ตฤณ ตารพล – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 13 Feb 2024 10:03:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 นักลงทุนสถาบันที่ยังเชื่อมั่นในบล็อกเชนเหลือเพียง 7% https://thestandard.co/institutional-investors-believe-in-blockchain/ Tue, 13 Feb 2024 10:03:26 +0000 https://thestandard.co/?p=899207

ในรายงานล่าสุดของ JPMorgan สถาบันการเงินชั้นนำของโลก จา […]

The post นักลงทุนสถาบันที่ยังเชื่อมั่นในบล็อกเชนเหลือเพียง 7% appeared first on THE STANDARD.

]]>

ในรายงานล่าสุดของ JPMorgan สถาบันการเงินชั้นนำของโลก จากการสำรวจข้อมูลของนักลงทุนสถาบันมากกว่า 4,000 คน พบว่า มีความเปลี่ยนแปลงมุมมองความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยเหลือเพียงแค่ 7% เท่านั้นที่ยังเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีบล็อกเชนว่าจะเติบโตในช่วง 3 ปีต่อจากนี้

 

ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากช่วงปี 2022 อย่างมีนัยสำคัญ ที่นักลงทุนสถาบันเคยมีความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีบล็อกเชนมากถึง 25% ของผู้เข้าทำแบบสำรวจ คิดเป็นการปรับตัวลงกว่า 72% เลยทีเดียว

 

จากตัวเลขเหล่านี้ยังพบว่า 78% ของผู้ตอบแบบสำรวจนี้ ไม่มีแผนที่จะเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลแม้แต่น้อย ในขณะที่ 9% ของผู้เข้าร่วมมีกิจกรรมการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอีก 12% มีแผนจะลงทุนในตลาดคริปโตภายใน 5 ปีนี้

 

แม้ความนิยมและความเชื่อมั่นของบล็อกเชนต่อนักลงทุนจะลดลงดังที่กล่าวมา แต่ก็ยังติดเทรนด์อันดับ 3 ของแบบสำรวจที่นักลงทุนยังจับตามอง รองลงมาจาก AI (Artificial Intelligence) ที่ 61% และ API Integration ที่ 13%

 

ซึ่งดูเหมือนว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงพ้นจุดต่ำสุดของกระแสคริปโตแล้ว เนื่องจากข้อมูลของ Galaxy Digital ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 ทั้งจำนวนดีลการซื้อ-ขายกิจการคริปโตและจำนวนเงินลงทุนในคริปโตก็เป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2020

 

ในรายงานของ Galaxy Digital ก็ได้เผยว่า สภาพแวดล้อมการระดมทุนในแวดวงคริปโตก็นับว่าท้าทายต่อการระดมทุนอย่างมากในช่วงนี้ แต่ก็มีโอกาสกลับมาดีขึ้นในช่วงต่อจากนี้

 

โดยในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2023 ที่ผ่านมา วงการ Venture Capitalist มีการระดมทุนไปได้รวมกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท เป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบปีนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปี 2022 ทั้งยังมีกองทุนใหม่เพิ่มขึ้นมาเป็น 15 กอง จาก 12 กองในช่วงไตรมาสที่ 2 แต่ทั้งนี้ ขนาดของกองทุนก็ลดลงพอสมควรจากช่วงตลาดกระทิง

 

อ้างอิง:

The post นักลงทุนสถาบันที่ยังเชื่อมั่นในบล็อกเชนเหลือเพียง 7% appeared first on THE STANDARD.

]]>
เงินไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF รวมกว่า 3.5 แสนล้านบาท หลังจัดตั้งเพียง 1 เดือน https://thestandard.co/bitcoin-etfs-hit-10-billion/ Mon, 12 Feb 2024 04:01:55 +0000 https://thestandard.co/?p=898700

จากข้อมูลของ BitMEX Research ณ​ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เผย […]

The post เงินไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF รวมกว่า 3.5 แสนล้านบาท หลังจัดตั้งเพียง 1 เดือน appeared first on THE STANDARD.

]]>

จากข้อมูลของ BitMEX Research ณ​ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เผยว่า เงินทุนภายใต้การบริหาร (Asset Under Management) ไหลเข้ากองทุน Bitcoin Spot ETF มูลค่ารวมแล้วกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.5 แสนล้านบาท หลังอนุมัติกองทุนมาเพียงแค่ 1 เดือน

 

ย้อนกลับไป ณ วันที่ 9 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่มีการอนุมัติกองทุน พบว่ามีเงินทุนไหลเข้ากองทุน 2.7 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ​ 9.4 หมื่นล้านบาท นำโดยกองทุน IBIT ของ BlackRock 

 

ปัจจุบัน IBIT มีการถือครอง Bitcoin รวมกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ​ 1.4 แสนล้านบาท อิงจากมูลค่า Bitcoin ในปัจจุบันที่ประมาณ 48,000 ดอลลาร์​

 

ตามมาด้วยอันดับ 2 อย่าง FBTC ของกองทุน Fidelity ที่มีการถือครอง Bitcoin รวมมูลค่ากว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท ในขณะที่กองทุน ARK 21Shares ก็มีมูลค่าการไหลเข้าของเงินทุนแตะระดับพันล้านดอลลาร์เช่นเดียวกัน

 

ในทางตรงกันข้าม กองทุน GBTC ของ Grayscale มีเงินทุนไหลออกอย่างต่อเนื่องในรอบ 30 วัน มูลค่ากว่า 6.3 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.2 แสนล้านบาท 

 

Eric Balchunas นักวิเคราะห์จาก Bloomberg กล่าวผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า เงินทุนไหลเข้ากองทุน Bitcoin Spot ETF มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงเรื่อยๆ หากเงินไหลออกจาก GBTC อ่อนตัวลง แต่ความมั่นคงของกองทุนเหล่านี้จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

 

การวิเคราะห์ล่าสุดของ ARK Invest ยังประเมินว่า ราคาของ Bitcoin กำลังเคลื่อนไหวเหนือแนวรับทางด้านเทคนิคเส้น 200 วัน (29,902 ดอลลาร์) และเส้นค่าเฉลี่ย (33,487 ดอลลาร์)

 

โดย ARK Invest มีมุมมองต่อการลงทุนใน Bitcoin ว่าจะมาแทนที่สินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างทองคำ ซึ่ง ARK ชี้ว่า ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา Bitcoin มีการปรับตัวขึ้นมากว่า 20 เท่าตัว และในเดือนมกราคม 2024 หนึ่ง Bitcoin สามารถซื้อทองคำได้ 20 ออนซ์ เทียบกับเมื่อเดือนเมษายน 2017 ที่หนึ่ง Bitcoin ซื้อทองคำได้เพียงหนึ่งออนซ์เท่านั้น และจากแนวโน้มของ Bitcoin ที่จะมีความสำคัญต่อโลกการเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ราคาของสินทรัพย์ดังกล่าวก็มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไป

 

อ้างอิง: 

The post เงินไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF รวมกว่า 3.5 แสนล้านบาท หลังจัดตั้งเพียง 1 เดือน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bernstein ประเมินว่า Bitcoin สามารถพุ่งแตะ 70,000 ดอลลาร์ ภายในปี 2024 จากปัจจัยหนุนเพียบ https://thestandard.co/bernstein-bitcoin-70000-usd-2024-estimation/ Wed, 07 Feb 2024 02:36:41 +0000 https://thestandard.co/?p=896899 Bernstein

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 กุมภาพันธ์) นักวิเคราะห์จาก […]

The post Bernstein ประเมินว่า Bitcoin สามารถพุ่งแตะ 70,000 ดอลลาร์ ภายในปี 2024 จากปัจจัยหนุนเพียบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bernstein

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 กุมภาพันธ์) นักวิเคราะห์จาก Bernstein บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน ประเมินว่าราคา Bitcoin จะสามารถทำลายจุดสูงสุดที่ 69,000 ดอลลาร์ สู่ระดับ 70,000 ดอลลาร์ คิดเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนอีกกว่า 65% ภายในปี 2024 โดยไร้ปัจจัยกดดัน พร้อมกับปัจจัยหนุนเพียบ

 

นักวิเคราะห์ยังกล่าวอย่างมั่นใจว่า ณ ระดับราคาของ Bitcoin ในปัจจุบันมีค่าคุ้มผลตอบแทนต่อการลงทุน (Risk Reward Ratio) ที่น่าสนใจอีกด้วย ด้วยปัจจัยบวกจากกระแสเงินไหลเข้าใน Bitcoin Spot ETF สุทธิ (Inflow) ที่เป็นบวก 

 

โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากองทุนเหล่านี้ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีกกว่า 19,000 ดอลลาร์ ซึ่งความต้องการที่เพิ่มขึ้นในระยะยาวจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin จากปริมาณ Bitcoin เองที่มีจำกัด

 

ประกอบกับการที่นักลงทุนจะเริ่มกระจายบางส่วนของพอร์ตการลงทุนมายัง Bitcoin มากขึ้น จากความเชื่อมั่นต่อเหรียญดังกล่าวที่มากขึ้น และการเปลี่ยนมุมมองมาเป็นว่าสินทรัพย์ดังกล่าวมีความมั่นคง

 

Gautam Chhugani และ Mahika Sapra นักวิเคราะห์ของ Bernstein ยังเขียนโน้ตกับนักลงทุนว่า การเปิดตัว 10 กองทุน Bitcoin Spot ETF ของสถาบันการเงินต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมายังได้เคยผลักดันราคาของ Bitcoin ให้แตะ 49,000 ดอลลาร์ได้แล้ว ก่อนจะปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 42,600 ดอลลาร์ในปัจจุบัน ทำให้ในช่วงราคาที่ 42,000-43,000 ดอลลาร์ มีส่วนลดและคุ้มค่าต่อความเสี่ยง

 

นอกจากนี้ Bernstein ยังมองว่าปัจจัยบวกทางมหภาคยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่สำคัญ จากการที่ Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ยจากระดับ 5-5.25% ลง ทำให้การออมเงินสดมีความน่าสนใจน้อยลง และโยกเงินไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

 

หรือแม้แต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะถึงนี้ หากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้ง ก็อาจทำให้นโยบายการกำกับดูแลเป็นมิตรต่อคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น ทำให้ภาพรวมตลาดเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

 

Anthony Scaramucci ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการของ SkyBridge เฮดจ์ฟันด์ด้านการลงทุน ยังประเมินว่า Bitcoin มีโอกาสแตะ 170,000 ดอลลาร์ภายในกลางถึงปลายปี 2025 เช่นกัน

 

อ้างอิง: 

The post Bernstein ประเมินว่า Bitcoin สามารถพุ่งแตะ 70,000 ดอลลาร์ ภายในปี 2024 จากปัจจัยหนุนเพียบ appeared first on THE STANDARD.

]]>
JPMorgan ชี้ การที่เหรียญ USDT ครองมาร์เก็ตแชร์เบอร์หนึ่งในตลาด Stablecoin เป็นเรื่องร้ายของวงการคริปโต https://thestandard.co/jpmorgan-usdt-stablecoin-crypto/ Tue, 06 Feb 2024 01:40:55 +0000 https://thestandard.co/?p=896438 Stablecoin

ในรายงานวิจัยล่าสุดของ JPMorgan เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน (1 […]

The post JPMorgan ชี้ การที่เหรียญ USDT ครองมาร์เก็ตแชร์เบอร์หนึ่งในตลาด Stablecoin เป็นเรื่องร้ายของวงการคริปโต appeared first on THE STANDARD.

]]>
Stablecoin

ในรายงานวิจัยล่าสุดของ JPMorgan เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน (1 กุมภาพันธ์) ชี้ว่า การขึ้นครองส่วนแบ่งทางการตลาดเบอร์หนึ่งในตลาด Stablecoin ของเหรียญ USDT ถือว่าเป็นเรื่องร้ายของวงการคริปโตเคอร์เรนซีในภาพรวม

 

โดยงานวิจัยเผยว่า ล่าสุด Tether มีการเติบโตทั้งในแง่มูลค่าตามตลาด (Market Capitalization) และส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) อย่างรวดเร็วจากการที่มีผู้ใช้ทั้งใน CeFi (Centralized Finance) และ DeFi (Decentralized Finance) มากขึ้น

 

และในช่วงสัปดาห์ก่อน Tether ก็รายงานผลกำไรไตรมาส 4 ของบริษัทว่าแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาที่ 2.85 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท พร้อมกับมูลค่าตามตลาดของเหรียญ USDT ที่ 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท

 

แต่ทั้งนี้ Nikolaos Panigirtzoglou นักวิเคราะห์ของ JPMorgan กล่าวว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันของเหรียญ Stablecoin โดยรวมที่กำลังเผชิญกับการฟ้องร้องจากศาลและการกำกับดูแลในประเด็นต่างๆ 

 

ทำให้ Tether (USDT) ซึ่งเป็นเหรียญเบอร์หนึ่งในตลาด Stablecoin มีความเสี่ยงมากที่สุดต่อการโดนฟ้อง เนื่องจากขาดการดำเนินตามกฎระเบียบอย่างรัดกุม รวมไปถึงความโปร่งใสที่ยังไม่ชัดเจน

 

ทางด้านงานวิจัยดังกล่าวได้กล่าวต่อไปว่า นี่อาจเป็นโอกาสสำหรับเหรียญ Stablecoin ที่มีการดำเนินทางกฎหมายได้อย่างถูกต้องตามกฎระเบียบและมีความโปร่งใส ให้สามารถแย่งส่วนแบ่งได้อย่างรวดเร็วหากเหรียญเบอร์ต้นโดนภาครัฐเล่นงาน

 

ซึ่ง Circle ผู้ออกเหรียญ USDC หนึ่งในเหรียญ Stablecoin เบอร์ต้นๆ ของตลาดที่กำลังมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อาจเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีโอกาสได้รับผลบวกจากการกำกับดูแลที่เข้มข้นขึ้นในครั้งนี้  

 

อ้างอิง: 

The post JPMorgan ชี้ การที่เหรียญ USDT ครองมาร์เก็ตแชร์เบอร์หนึ่งในตลาด Stablecoin เป็นเรื่องร้ายของวงการคริปโต appeared first on THE STANDARD.

]]>
โดนัลด์ ทรัมป์ มอง AI อาจเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่น่ากลัวที่สุดของโลกตอนนี้ https://thestandard.co/trump-ai-most-dangerous-thing/ Mon, 05 Feb 2024 03:05:41 +0000 https://thestandard.co/?p=896043

ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Fox Business ช่วงวันอาทิตย์ที […]

The post โดนัลด์ ทรัมป์ มอง AI อาจเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่น่ากลัวที่สุดของโลกตอนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>

ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Fox Business ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 กุมภาพันธ์) โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อประเด็นด้าน AI (Artificial Intelligence) โดยเขากล่าวว่า “AI อาจเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่น่ากลัวที่สุดที่มีอยู่ในตอนนี้ จากการที่เรายังไม่มีวิธีการแก้ปัญหาและป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”

 

โดยทรัมป์มองว่าด้วยพัฒนาการของ AI ในปัจจุบันอาจถูกนำไปใช้สำหรับการก่ออาชญากรรม การก่อการร้าย หรือสงครามก็ได้ ซึ่งรัฐบาลและฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรหาทางป้องกันและจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างเร่งด่วนเพื่อลดความรุนแรงของผลร้ายที่อาจเกิดขึ้น

 

ไม่เพียงเท่านั้น ทรัมป์ยังกล่าวถึงประเด็นเกี่ยวกับการทำ ‘Deepfakes’ การปลอมแปลงตัวบุคคลที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี AI ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ก็ยังไม่มีทางแก้ไขสำหรับเรื่องนี้

 

โดยทรัมป์กล่าวถึงประเด็นด้าน Deepfakes ว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อน ผมเห็นคนนำผมไปตัดต่อเพื่อให้พูดเชียร์ขายผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งได้อย่างแนบเนียน ซึ่งผู้คนไม่สามารถแยกออกกับความเป็นจริงด้วยซ้ำไป มันดูเหมือนผมเชียร์ให้ซื้อจริงๆ นะ”

 

ดังที่เคยเกิดอีกเหตุการณ์หนึ่งเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา (31 มกราคม) ก็ยังมีภาพที่ทรัมป์โบกมือทักทายนักข่าวพร้อมกับรอยแผลเลือดออกที่ปลายมือ จนมีการแชร์ไปอย่างรวดเร็วจนเป็นไวรัล ก่อนที่ทรัมป์จะต้องออกมาปฏิเสธว่าไม่มีรอยแผลที่ปลายมือ แต่ภาพนั้นน่าจะโดนแปลงโดย AI

 

อ้างอิง:

The post โดนัลด์ ทรัมป์ มอง AI อาจเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่น่ากลัวที่สุดของโลกตอนนี้ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ARK Invest คาดอนาคตบิทคอยน์ไปได้ถึง 2.3 ล้านดอลลาร์ แนะแบ่งเงิน 19.4% ของพอร์ตไปลงทุน https://thestandard.co/ark-invest-predicts-bitcoin/ Mon, 05 Feb 2024 02:25:57 +0000 https://thestandard.co/?p=896016 ARK Invest

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (31 มกราคม) บทวิจัยล่าสุดจาก ARK I […]

The post ARK Invest คาดอนาคตบิทคอยน์ไปได้ถึง 2.3 ล้านดอลลาร์ แนะแบ่งเงิน 19.4% ของพอร์ตไปลงทุน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ARK Invest

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (31 มกราคม) บทวิจัยล่าสุดจาก ARK Invest บริษัทด้านจัดการการลงทุนภายใต้การบริหารของ เคธี วูด แนะว่า ในปี 2023 ที่บิทคอยน์ทำผลตอบแทนได้ระดับ 100% หากสถาบันการเงินแบ่งเงินลงทุนในพอร์ตไปยังเหรียญดังกล่าวที่สัดส่วน 19.4% ของพอร์ต จะเป็นตัวเลขการกระจายความเสี่ยงเทียบกับผลตอบแทนที่เหมาะสมที่สุด

 

ในบทวิจัยดังกล่าวยังได้ทำตัวเลขผลตอบแทนจากการลงทุนของบิทคอยน์เทียบกับสินทรัพย์หลักๆ อย่างอื่นในช่วง 7 ปีย้อนหลังมานี้ ยังพบว่าอัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยต่อปีของบิทคอยน์สูงถึง 44% ต่อปี ในขณะที่สินทรัพย์ดั้งเดิมมีผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยแค่ราว 5.7% เท่านั้นเอง

 

แม้ความผันผวนในระยะสั้นของบิทคอยน์จะทำให้นักลงทุนสงสัยต่อผลตอบแทนในระยะยาวของบิทคอยน์ก็ตาม แต่หากนักลงทุนที่เชื่อมั่นและลงทุนในเหรียญคริปโตดังกล่าวได้ในระยะเวลาที่นานพอ (Long Term Time Frame) ก็จะสามารถทำผลตอบแทนที่น่าประทับใจได้

 

ซึ่งในงานวิจัยของ ARK ชี้ว่า คำถามสำคัญที่ควรตั้งมากกว่าว่า ‘ควรซื้อ (บิทคอยน์) เมื่อไร’ คือการตั้งคำถามว่า ‘ควรถือ (บิทคอยน์) ไปนานเท่าไร’ ต่างหาก เพราะใครก็ตามที่ถือบิทคอยน์มากกว่า 5 ปี จะทำกำไรได้หมดที่ทุกระดับราคา

 

นอกจากนี้ ARK Invest ยังประเมินว่า ด้วยเงินลงทุนของสถาบันการเงินทั่วโลกที่มีอยู่ทั้งหมดในขณะนี้ มากถึง 250 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8,750 ล้านล้านบาท หากแบ่งไปยังบิทคอยน์ที่ราว 1%, 4.8% และ 19.4% ของเงินดังกล่าว ก็จะทำให้บิทคอยน์สามารถแตะ 120,000 ดอลลาร์, 550,000 ดอลลาร์ และ 2,300,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญตามลำดับได้เลยทีเดียว

 

ในขณะที่ช่วงเดือนมกราคม 2022 นักลงทุนชื่อดังอย่าง เรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้งกองทุน Bridgewater Associates มองว่าการลงทุนบิทคอยน์ในระดับ 1-2% ของพอร์ตจะเป็นตัวเลขที่เหมาะสม เช่นเดียวกับที่ JPMorgan แนะไว้ในปี 2023 ว่าตัวเลขที่เหมาะสมอยู่ที่ระดับ 1% เพื่อเป็นสินทรัพย์ป้องกันความผันผวนจากสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างหุ้น พันธบัตร และโภคภัณฑ์

 

โดยในช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (1 กุมภาพันธ์) บิทคอยน์ทำผลตอบแทนปิดเดือนมกราคมของปี (2024) ไปที่ -2% นับจากต้นปี จากระดับ 45,000 ดอลลาร์ ลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 43,200 ดอลลาร์ หลังปัจจัยการเก็งกำไรของกองทุน Bitcoin Spot ETF จบไปในเดือนมกราคมเป็นที่เรียบร้อย

 

ในขณะที่ราคาเหรียญอื่นๆ ในตลาด อย่าง Ethereum ก็ปรับตัวลงมาเพียงเล็กน้อย -1.7% จากระดับ 2,380 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี มาเคลื่อนไหวบริเวณ 2,311 ดอลลาร์ตามภาวะตลาดคริปโตที่เริ่มชะลอตัวลงจากกระแสเงินที่ไหลออก

 

อ้างอิง:

The post ARK Invest คาดอนาคตบิทคอยน์ไปได้ถึง 2.3 ล้านดอลลาร์ แนะแบ่งเงิน 19.4% ของพอร์ตไปลงทุน appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ ยอมรับไม่เข้าใจ Bitcoin แต่ยังเชื่อมั่นว่าเป็นหลุมหลบภัยจากความเสี่ยงโลกการเงิน https://thestandard.co/robert-kiyosaki-admit-not-understand-bitcoin/ Thu, 01 Feb 2024 02:59:10 +0000 https://thestandard.co/?p=894619 โรเบิร์ต คิโยซากิ

โรเบิร์ต คิโยซากิ นักลงทุนและผู้เขียนหนังสือขายดี ‘Rich […]

The post ‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ ยอมรับไม่เข้าใจ Bitcoin แต่ยังเชื่อมั่นว่าเป็นหลุมหลบภัยจากความเสี่ยงโลกการเงิน appeared first on THE STANDARD.

]]>
โรเบิร์ต คิโยซากิ

โรเบิร์ต คิโยซากิ นักลงทุนและผู้เขียนหนังสือขายดี ‘Rich Dad Poor Dad’ ออกมายอมรับว่า เขาไม่เข้าใจใน Bitcoin เลยด้วยซ้ำ แต่เหรียญดังกล่าวจะเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากระบบการเงินโลกที่กำลังจะพังทลาย

 

วานนี้ (31 มกราคม) โรเบิร์ต คิโยซากิ นักลงทุนและนักเขียนหนังสือดังอย่าง ‘Rich Dad Poor Dad’ ได้ออกมาย้ำเตือนผ่านบัญชีส่วนตัวบนแพลตฟอร์ม X อีกครั้งว่า เขาลงทุนใน Bitcoin เพื่อเป็นสินทรัพย์เบื้องต้นสำหรับการป้องกันความเสี่ยงจากระบบการเงินโลกที่กำลังจะพังทลาย จากการกระทำของสถาบันการเงินต่างๆ และธนาคารกลางสหรัฐฯ 

 

หลังจากที่เคยให้สัมภาษณ์ในรายการทางการเงินเมื่อสัปดาห์ก่อน (24 มกราคม) ว่า “ผมไม่เข้าใจอะไรใน Bitcoin เลยด้วยซ้ำ ผมแค่ลงทุนตามคนฉลาด”

 

โดยกลยุทธ์การลงทุนในตอนนี้ของคิโยซากิ เน้นการถือครองสินทรัพย์อย่าง Bitcoin มากกว่าสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างหุ้น พันธบัตร และสกุลเงินอย่างดอลลาร์ เนื่องจากความเป็นสินทรัพย์ที่กระจายศูนย์กลาง (Decentralization) และป้องกันเงินเฟ้อ (Inflation Hedge) ได้

 

เขายังมอง Bitcoin ว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Secure Asset) ที่สามารถสู้กับเงินเฟ้อ ทั้งยังได้มีการวิจารณ์ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed), เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายธนาคารใน Wall Street ว่า เป็นตัวการหลักในการทำลายมูลค่าของเงิน และย้ายความมั่งคั่งมาสู่กระเป๋าของคนรวย จากการทำให้เกิดเงินเฟ้อ ภาษี และการปั่นราคาหุ้น

 

คิโยซากิยังเขียนย้ำอีกว่า “เก็บเงินแล้วลงทุนใน Bitcoin อย่าไปลงทุนในหุ้น พันธบัตร และเงินจอมปลอมอย่างดอลลาร์”

 

แม้ในตอนนี้ราคาที่แท้จริงของ Bitcoin ยังเป็นที่สงสัย แต่คิโยซากิได้ประเมินให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีฐานะทัดเทียมสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างทองคำและแร่เงินไปแล้ว พร้อมกับเชื่อในศักยภาพในระยะยาวของ Bitcoin ว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เป็นสินทรัพย์การเก็งกำไรอย่างที่ใครหลายๆ คนเข้าใจกัน

 

คิโยซากิยังประเมินว่า Bitcoin มีโอกาสแตะ 120,000 ดอลลาร์ได้ภายในปีนี้ (2024) และมีโอกาสแตะครึ่งล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 และหากเศรษฐกิจพังทลายลงมา Bitcoin ก็อาจปรับตัวขึ้นไปแตะได้ถึง 1 ล้านดอลลาร์

 

ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน ในรายการทางการเงินของช่อง ‘The Rich Dad Channel’ คิโยซากิยังได้ให้ความเห็นว่า “ถึงแม้ผมจะย้ำเตือนให้ลงทุนในทองคำ แร่เงิน และ Bitcoin มาโดยตลอด แต่ถึงอย่างนั้นผมไม่เข้าใจใน Bitcoin เลยด้วยซ้ำ ผมรู้เพียงแค่ว่าคนฉลาดๆ ลงทุนในมัน และขอบคุณพระเจ้า! ผมลงทุนในมัน (Bitcoin) ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น”

 

อ้างอิง: 

The post ‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ ยอมรับไม่เข้าใจ Bitcoin แต่ยังเชื่อมั่นว่าเป็นหลุมหลบภัยจากความเสี่ยงโลกการเงิน appeared first on THE STANDARD.

]]>
PayPal ลงทุนใน Mesh บริษัทด้านความปลอดภัยในคริปโต ด้วยเหรียญ Stablecoin ของตนเอง https://thestandard.co/paypal-mesh-investment/ Wed, 31 Jan 2024 02:00:59 +0000 https://thestandard.co/?p=894101 PayPal

PayPal บริษัทฟินเทคด้านการชำระเงินชั้นนำของโลก ประกาศใน […]

The post PayPal ลงทุนใน Mesh บริษัทด้านความปลอดภัยในคริปโต ด้วยเหรียญ Stablecoin ของตนเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
PayPal

PayPal บริษัทฟินเทคด้านการชำระเงินชั้นนำของโลก ประกาศในข่าวประชาสัมพันธ์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 มกราคม) ว่า PayPal Ventures สายงานด้านการลงทุนของบริษัท มีการเข้าลงทุนใน Mesh บริษัทด้านความปลอดภัยในคริปโต ด้วย  ‘PYUSD’ ซึ่งเป็น Stablecoin ของ PayPal เอง ที่อยู่บนเครือข่าย Ethereum

 

การเคลื่อนไหวในครั้งนี้นับว่าเป็นหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับ ‘PYUSD’ จากการที่ PayPal มีการนำเหรียญดังกล่าวไปใช้ในฐานะตัวกลางสำหรับการลงทุนเป็นครั้งแรก แม้ประเด็นทางกฎหมายกับเหรียญ Stablecoin ยังเป็นที่กังวลจากฝ่ายกำกับดูแลอยู่ในขณะนี้ก็ตาม

 

ก่อนหน้านี้สำนักข่าว Crypto.news เคยรายงานไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ว่า PayPal เคยถูก ก.ล.ต.สหรัฐฯ ฟ้องเกี่ยวกับประเด็นด้านเหรียญ​ Stablecoin อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวก็ยังไม่ชัดเจนนัก

 

นอกจากนี้เหรียญ Stablecoin ที่ค้ำประกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์และพันธบัตรสหรัฐฯ อย่าง ‘PYUSD’ ถูกปล่อยออกมาครั้งแรกในช่วงเดือนสิงหาคม 2023 จากความร่วมมือกับ Paxos บริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานบนคริปโต

 

เหรียญ ‘PYUSD’ ของ PayPal ทำให้ลูกค้าและผู้ใช้งานสามารถแปลงคริปโตไป-กลับกับสกุลเงินดอลลาร์​ได้ง่ายขึ้น เพื่อให้การนำคริปโต (Adoption) ไปใช้เพิ่มมากยิ่งขึ้น 

 

ซึ่งล่าสุดหลังการเปิดตัวมาราว 1 ปี เหรียญ ‘PYUSD’ มีมูลค่าการใช้งานตามตลาดกว่า 300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มากเป็นอันดับ 8 ของโลกจาก Stablecoin ทั้งหมด

 

Amman Bhasin พาร์ตเนอร์ของ PayPal Ventures ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงที่โลกการเงินกำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เขาเชื่อว่าการที่ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของ และสามารถเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ได้อย่างสะดวก จะเป็นจุดสำคัญในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา

 

โดย Mesh เป็นบริษัทฟินเทคที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2020 ที่สามารถเชื่อมต่อเลเยอร์ทางการเงินเข้าด้วยกัน ทั้งยังทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการชำระเงินหรือเทรดด้วยคริปโต โดยมีมากกว่า 300 แพลตฟอร์ม

 

อ้างอิง: 

The post PayPal ลงทุนใน Mesh บริษัทด้านความปลอดภัยในคริปโต ด้วยเหรียญ Stablecoin ของตนเอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ช็อตฟีล! พาร์ตเนอร์ของ Placeholder ประเมินว่า Bitcoin จะร่วงไปแตะ 20,000 ดอลลาร์ หลังแรงเก็งกำไรลดลง https://thestandard.co/placeholder-partner-estimate-bitcoin-fall/ Mon, 29 Jan 2024 02:18:50 +0000 https://thestandard.co/?p=893248 Bitcoin

บนแพลตฟอร์ม X (Twitter) Chris Burniske พาร์ตเนอร์ของบริ […]

The post ช็อตฟีล! พาร์ตเนอร์ของ Placeholder ประเมินว่า Bitcoin จะร่วงไปแตะ 20,000 ดอลลาร์ หลังแรงเก็งกำไรลดลง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Bitcoin

บนแพลตฟอร์ม X (Twitter) Chris Burniske พาร์ตเนอร์ของบริษัท Placeholder ซึ่งเป็น Venture Capital แห่งหนึ่ง ได้แสดงความเห็นไว้ว่า ณ ระดับราคาของ Bitcoin ที่เคลื่อนไหวในกรอบ 40,000-41,000 ดอลลาร์ ในตอนนี้ หาก Bitcoin ปรับตัวลงไปที่ระดับ 30,000 ดอลลาร์กลางๆ หรืออาจลงไปได้ลึกถึง 20,000 ดอลลาร์ ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจเท่าไรนัก เนื่องจากกระแสการเก็งกำไรที่เกิดขึ้นจากปีที่แล้วได้ลดลงไปแล้ว

 

Chris มีมุมมองว่า Bitcoin มีโอกาสปรับฐานได้จากหลายปัจจัย เช่น ภาวะตลาดคริปโตในตอนนี้เมื่อเทียบกับปีก่อน, ภาพรวมของเศรษฐกิจมหภาค, อัตราการนำ Bitcoin ไปใช้ (Adoption) และพัฒนาการของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นต้น สวนทางกับความเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนในตลาดขณะนี้

 

แม้ Chris จะมีมุมมองค่อนไปทางขาลง (Bearish) ในระยะสั้น แต่ในมุมมองระยะยาวแล้วเขาเชื่อว่า Bitcoin จะปรับตัวและอยู่ในทิศทางขาขึ้นในระยะยาว

 

นอกจากนี้นักลงทุนรายดังกล่าวยังกล่าวอีกว่า เขาไม่ได้ปรับลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนลง (De-Risking) หากแต่เปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์ที่ระมัดระวังมากขึ้น

 

ทั้งนี้ Chris ไม่ได้แสดงความเห็นด้านคริปโตกับแค่เหรียญ Bitcoin เท่านั้น แต่เขายังมีมุมมองเชิงบวกต่อเหรียญอันดับ 2 ของตลาดอย่าง Ethereum ด้วย

 

ในช่วงเดือนเมษายนของปี 2023 Chris ยังเคยแสดงมุมมองเชิงบวกต่อเหรียญ Ethereum ด้วย โดยเขาเชื่อว่าการอัปเดต ‘Shanghai’ และ ‘Capella’ ที่รู้จักกันในชื่อ ‘Shapella’ จะทำให้เหรียญ Ethereum เติบโตขึ้นในระยะยาว ซึ่ง ณ ขณะนี้ เหรียญ Ethereum ก็เคลื่อนไหวที่บริเวณ 2,200-2,500 ดอลลาร์

 

อ้างอิง:

The post ช็อตฟีล! พาร์ตเนอร์ของ Placeholder ประเมินว่า Bitcoin จะร่วงไปแตะ 20,000 ดอลลาร์ หลังแรงเก็งกำไรลดลง appeared first on THE STANDARD.

]]>
Tesla ยังถือครอง Bitcoin อยู่เท่าเดิม คิดเป็นมูลค่า 387 ล้านดอลลาร์ แม้ราคาทะยานเกิน 100% https://thestandard.co/teslas-bitcoin-holdings-remain-unchanged-in-q4/ Fri, 26 Jan 2024 07:02:46 +0000 https://thestandard.co/?p=892533 Tesla Bitcoin

สำรวจการเปลี่ยนแปลงของการถือครอง Bitcoin ในบริษัทเอกชนช […]

The post Tesla ยังถือครอง Bitcoin อยู่เท่าเดิม คิดเป็นมูลค่า 387 ล้านดอลลาร์ แม้ราคาทะยานเกิน 100% appeared first on THE STANDARD.

]]>
Tesla Bitcoin

สำรวจการเปลี่ยนแปลงของการถือครอง Bitcoin ในบริษัทเอกชนชั้นนำต่างๆ ณ ช่วงสิ้นไตรมาส 4 ของปี 2023 หลังการปรับตัวขึ้นของ Bitcoin กว่า 100% ในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า Top 3 ของบริษัทผู้ถือครอง Bitcoin ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

 

หลังจากที่จบปี 2023 ไปไม่นานที่ Bitcoin มีการปรับตัวขึ้นมามากกว่า 100% บริษัทเอกชนก็จะเริ่มมีการรายงานงบปิดปีออกมา ซึ่งในบริษัทชั้นนำจำนวนมากเหล่านี้ก็จะมีบางบริษัทที่มีการถือครอง Bitcoin ไว้อยู่มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เช่น Tesla หรือ MicroStrategy เป็นต้น

 

ซึ่ง ณ สิ้นงวดไตรมาส 4 ปี 2023 ที่ผ่านมา Tesla ก็ได้ประกาศออกมาในช่วงวันพุธที่ผ่านมา (24 มกราคม) ว่าการถือครอง Bitcoin ในงบของบริษัทยังคงไม่เปลี่ยนแปลง (ไม่มีการซื้อขายเพิ่มเติม) และด้วยราคาของ Bitcoin ที่ระดับปัจจุบันราว 40,000 ดอลลาร์ ทำให้มูลค่าการถือครองดังกล่าวมากถึง 387 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 13,500 ล้านบาท

 

โดยจากข้อมูลของ Bitcoin Treasuries พบว่า Tesla มีการถือครอง Bitcoin สุทธิ 9,720 เหรียญ และถือว่าเป็นบริษัทเอกชนที่มีการถือครองมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากบริษัทอย่าง MicroStrategy (MSTR) และ Marathon Digital Holdings

 

ซึ่งหากย้อนกลับไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 บริษัท Tesla เข้าลงทุนใน Bitcoin เป็นครั้งแรก ด้วยเงินจำนวน 1.5 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งเป็น Bitcoin จำนวน 43,000 เหรียญ และในตอนนั้น Tesla ยังได้ออกมาประกาศว่าจะเริ่มรับการชำระการซื้อรถของบริษัทด้วย Bitcoin อีกเช่นกัน

 

ก่อนที่ในช่วงปีเดียวกันนั้น Tesla จะเริ่มขาย Bitcoin ออกมาจากสถานการณ์ทางด้าน COVID-19 ที่ทางบริษัทต้องการรักษาเงินสดไว้เพื่อเตรียมการสำหรับความไม่แน่นอน

 

และในท้ายที่สุด ณ ช่วงไตรมาส 2 ปี 2022 ทาง Tesla ก็ได้ออกมาประกาศว่ามีการขายเหรียญ Bitcoin ของบริษัทออกไปกว่า 75%

 

ในขณะที่บริษัทชั้นนำอย่าง MicroStrategy ที่เป็นบริษัทเอกชนที่มีการถือครอง Bitcoin มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2023 ก็มีการถือครองสุทธิถึง 189,150 เหรียญ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 7,560 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.64 แสนล้านบาท หลังจากมีการทยอยซื้อมาอย่างต่อเนื่อง

 

จากข้อมูลล่าสุดก็พบว่า Marathon Digital Holdings ก็เป็นบริษัทเอกชนที่มีการถือครอง Bitcoin ไว้มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองลงมาจาก MicroStrategy โดยมีสูงถึง 15,174 เหรียญ หรือประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 21,000 ล้านบาท

 

อ้างอิง:

The post Tesla ยังถือครอง Bitcoin อยู่เท่าเดิม คิดเป็นมูลค่า 387 ล้านดอลลาร์ แม้ราคาทะยานเกิน 100% appeared first on THE STANDARD.

]]>