THE STANDARD WEALTH – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Wed, 08 May 2024 06:21:36 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 ชมคลิป: OpenAI-Anthropic กำลังแย่งชิงข้อมูลเพื่อฝึกฝนโมเดล AI | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-03042024-2/ Wed, 03 Apr 2024 05:31:28 +0000 https://thestandard.co/?p=918758

รายงานเผย OpenAI และ Anthropic กำลังเปิดศึกชิงข้อมูลที่ […]

The post ชมคลิป: OpenAI-Anthropic กำลังแย่งชิงข้อมูลเพื่อฝึกฝนโมเดล AI | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>

รายงานเผย OpenAI และ Anthropic กำลังเปิดศึกชิงข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้มาพัฒนาโมเดล AI ตอบสนองอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วและดุเดือดมากในเวลานี้

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: OpenAI-Anthropic กำลังแย่งชิงข้อมูลเพื่อฝึกฝนโมเดล AI | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>
TOP – 4Q66 กำไรลดลง QoQ ตามคาด https://thestandard.co/top-4q66-profit-decreased-qoq-as-expected/ Thu, 15 Feb 2024 10:57:08 +0000 https://thestandard.co/?p=900408

เกิดอะไรขึ้น:   เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 บมจ […]

The post TOP – 4Q66 กำไรลดลง QoQ ตามคาด appeared first on THE STANDARD.

]]>

เกิดอะไรขึ้น:

 

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 บมจ.ไทยออยล์ (TOP) รายงานกำไรสุทธิลดลง 72.8%QoQ สู่ 2.9 พันล้านบาทใน 4Q66 แต่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากจากกำไรสุทธิ 147 ล้านบาทใน 4Q65 เป็นไปตามที่คาดการณ์ กำไรที่ลดลง QoQ สะท้อนถึง GIM (กำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม) ที่ลดลง 23%YoY และ 37%QoQ สู่ 8.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จาก Market GRM ที่ลดลงของธุรกิจโรงกลั่น ด้วยขาดทุนสต็อกที่ 5.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Accounting GIM จึงปรับตัวลดลง 85%QoQ สู่ 3.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ดีกว่า 1.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลใน 4Q65 และได้รับการชดเชยบางส่วนจากกำไรของธุรกิจอะโรเมติกส์ที่ดีขึ้น ด้านกำไรจากการดำเนินงานสุทธิลดลง 17%YoY และ 50%QoQ สู่ 5.3 พันล้านบาท 

 

สำหรับกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 1.94 หมื่นล้านบาท ลดลง 40.5%YoY จากฐานที่สูงผิดปกติในปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ GRM ปรับตัวขึ้นแรงสืบเนื่องมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

 

กระทบอย่างไร:

 

หลังรายงานผลประกอบการ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ราคาหุ้น TOP ปรับขึ้น 2.21% สู่ระดับ 57.75 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.39% สู่ระดับ 1,390.45 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการ 2567:

 

InnovestX Research คาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น QoQ ใน 1Q67 จากการฟื้นตัวของ GRM โดยได้แรงหนุนจาก Crack Spread ที่สูงขึ้นของน้ำมันเบนซินและน้ำมันเตา แม้ว่าการดำเนินงานโรงกลั่นจะสะดุดลงจากการหยุดผลิตนอกแผน ซึ่งจะส่งผลทำให้อัตราการใช้กำลังการกลั่นลดลงสู่ 95-98% เทียบกับ 111% ใน 4Q66 

 

นอกจากนี้ยังคาดว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจอะโรเมติกส์จะปรับตัวดีขึ้น โดยเกิดจากอุปทานที่ตึงตัวในเอเชีย และความต้องการสารผสมน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ผลิต PX ตึงตัวขึ้น แนวโน้มในระยะสั้นสำหรับเบนซินก็เป็นบวก โดยได้แรงหนุนจากการหยุดชะงักของอุปทานในสหรัฐฯ และการขาดแคลนเรือสืบเนื่องมาจากวิกฤตทะเลแดง 

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ TOP เพราะ GRM และธุรกิจอะโรเมติกส์มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 77 บาทต่อหุ้น อิงกับ PBV 1 เท่า (ปี 2567) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีเล็กน้อย และคิดเป็น EV/EBITDA ที่ 8.67 เท่า ราคาหุ้น TOP ในปัจจุบันคิดเป็น PBV ที่ 0.7 เท่า (-1.4SD) ซึ่งสูงกว่าระดับ 0.5 เท่าในปีที่เกิดสถานการณ์โควิดอยู่เล็กน้อย 

 

TOP ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 2566 ที่อัตรา 2.75 บาทต่อหุ้น (XD: 27 กุมภาพันธ์) ทำให้เงินปันผลรวมทั้งหมดสำหรับปี 2566 อยู่ที่ 3.4 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 39%

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ราคาน้ำมันและ GRM ผันผวน ราคาน้ำมันที่ลดลงจะทำให้เกิดขาดทุนสินค้าคงเหลือ และอุปสงค์ผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่ลดลง ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 

 

ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญคือ ผลกระทบของธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

The post TOP – 4Q66 กำไรลดลง QoQ ตามคาด appeared first on THE STANDARD.

]]>
ผ่าปรัชญา ‘Go Beyond Dreams’ ของ ‘สิงห์ เอสเตท’ สานต่อโปรเจกต์มาสเตอร์พีซ ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โต 20% [ADVERTORIAL] https://thestandard.co/go-beyond-dreams-singha-estate/ Thu, 15 Feb 2024 10:00:58 +0000 https://thestandard.co/?p=896736

จับตาย่างก้าวสำคัญของ ‘สิงห์ เอสเตท’ สู่ขวบปีที่ 10 โดย […]

The post ผ่าปรัชญา ‘Go Beyond Dreams’ ของ ‘สิงห์ เอสเตท’ สานต่อโปรเจกต์มาสเตอร์พีซ ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โต 20% [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>

จับตาย่างก้าวสำคัญของ ‘สิงห์ เอสเตท’ สู่ขวบปีที่ 10 โดยปี 2566 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่สิงห์ เอสเตท หรือ S ประสบความสำเร็จตามกลยุทธ์ ‘S EXCELS’ การสร้างความเป็นเลิศในทุกมิติที่เคยวางไว้ ได้แก่ ผลการดำเนินงานที่เป็นเลิศ ผนึกความแข็งแกร่งระหว่าง 4 ธุรกิจ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ทุกพอร์ตธุรกิจมีความแข็งแกร่งอย่างมาก

 

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจที่พักอาศัย มีการเปิดตัวโครงการบ้านแนวราบขยายฐานลูกค้าครบทุกลักชัวรีเซกเมนต์ และขยายสัดส่วนการถือครองโครงการ The ESSE Sukhumvit 36 อีกทั้งลงทุนในที่ดินทำเลศักยภาพที่รองรับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับโครงการในอนาคต

 

ขณะที่กลุ่มธุรกิจโรงแรมภายใต้การบริหารงานของ ‘เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท’ หรือ SHR ปีที่ผ่านมาเปิดตัว SO/ Maldives โรงแรมไลฟ์สไตล์หรูระดับ 5 ดาว ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการ CROSSROADS Maldives พร้อมยกระดับห้องพักโรงแรมในเครืออีก 5 แห่ง และต่อยอดแบรนด์ทราย หรือ SAii เพิ่มบริการที่หลากหลาย นำไปสู่รายได้อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากราคาห้องโรงแรมของกลุ่ม 

 

 

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าเดินหน้าโมเดลธุรกิจที่มีความยืดหยุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการใช้พื้นที่ของคนทำงานยุคใหม่ และกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทองได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าถึง 400 เมกะวัตต์ และแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ภายในพื้นที่ รองรับการลงทุนในอนาคต

 

ปี 2567 สิงห์ เอสเตทยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแข็งแกร่งภายใต้แนวคิด ‘Go Beyond Dreams’ ตอกย้ำการเป็น ‘นักพัฒนา’ ผ่านการลงทุนและสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ตั้งเป้ารายได้โต 20% หรือมูลค่ารวมอยู่ที่ 18,000 ล้านบาท

 

 

แนวคิด ‘Go Beyond Dreams’ แยกย่อยออกเป็น 3 แกนหลักในการขับเคลื่อนการเติบโต ได้แก่

 

  • Go Expertise ผนึกความร่วมมือระหว่าง 4 กลุ่มธุรกิจในเครือ ดึงจุดแข็งและความชำนาญที่ต่างกันมาเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและส่งมอบคุณค่าแก่ลูกค้า
  • Go Elixir ผนึกกำลังพันธมิตรใหม่เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและการลงทุน
  • Go Exceed, Go Exist พัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน สร้างความสมดุลของธุรกิจกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กร Carbon Neutrality ภายในปี 2573 

 

โดยยุทธศาสตร์ที่วางไว้ในแต่ละกลุ่มธุรกิจแบ่งออกเป็น 

 

 

กลุ่มธุรกิจที่พักอาศัย ตอกย้ำ DNA ในการพัฒนาโครงการให้ได้คุณภาพระดับ ‘Best in Class’ ต่อยอดความสำเร็จโครงการบ้านแนวราบที่มีครบทุกเซกเมนต์ลักชัวรีตามแผนงาน พร้อมลงทุนในที่ดินทำเลศักยภาพที่รองรับการพัฒนาสำหรับโครงการที่จะเกิดขึ้นระยะ 3-5 ปี คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากยอดโอนเพิ่มขึ้นอีก 50% ในปีนี้

 

 

 

กลุ่มธุรกิจโรงแรม เดินหน้าปรับปรุงโรงแรมตามแผนการยกระดับพอร์ตโฟลิโอ 5 โรงแรมในเครือที่ประเทศไทยและต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มอัตราเฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) 25% และเสริมการใช้บริการด้านอื่นๆ สร้างรายได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากรายได้การเข้าพัก (Non-Room Revenue) คาดการณ์การใช้จ่ายต่อคนในการใช้บริการภายในโรงแรมเพิ่มขึ้น 15% ขณะที่การหมุนเวียนสินทรัพย์ (Asset Rotation) มุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง และหาโอกาสควบรวมกิจการของธุรกิจที่ทำให้เกิดโอกาสรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

 

 

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ยังคงใช้โมเดลธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นควบคู่จุดเด่นด้านที่ตั้งโครงการ ซึ่งเป็นโมเดลที่ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยของอาคารสำนักงานในเครือที่มากกว่าในช่วงปี 2562 ด้วยอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย 85% ในทุกโครงการที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้

 

สิงห์ เอสเตท

 

กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ตั้งเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง อยู่ที่ 40% ของพื้นที่ขายรวม โดยใช้ทำเลยุทธศาสตร์ที่เป็นจุดศูนย์กลางระหว่างแหล่งวัตถุดิบกับเส้นทางการขนส่ง ความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภคทั้งกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีสูงถึง 400 เมกะวัตต์ และปริมาณน้ำซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับผู้ประกอบการเฉพาะทาง เช่น กลุ่ม Semiconductor หรือกลุ่ม Data Center นอกเหนือจากธุรกิจทางด้านอาหาร และความร่วมมือกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นแรงหนุนสำคัญ

 

เหนือสิ่งอื่นใด สิงห์ เอสเตท ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน เดินหน้าเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality ภายในปี 2573 ด้วยกลยุทธ์ Sustainable Development สร้าง Green Roadmap ในทุกกระบวนการของทุกธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าขยายพื้นที่ความหลากหลายทางทะเลถึง 30% และมุ่งเป็นศูนย์กลางในการสร้างสังคมคุณภาพผ่านโครงการต่างๆ กว่า 30 โครงการ นับเป็นจำนวนมากกว่า 1 แสนคน ครอบคลุมพื้นที่การดำเนินงาน 5 ประเทศในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ประเทศไทย, สาธารณรัฐมัลดีฟส์, สาธารณรัฐมอริเชียส, สหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ

 

ถ้าดูจากความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจทั้งหมดในมือตอนนี้ การใช้ประสบการณ์ความถนัดจากทีมในแต่ละธุรกิจมาสร้างการผนึกกำลังระหว่างธุรกิจถือว่ามีแต้มต่อ ไม่ใช่แค่ภาพรวมของกลุ่ม แต่ยังช่วยเสริมความแกร่งสำหรับแต่ละธุรกิจในกลุ่มที่อยู่ในแต่ละตลาดได้เป็นอย่างดี ชัดที่สุดก็กลุ่มธุรกิจที่พักอาศัย ผู้เล่นในเซ็กเมนต์อัลตราลักชัวรีก็มีไม่เยอะ และแบรนด์ก็ยังไม่ได้แข็งแรงเท่ากลุ่มสิงห์ เอสเตท ศักยภาพในธุรกิจอสังหาระดับนี้ก็ไม่ค่อยอ่อนไหวกับเศรษฐกิจมากนัก

 

ในขณะที่กลุ่มธุรกิจโรงแรมยังได้แรงหนุนมาตั้งแต่การปรับกลยุทธ์แบบกระจายความเสี่ยงไปหลายภูมิภาคที่เป็นทำเลศักยภาพ หรือ Well-Diversified Portfolio เสริมด้วยประสบการณ์จากทีมวิศวกรจากธุรกิจนิคมฯ ในการพัฒนาระบบการใช้พลังงานผ่านโรงแรมในเครือ ในขณะที่ธุรกิจอาคารสำนักงานและธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมก็แข็งแกร่งด้วยตัวเองจากทำเลยุทธศาสตร์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ตลาด ดังนั้นกลยุทธ์การผนึกกำลังกลุ่มธุรกิจข้างต้นจะยิ่งเสริมความแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของบริษัท

 

ไม่แปลกหากสิงห์ เอสเตท จะเชื่อมั่นว่า ความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2567 ทั้งจากเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนเชิงนโยบายภายในประเทศ คงสร้างได้แค่แรงกระเพื่อม แต่ไม่ถึงกับสั่นสะเทือนธุรกิจอย่างแน่นอน

The post ผ่าปรัชญา ‘Go Beyond Dreams’ ของ ‘สิงห์ เอสเตท’ สานต่อโปรเจกต์มาสเตอร์พีซ ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โต 20% [ADVERTORIAL] appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: หนี้ครัวเรือนไทยจ่อโตแซง GDP สัญญาณอันตรายหนี้เน่า ‘รถยนต์’ | Morning Wealth 14 ก.พ. 2567 https://thestandard.co/morning-wealth-14022024/ Wed, 14 Feb 2024 03:15:36 +0000 https://thestandard.co/?p=899494

จับตาหนี้เสีย (NPL) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3 ไตรมาส โดยกลุ่ […]

The post ชมคลิป: หนี้ครัวเรือนไทยจ่อโตแซง GDP สัญญาณอันตรายหนี้เน่า ‘รถยนต์’ | Morning Wealth 14 ก.พ. 2567 appeared first on THE STANDARD.

]]>

จับตาหนี้เสีย (NPL) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3 ไตรมาส โดยกลุ่มสินเชื่อที่น่ากังวลที่สุดคือ สินเชื่อรถยนต์ คิดเป็น 23% ของ NPL ทั้งหมด รายละเอียดเป็นอย่างไร

Bitcoin ทำนิวไฮรอบกว่า 2 ปี เข้าขาขึ้นจริงหรือหลอก พูดคุยกับ กันตณัฐ วุฒิธร Digital Asset Analyst Supervisor บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 . ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: หนี้ครัวเรือนไทยจ่อโตแซง GDP สัญญาณอันตรายหนี้เน่า ‘รถยนต์’ | Morning Wealth 14 ก.พ. 2567 appeared first on THE STANDARD.

]]>
Romance Scam ลามหนัก! แบงก์สหรัฐฯ หวังรัฐบาลปราบปราม https://thestandard.co/banks-ask-for-help-protecting-customers-from-online-romance-scams/ Wed, 14 Feb 2024 02:47:05 +0000 https://thestandard.co/?p=899476

ภาคอุตสาหกรรมการเงินการธนาคารสหรัฐฯ รวมกำลังเรียกร้องให […]

The post Romance Scam ลามหนัก! แบงก์สหรัฐฯ หวังรัฐบาลปราบปราม appeared first on THE STANDARD.

]]>

ภาคอุตสาหกรรมการเงินการธนาคารสหรัฐฯ รวมกำลังเรียกร้องให้รัฐบาลและภาคอุตสาหกรรมโซเชียลมีเดีย ร่วมด้วยช่วยกันปราบปรามเหตุอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะเรื่อง ‘ลวงให้รัก’ หรือ Romance Scam ซึ่งกำลังกลายเป็นวิกฤตที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และสร้างความเสียหายให้กับชาวอเมริกันหลายหมื่นคนอยู่ในเวลานี้ โดยคิดเป็นความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในทุกปี

 

การรวมตัวเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ เทศกาลแห่งความรัก โดยมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากอาชญากรรมลวงให้รักดังกล่าว

 

ทั้งนี้ แม้จะมีมานานแล้ว แต่ Romance Scam เริ่มแพร่ระบาดอย่างหนักในสหรัฐฯ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด เนื่องจากบรรดามิจฉาชีพเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียในการเข้าหาชาวอเมริกันที่รู้สึกโดดเดี่ยว

 

พอล เบนดา รองประธานบริหารด้านความเสี่ยง การฉ้อโกง และความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Executive Vice President for Risk, Fraud and Cybersecurity) ของสมาคมธนาคารสหรัฐฯ กล่าวว่า ภาคธนาคารขณะนี้ต้องการความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจริงๆ โดยธนาคารต้องการให้บริษัทโซเชียลมีเดียจัดการปิดช่องทางไม่ให้มิจฉาชีพเข้าถึงเหยื่อผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท ขณะเดียวกันก็ขอให้หน่วยงานรัฐบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้อาชญากรลวงให้รักทั้งหลายได้กระทำความผิดและเพิ่มจำนวนเหยื่อต่อไป

 

บรรดาผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า กรณีการฉ้อโกงของ Romance Scam ในแต่ละปีมีมูลค่าความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามูลค่าความเสียหายโดยรวมจริงๆ อาจสูงแตะหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผู้ที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่มักจะอับอายจนไม่กล้าแจ้งความรายงานให้เจ้าหน้าที่ทางการรับทราบเพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

สำหรับ Romance Scam หรืออาชญากรรมลวงให้รักนี้ มักจะดำเนินการโดยกลุ่มอาชญากรส่วนใหญ่ที่จัดตั้งขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสร้างอวตารบนโซเชียลมีเดียปลอม และใช้สิ่งเหล่านั้นเพื่อเชื่อมโยงกับผู้ที่อาจเป็นเหยื่อชาวอเมริกัน โดยเป้าหมายของกลุ่มอาชญากรเหล่านี้คือคนทุกเพศทุกวัยและทุกระดับการศึกษา ด้วยการอาศัยจุดอ่อนคือความเหงาและความโดดเดี่ยวเป็นหลัก

 

โดยเมื่อเหยื่อสนใจและตอบกลับข้อความ ผู้ดำเนินการอวตารจะเริ่มมหากาพย์จัดฉาก ‘รัก’ ด้วยการส่งข้อความหลายชั่วโมงในแต่ละวัน ซึ่งข้อความดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อชักชวนให้เหยื่อเชื่อว่าตนเองได้พบรักแท้ ซึ่งเป็นพลังทางจิตวิทยาความสัมพันธ์ ทำให้พร้อมจะยอมเชื่อและยอมทำทุกอย่างตามที่อาชญากรร้องขอ

 

เบนดากล่าวว่า เหยื่อชาวอเมริกันบางรายติดกับดักลวงให้รักภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความสดใสของความสัมพันธ์ผ่านข้อความบนโลกออนไลน์ที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน จนทำให้อดสร้างภาพฝันไม่ได้ และแน่นอนว่าเมื่อวางกับดักทางจิตวิทยาได้สำเร็จ นักต้มตุ๋น Romance Scam เหล่านี้จะค่อยๆ เบนหัวข้อการสนทนาไปสู่การขอเงิน ไม่ว่าจะเป็นการเสนอโอกาสในการลงทุนที่ดูเหมือนจะให้ผลตอบแทนที่ดีน่าเหลือเชื่อแก่เหยื่อ หรือสร้างเรื่องขอความเห็นอกเห็นใจจากเหยื่อเพื่อเรี่ยไรเงิน เช่น ญาติไม่สบาย ต้องใช้เงินผ่าตัดสูง เป็นต้น

 

ทั้งนี้ ในบางกรณีเบนดาก็บอกว่า ผู้คนเป็นเหยื่อโดนลวงหนักถึงขนาดโอนเงินที่อยู่ไปให้แก๊งต้มตุ๋นจนเกลี้ยงบัญชี เพราะคิดว่าตนเองต้องทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตนรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่คนชั่วร้ายเหล่านี้ใช้เอาเปรียบคนที่โดนหลอกให้ตกอยู่ในห้วงรักอย่างหน้ามืดตามัว

 

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งมองว่า ลำพังเพียงแต่มาตรการป้องกันของภาคธนาคารอย่างเดียวไม่อาจรับมือกับ Romance Scam ที่กำลังระบาดอย่างหนักอยู่ในเวลานี้ได้ ดังนั้นบริษัทโซเชียลมีเดียควรดำเนินการมากกว่านี้ เพื่อจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มของตนในลักษณะ Romance Scam รวมถึงจัดการติดตามลากตัวคนกระทำความผิดมาลงโทษอย่างหนักภายใต้ความร่วมมือกับภาครัฐ

 

ขณะที่ในส่วนของภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่จะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถพูดคุยกันเกี่ยวกับลูกค้าที่มีความเสี่ยงได้ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความตื่นตัวและระแวดระวังในการโอนเงินให้กับใครก็ตามที่รู้จักกันผ่านโลกออนไลน์ โดยขณะนี้ธนาคารส่วนใหญ่อยู่ในฐานะที่ยากลำบากในการให้คำแนะนำกับลูกค้า เนื่องจากตัวบทกฎหมายบางข้อ แม้จะสงสัยว่าลูกค้าของตนกำลังถูกฉ้อโกงก็ตาม

 

ภาพ: Celiaosk / Getty Image 

อ้างอิง: 

 

The post Romance Scam ลามหนัก! แบงก์สหรัฐฯ หวังรัฐบาลปราบปราม appeared first on THE STANDARD.

]]>
เงินเยนอ่อนค่าทะลุ 150 เยนต่อดอลลาร์ จับตารัฐบาลเข้าแทรกแซง https://thestandard.co/yen-weakens-through-150-per-dollar/ Wed, 14 Feb 2024 01:41:52 +0000 https://thestandard.co/?p=899451 เงินเยนอ่อนค่า

ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 กุมภาพั […]

The post เงินเยนอ่อนค่าทะลุ 150 เยนต่อดอลลาร์ จับตารัฐบาลเข้าแทรกแซง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เงินเยนอ่อนค่า

ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 กุมภาพันธ์) ปรับตัวอ่อนค่าลงเกิน 150 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน หลังได้รับแรงกดดันจากรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้ ทำให้ความน่าดึงดูดใจของสินทรัพย์ของญี่ปุ่นลดลง

 

ทั้งนี้ ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้ามาแทรกแซงตลาด เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงไปมากกว่านี้จนกระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยระดับอัตรา 150 เยนต่อดอลลาร์ ถือเป็นแนวรับสำคัญที่ทางการญี่ปุ่นเคยระบุไว้ว่าจะใช้ในการตัดสินใจแทรกแซงตลาดค่าเงิน 

 

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 กุมภาพันธ์) ชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ระบุชัดว่า ทางการญี่ปุ่นจะเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนอย่างใกล้ชิด

 

ทั้งนี้ อ้างอิงจากข้อมูลของ Bloomberg พบว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาค่าเงินเยนปรับตัวอ่อนค่าลงมากกว่า 23% ซึ่งมากกว่าสกุลเงินหลักใดๆ 

 

รายงานระบุว่า ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าจนแตะระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอีกครั้ง หลังจากที่รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ชินอิจิ อุชิดะ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยย้ำว่า แบงก์ชาติญี่ปุ่นจะยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป สอดคล้องกับแนวทางของผู้ว่า BOJ อย่าง คาซูโอ อุเอดะ ที่มองว่า แม้ในที่สุดทาง BOJ จะไม่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยติดลบ แต่ BOJ ก็ยังคงต้องมุ่งนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เมื่อคำนึงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน

 

ทอม นากามูระ ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ AGF Investments กล่าวว่า ตลาดกำลังเตรียมพร้อมรับความผันผวนของเงินเยนจากแนวโน้มที่ BOJ จะออกมาตรการการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น ซึ่งหมายรวมถึงอัตราดอกเบี้ยติดลบ กระนั้น BOJ ไม่น่ารีบร้อนลงมือทำ รวมถึงไม่รีบที่จะเร่งให้ประเทศเข้าสู่วงจรการฟื้นคืน (Normalization Cycle) ดังนั้นความคาดหวังต่อการแข็งค่าของเงินเยนจากการดำเนินการของธนาคารกลางของประเทศน่าจะเริ่มคลี่คลายลง

 

จนถึงขณะนี้เมื่อเทียบเป็นรายปี เงินเยนร่วงลงมากกว่า 6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และลดลงมากกว่า 3% เมื่อเทียบกับเงินยูโร ซึ่งถือเป็นผลงานที่แย่ที่สุดในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้ว

 

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเริ่มเข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม ปี 2022 ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998 ในการพยายามประคองค่าเงินเยน โดยการแทรกแซงดังกล่าวใช้เงินไปประมาณ 9  ล้านล้านเยน 

 

นอกจากค่าเงินเยนแล้ว การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์หลังรายงาน CPI ยังส่งผลให้ดอลลาร์ออสเตรเลีย โครนนอร์เวย์ ฟรังก์สวิส ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และโครนาสวีเดน อ่อนค่าลง 1% หรือมากกว่านั้นเช่นกัน 

 

ภาพ: Toru Kimura / Getty Images

อ้างอิง: 

The post เงินเยนอ่อนค่าทะลุ 150 เยนต่อดอลลาร์ จับตารัฐบาลเข้าแทรกแซง appeared first on THE STANDARD.

]]>
เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนมกราคมสูงกว่าคาด หวั่นหนุน Fed ตรึงดอกเบี้ยสูงและนาน https://thestandard.co/cpi-inflation-january-2024-consumer-prices/ Wed, 14 Feb 2024 01:28:34 +0000 https://thestandard.co/?p=899448 เงินเฟ้อสหรัฐฯ

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค หรื […]

The post เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนมกราคมสูงกว่าคาด หวั่นหนุน Fed ตรึงดอกเบี้ยสูงและนาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
เงินเฟ้อสหรัฐฯ

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ Consumer Price Index (CPI) ประจำเดือนมกราคม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 กุมภาพันธ์) พบว่า ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด โดยได้แรงหนุนจากราคาที่อยู่อาศัยที่ยังคงแพงอยู่จนกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาด

 

ทั้งนี้ ดัชนี CPI เป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและเป็นมาตรวัดสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) นำมาใช้ประกอบการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนมกราคมเมื่อเทียบเป็นอัตรารายปี แต่ก็ยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.9% โดยดัชนี CPI ดังกล่าวคือดัชนี CPI ทั่วไปที่รวมหมวดอาหารและพลังงาน

 

ขณะที่เมื่อเทียบเป็นอัตรารายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนธันวาคมก่อนหน้า และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.2%

 

ด้านส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.9% ในเดือนมกราคมเมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.7% และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมก่อนหน้า 0.4%

 

รายงานระบุว่า แรงหนุนหลักที่ทำให้ดัชนี CPI เดือนมกราคมพุ่งสูงขึ้นคือ ราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของดัชนี CPI โดยราคาที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.6% จากเดือนธันวาคมก่อนหน้า และปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 6% ในอัตรารายปี 

 

ขณะเดียวกันดัชนี CPI ยังได้แรงหนุนจากราคาอาหารที่ขยับสูงขึ้นเช่นกัน แม้ว่าราคาน้ำมันที่ถูกลงจะช่วยให้ราคาสินค้าส่วนใหญ่ยังคงทรงตัว 

 

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญมองว่า การที่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างดื้อดึง ส่งผลให้ความคาดหวังที่ Fed จะหั่นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมค่อนข้างเลือนราง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเริ่มให้น้ำหนักว่า Fed น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งหมายความว่า Fed จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยสูงให้ยาวนานกว่าที่คาดกันไว้ รวมถึงลดการเกิดความกังขาว่า Fed จะสามารถหั่นลดอัตราดอกเบี้ยได้ตามจำนวนครั้งที่ตั้งใจไว้ในปี 2024 ได้หรือไม่ 

 

ความเชื่อดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้น Wall Street เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 กุมภาพันธ์) ปิดตลาดร่วงลงอย่างหนัก โดยดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ลดลงถึง 524.63 จุด หรือ 1.35% ปิดที่ 38,272.75 ถือเป็นช่วงการซื้อ-ขายที่เลวร้ายที่สุดของดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 

 

หุ้นสหรัฐฯ ร่วงระนาว

 

ด้านดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลง 1.37% ปิดที่ 4,953.17 จุด และดัชนี Nasdaq Composite ร่วงหนักสุดที่ 1.8% ปิดที่ 15,655.60 จุด

 

บรรดานักกลยุทธ์ส่วนหนึ่งมองว่า ความเคลื่อนไหวของดัชนี CPI ล่าสุดอาจกลายเป็นหนึ่งในข้ออ้างหลักที่หนุนให้ Fed ต้องคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงินในเดือนมีนาคม 

 

นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังมองว่า ตลาดหุ้น Wall Street ที่ร่วงหนักเมื่อวานนี้ยังได้แรงกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ขยับตัวพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.32% หลังจากที่มีการเปิดเผยดัชนี CPI เพียงไม่นาน 

 

บรรดานักวิเคราะห์อธิบายว่า การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองสหรัฐฯ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง สวนทางกับค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่บริษัททั้งหลายต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ จนจำเป็นต้องลดการลงทุนและลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมเกิดการชะลอตัว 

 

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยเปราะบางทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้นักวิเคราะห์และนักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปียังไม่ถึงจุดพีค หมายความว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังมีสิทธิ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีในปี 2024 มีสิทธิ์แตะเหนือ 5% ซึ่งครั้งล่าสุดที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งเกิน 5% คือเมื่อเดือนตุลาคม 2023

 

ภาพ: JasonDoiy / Getty Images 

อ้างอิง: 

The post เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนมกราคมสูงกว่าคาด หวั่นหนุน Fed ตรึงดอกเบี้ยสูงและนาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
สะเทือนใจ! ราคาช็อกโกแลตวาเลนไทน์พุ่งตามราคาโกโก้ที่สร้างนิวไฮ https://thestandard.co/valentines-day-chocolates-break-hearts-cocoa-hits-record-high/ Wed, 14 Feb 2024 01:04:00 +0000 https://thestandard.co/?p=899441 ช็อกโกแลตวาเลนไทน์

สำหรับใครก็ตามที่กำลังเตรียมหาซื้อช็อกโกแลตแทนใจให้แก่ค […]

The post สะเทือนใจ! ราคาช็อกโกแลตวาเลนไทน์พุ่งตามราคาโกโก้ที่สร้างนิวไฮ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ช็อกโกแลตวาเลนไทน์

สำหรับใครก็ตามที่กำลังเตรียมหาซื้อช็อกโกแลตแทนใจให้แก่คนสำคัญของใจในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้อาจต้องทำใจเล็กน้อย เนื่องจากปัญหาด้านการเก็บเกี่ยวผลผลิตโกโก้ของแหล่งปลูกสำคัญอย่างแอฟริกาตะวันตก ส่งผลให้ราคาโกโก้พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งราคาวัตถุดิบสำคัญที่เพิ่มขึ้นทำให้ราคาช็อกโกแลตปีนี้มีแนวโน้มจะขยับแพงขึ้น

 

ทั้งนี้ ราคาของโกโก้ขยับพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยภาวะโกโก้ขาดแคลนอย่างต่อเนื่องดังกล่าวกำลังกดดันผู้ผลิตช็อกโกแลตที่ต้องแบกรับต้นทุนเงินเฟ้ออยู่แล้ว ทำให้จำเป็นต้องมีการปรับขึ้นราคาช็อกโกแลตในที่สุด

 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 กุมภาพันธ์) ราคาโกโก้ในตลาดโลกทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน สร้างความตื่นตระหนกว่าในบรรดาผู้ผลิตช็อกโกแลตเกี่ยวกับปัญหาด้านซัพพลาย โดยราคาโกโก้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดได้น้อยลง เนื่องจากภูมิภาคที่เป็นแหล่งผลิตอย่างแอฟริกาตะวันตกได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศเลวร้าย บวกกับโรคระบาดที่กระทบต่อต้นโกโก้

 

ทั้งนี้ ดัชนีอ้างอิงเมล็ดโกโก้ในตลาดล่วงหน้าของ ICE London ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,916 ปอนด์ต่อเมตริกตันเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยราคาของเมล็ดโกโก้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่านับตั้งแต่ต้นปี 2023 ที่ผ่านมา

 

ด้านผลสำรวจโกโก้ของ Reuters เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าการขาดดุลโกโก้ทั่วโลกอยู่ที่ 375,000 ตันในฤดูกาล 2023/24 ซึ่งมากกว่า 2 เท่าที่ระบุไว้ในการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือนสิงหาคม และถือเป็นการขาดดุลติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

 

รายงานระบุว่า ราคาของเมล็ดโกโก้ที่เพิ่มขึ้นทำให้บรรดาผู้ผลิตช็อกโกแลตเริ่มพิจารณาแนวทางปรับขึ้นราคาและกระตุ้นยอดขาย ยกตัวอย่างเช่น Hershey ที่คาดว่าจะเห็นความต้องการผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ชะลอตัวลงอีก โดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้าที่มีสถานะทางการเงินที่อ่อนไหว หลังจากที่ปริมาณการขายลดลง 6.6% ในไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา

 

ในฐานะบริษัทช็อกโกแลตยักษ์ใหญ่ Hershey ยังยอมรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ราคาโกโก้ที่สูงขึ้นอาจจำกัดการเติบโตของกำไรในปีนี้ของบริษัท

 

ภาพ: Frederick Bass / Getty Images 

อ้างอิง:

 

The post สะเทือนใจ! ราคาช็อกโกแลตวาเลนไทน์พุ่งตามราคาโกโก้ที่สร้างนิวไฮ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ความคลาสสิกและเสียงอันอบอุ่น ทำให้ ‘เทปคาสเซตต์’ คืนสู่ความนิยมในกลุ่มคนญี่ปุ่นที่อายุ 20-30 ปี https://thestandard.co/cassette-tapes-return-to-popularity/ Tue, 13 Feb 2024 12:21:04 +0000 https://thestandard.co/?p=899327

ในยุคที่บริการสตรีมมิงดิจิทัลครองตลาดดนตรี การกลับมาของ […]

The post ความคลาสสิกและเสียงอันอบอุ่น ทำให้ ‘เทปคาสเซตต์’ คืนสู่ความนิยมในกลุ่มคนญี่ปุ่นที่อายุ 20-30 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>

ในยุคที่บริการสตรีมมิงดิจิทัลครองตลาดดนตรี การกลับมาของเทปคาสเซตต์ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นสิ่งของเก่าแก่จากอดีต ได้สร้างความน่าแปลกใจขึ้น เพราะสามารถดึงดูดใจคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในความคลาสสิก และเสียงอันอบอุ่นที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และล่าสุดร้านค้าบางแห่งในโตเกียวกำลังขยายธุรกิจในส่วนของเทปคาสเซตต์ สะท้อนถึงการฟื้นคืนชีพของสื่อบันทึกเสียงอนาล็อกแบบพกพา

 

“เทปคาสเซตต์จะเป็นตัวเลือกตอนที่ผมต้องการฟังเพลงอย่างตั้งใจ” นักศึกษาชายอายุ 21 ปีจากจังหวัดคานากาวะ พูดถึงเสียงที่อบอุ่นและเอกลักษณ์ของเทปคาสเซตต์ โดยชายผู้นี้เข้าร้าน Tower Records Shibuya ในโตเกียวทุกสัปดาห์เพื่อหาเทปคาสเซตต์ แม้ว่าเขาจะฟังเพลงผ่านสตรีมมิง แต่เขามีเทปคาสเซตต์ประมาณ 20 ม้วนที่เริ่มสะสมตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย 

 

ในบางร้าน เช่น Tower Records ความนิยมของเทปคาสเซตต์กำลังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนที่มีอายุระหว่าง 20-30 ปี ซึ่งไม่เคยสัมผัสกับยุคทองของเทปในทศวรรษ 1980 ตามข้อมูลจากผู้บริหารในอุตสาหกรรม ยอดขายของเทปคาสเซตต์ทั้งเก่าและใหม่กำลังเติบโต

 

เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ร้าน Tower Records Shibuya ได้ขยายส่วนเฉพาะของเทปคาสเซตต์ โดยมีสต็อกเทปคาสเซตต์ประมาณ 3,000 ม้วน เพิ่มขึ้นจากเดิม 6 เท่า รวมถึงเทปใหม่และเทปมือสอง

 

Ko Takeda ผู้รับผิดชอบส่วนเทปคาสเซตต์ได้กล่าวว่า “อายุของผู้ซื้อมีตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงคนในวัย 50 ปี โดยที่คนในวัย 30 ปีเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด โดยเทปคาสเซตต์ดูเหมือนจะเป็นสิ่งใหม่และน่ารักสำหรับรุ่นหลัง” นอกจากนี้มุมที่วางขายเทปคาสเซตต์ยังเห็นการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างน่าสังเกตด้วย

 

Taro Tsunoda ผู้บริหารร้าน Waltz ซึ่งเป็นร้านเฉพาะทางเทปคาสเซตต์ในย่านนากาเมกุโระของโตเกียว ได้ชี้ให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทปคาสเซตต์ได้ “เปลี่ยนแปลงอย่างมากจากที่เคยเป็น เมื่อเทียบกับช่วงที่เราเปิดร้านในปี 2015”

 

นอกจากเทปแล้ว เครื่องเล่นก็ขายดีเช่นกัน Toshiba Lifestyle ได้เปิดตัวเครื่องเล่นเทปคาสเซตต์แบบพกพา Walky ที่ได้รับการออกแบบใหม่อย่างโฉบเฉี่ยวในช่วงทศวรรษ 1980 เนื่องจากช่วยให้ผู้ใช้ฟังเพลงด้วยหูฟังไร้สายได้ ผลิตภัณฑ์นี้จึงตอบสนองความต้องการของวัยรุ่นที่หลงใหลในโลกดิจิทัลอีกด้วย

 

Side-B Creations ในย่านชิบูย่าของโตเกียว ซึ่งผลิตและจำหน่ายเทปคาสเซตต์และเครื่องเล่นกล่าวว่า ขณะนี้สามารถขายเครื่องเล่นเทปคาสเซตต์ได้มากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2017

 

นอกจากคุณภาพเสียงและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว เสน่ห์ย้อนยุคของเทปคาสเซตต์ ตลับสีสันสดใสขนาดเท่าฝ่ามือที่บรรจุแกนเพลงอนาล็อกยังดึงดูดผู้ซื้อรุ่นเยาว์อีกด้วย “สำหรับผู้บริโภค เทปคาสเซตต์นำเสนอสิ่งของที่สามารถเป็นเจ้าของและเก็บรักษาได้” Takamasa Endo ประธาน Side-B Creations กล่าว

 

บางแบรนด์เสื้อผ้าได้เริ่มใช้เทปคาสเซตต์เป็นคำเชิญไปยังการแสดงแฟชั่นหรือแจกจ่ายเป็นของที่ระลึก แสดงถึงวิธีการใช้เทปคาสเซตต์และวิวัฒนาการเพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัย

 

อ้างอิง:

The post ความคลาสสิกและเสียงอันอบอุ่น ทำให้ ‘เทปคาสเซตต์’ คืนสู่ความนิยมในกลุ่มคนญี่ปุ่นที่อายุ 20-30 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
ชมคลิป: ‘บริษัทซอมบี้’ ปัญหาคืบคลานเศรษฐกิจญี่ปุ่น ลามตลาดหุ้น | THE STANDARD WEALTH https://thestandard.co/morning-wealth-13022024-3/ Tue, 13 Feb 2024 08:07:02 +0000 https://thestandard.co/?p=899169

ญี่ปุ่นมี ‘บริษัทซอมบี้’ มากถึง 250,000 บริษัท เพิ่มขึ้ […]

The post ชมคลิป: ‘บริษัทซอมบี้’ ปัญหาคืบคลานเศรษฐกิจญี่ปุ่น ลามตลาดหุ้น | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>

ญี่ปุ่นมี ‘บริษัทซอมบี้’ มากถึง 250,000 บริษัท เพิ่มขึ้นราว 30% ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา กำลังกลายเป็นปัญหากระทบต่อการจ้างงานและเศรษฐกิจญี่ปุ่นจากต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น

 

ติดตาม รายการ Morning Wealth ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 7.00-8.00 ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD WEALTH

 

อัปเดตข่าวสารจากสำนักข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน โดยทีมข่าว THE STANDARD ได้ที่ https://thestandard.co/wealth/

The post ชมคลิป: ‘บริษัทซอมบี้’ ปัญหาคืบคลานเศรษฐกิจญี่ปุ่น ลามตลาดหุ้น | THE STANDARD WEALTH appeared first on THE STANDARD.

]]>