็นสไตล์ฟรุตตี้ฟลอรัลตามหน้าตาจริงๆ ด้วยเบสเป็นฟลอรัลจิน เพิ่มความเปรี้ยวหวานสดชื่นด้วยกุหลาบและราสป์เบอร์รี น้ำแอปเปิ้ล น่าจะเป็นแก้วที่ถูกใจสาวๆ กันไม่น้อย

   

365 Days Jazz Bar

 

Turn Me On (380 บาท) แก้วนี้ชวนให้นึกถึงรสชาติของนมเปรี้ยวโซดาที่ชอบดื่มในวัยเด็ก แต่แน่นอนว่าเวอร์ชันนี้มาในแบบผู้ใหญ่แล้วด้วยเบสเป็นรัม น้ำแอปเปิ้ลเขียวที่ถูกเพิ่มความหอมด้วยใบไทม์ น้ำสับปะรด กุหลาบ และซิตรัส ซึ่งต้องบอกว่าเป็นแก้วที่ค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียว ด้วยรสชาติที่ยังคงดื่มง่าย สดชื่น ยิ่งกินพาร์เมซานชีสด้านบนด้วยแล้วเข้ากันได้อย่างน่าประหลาด

 

365 Days Jazz Bar

 

และแล้วก็เข้าสู่แก้วที่ติดอันดับความแรงระดับต้นๆ ของที่นี่กับ Time After Time (420 บาท) ที่มีเหล้าทั้งหมด 4 ตัว, วิสกี้, เหล้าองุ่น 2 ตัว Canasta Grape Sherry กับ Rosso Vermouth, เหล้าถั่ว Amaretto แต่งกลิ่นด้วยอบเชยรมควัน และด้านบนก็ยังมีการท็อปด้วยช็อกโกแลตที่ทางร้านทำเองและองุ่น 

 

365 Days Jazz Bar

 

เทคนิคการดื่มแก้วนี้คือ จิบ กัดองุ่น แล้วตามด้วยช็อกโกแลต โน้ตแรกที่สัมผัสได้จากแก้วนี้คือกลิ่นที่ชวนให้นึกถึงเชอร์รีที่ประดับบนไอศกรีม Swensen’s และความแรงของเหล้าที่ถึงกับอุทานว่า “หมดแก้วนี้คือขิต” ซึ่งทางบาร์เทนเดอร์ก็ต้องถึงกับแซว “หมดแก้วนี้ไม่ขิต แต่ไปสวรรค์แทนเพราะใช้ของดี” ถือเป็นแก้วที่มีรสชาติเข้มข้นถึงใจจริงๆ 

 

และแล้วก็มาถึงแก้วที่เรายกให้เป็นที่สุดของค่ำคืนนี้ Hello Dolly (420 บาท) ค็อกเทลวิสกี้เบสที่มีส่วนผสมชูโรงเป็นไวน์ผลไม้คราฟต์ เลยถือโอกาสนั่งฟังบาร์เทนเดอร์เล่ากรรมวิธีการทำไวน์คราฟต์ที่ว่าสักหน่อย  

 

365 Days Jazz Bar

 

นั่งฟังอยู่เกือบ 5 นาทีก็ได้แต่คิดว่า “เอาเงินเราไปเถอะ” (แต่ละขั้นตอนดูเหนื่อยเหลือเกิน) นอกจากแก้วนี้จะมีไวน์ผลไม้คราฟต์พิเศษสุดพิถีพิถันแล้ว ก็ยังมีเสาวรสที่ขูดสดลูกต่อลูก น้ำแอปเปิ้ล ซิตรัส เสิร์ฟพร้อมเชอร์รีและทองคำเปลวด้านบน สำหรับวิธีการดื่มน้ำจะจิบลิ้มรสทีละเลเยอร์หรือคนไปเลยก็ได้เพื่อรสชาติที่เข้มข้น ถือเป็นแก้วที่รสชาติค่อนข้างตราตรึงในทุกมิติจริงๆ 

 

365 Days Jazz Bar

 

หากใครอยากได้ค็อกเทลรสชาติตามใจฉันก็สามารถสั่งเป็นแบบ Special Mystery Cocktail (420 บาท) ได้เช่นกัน โดยที่เราสามารถพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ถึงรสชาติที่ชอบได้เลย 

 

ในส่วนของดนตรีแจ๊สสดที่นี่จะมีการเปลี่ยนสไตล์เพลงไปทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นแนว Jazz Diva ที่ใช้พลังเสียง, Standard Jazz เน้นร้องเพลงเก่า หรือ Pop Jazz ที่เป็นการหยิบยกเพลงดังยอดฮิตมาคัฟเวอร์เป็นสไตล์แจ๊ส ซึ่งแนวที่เราได้มาฟังในครั้งนี้คือ Standard Jazz โดยวง Penny Quartet ที่จะบรรเลงทุกคืนวันศุกร์ หากถามว่าฟังแล้วเคลิ้มแค่ไหนให้ภาพเล่าเรื่อง แขกที่แวะเวียนมาในร้านถึงกับต้องลุกขึ้นมาเต้นกันเลยทีเดียว 

 

365 Days Jazz Bar 365 Days Jazz Bar 365 Days Jazz Bar

 

Good For

ปัจจุบันมีบาร์แจ๊สหลายที่ แต่ถ้าอยากได้บาร์แจ๊สที่มีความโคซี่ อบอุ่น และเป็นกันเอง ไม่ต้องใส่สูทหรือส้นสูง และมีค็อกเทลดีๆ ที่จริงจังเรื่องส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ 365 Days Jazz Bar คือคำตอบ 

 

365 Days Jazz Bar

 

365 Days Jazz Bar 

Open: เปิดทุกวัน เวลา 19.00-01.00 น. (ดนตรีสด วันพฤหัสบดี-เสาร์ เวลา 21.00-00.00 น.) 

Address: 173/8-9 ถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก (ติดกับ G Boutique Hotel Surawong) 

Instagram: https://www.instagram.com/365daysjazzbar/   

Budget: ค็อกเทลเริ่มต้นที่ 320 บาท 

Map: 

 

 

ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์

The post 365 Days Jazz Bar บาร์แจ๊สสไตล์บ้านเพื่อนฝรั่งที่เสิร์ฟค็อกเทลสุดคราฟต์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘HEAL’ เวิร์กช็อปโดย RCB Experimental Art Lab ที่ชวนทุกคนมาสำรวจจิตใจด้วยการวาด-เขียน https://thestandard.co/heal-rcb-experimental-art-lab/ Sat, 26 Aug 2023 13:20:00 +0000 https://thestandard.co/?p=834151 HEAL

เนื่องจากวันที่ 10 กันยายนของทุกปีตรงกับวันป้องกันการฆ่ […]

The post ‘HEAL’ เวิร์กช็อปโดย RCB Experimental Art Lab ที่ชวนทุกคนมาสำรวจจิตใจด้วยการวาด-เขียน appeared first on THE STANDARD.

]]>
HEAL

เนื่องจากวันที่ 10 กันยายนของทุกปีตรงกับวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก (World Suicide Prevention Day) ‘RCB Experimental Art Lab’ อาร์ตแล็บที่คอยสนับสนุนให้เหล่าศิลปินได้ใช้เป็นพื้นที่ปล่อยของ จึงเชิญชวนให้ทุกคนมาตระหนักรู้ถึงปัญหาสุขภาพจิต และสำรวจจิตใจผ่านเวิร์กช็อปซีรีส์ ‘HEAL’ กับศิลปะสองแขนงที่แตกต่างกันคือ การวาด และ การเขียน โดยสองผู้นำเวิร์กช็อปชื่อดัง 

 

‘Teardrops: An Art Expression Workshop’ น้ำตามาพร้อมกับคำลาและการมาของจุดเริ่มต้น โดย คุณสาลี่ หรือ Warily ศิลปินและนักวาดผู้มากความสามารถ ที่จะชวนคุณมาปลดปล่อยความรู้สึกที่หลากหลายผ่านการใช้สี กิจกรรมมากมาย รวมทั้งการสร้างพื้นที่ซึ่งช่วยประโลมจิตใจให้เราพร้อมก้าวเข้าสู่จุดเริ่มต้นใหม่ๆ 

 

HEAL

 

วัน-เวลา: วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 14.00-16.00 น.
ราคาบัตร: 1,950 บาท 

สถานที่: ห้อง RCB Forum ชั้น 2 River City Bangkok

 

‘Healing the Self through the Art of Writing’ 

เยียวยาตัวเองผ่านการเขียน โดย วีรพร นิติประภา นักเขียนดับเบิลซีไรต์จากเรื่อง ‘ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต’ (2558) และ ‘พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ’ (2561) เวิร์กช็อปนี้จะทำให้คุณเข้าใจความเจ็บปวดภายในของตนเอง และเยียวยาตนเองผ่านทางการเขียน อีกทั้งยังสามารถนำเรื่องราวเหล่านี้มาพัฒนาเป็นงานเขียนต่อไปในอนาคต 

 

HEAL

 

วัน-เวลา: วันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 13.00-17.30 น.
ราคาบัตร: 2,800 บาท 

สถานที่: ห้อง RCB Forum ชั้น 2 River City Bangkok

 

ใครที่อยากจะค้นใจและเข้าใจความรู้สึกลึกๆ ของตัวเองมากขึ้น สามารถลงทะเบียนเข้าเวิร์กช็อปได้ทาง www.ticketmelon.com/rivercitybangkok/movie-program

The post ‘HEAL’ เวิร์กช็อปโดย RCB Experimental Art Lab ที่ชวนทุกคนมาสำรวจจิตใจด้วยการวาด-เขียน appeared first on THE STANDARD.

]]>