เลเล่เล้ – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Tue, 02 Jan 2024 11:27:48 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 75 เพลงไทยแห่งปี 2023 (ภาคจบ) https://thestandard.co/75-thai-songs-of-2023-p2/ Tue, 02 Jan 2024 11:27:48 +0000 https://thestandard.co/?p=883684 75 เพลงไทยแห่งปี

มาต่อกันที่อันดับ 36 ถึง 75 นะครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ […]

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2023 (ภาคจบ) appeared first on THE STANDARD.

]]>
75 เพลงไทยแห่งปี

มาต่อกันที่อันดับ 36 ถึง 75 นะครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านภาคแรก กดเข้าไปอ่านที่นี่ได้เลยครับ https://thestandard.co/75-thai-songs-of-2023-p1/ 

 

คุณไม่มีทางรู้เลยว่าการตัดเพลงออกให้เหลือแค่ 75 เพลงมันยากขนาดไหน บางครั้งต้องทำใจ บางอย่างต้องใช้เวลา ผมจะแอบเฉลยให้ฟัง ผมใช้วิธีโยนเพลงที่คิดว่าดีเข้า Playlist อันหนึ่งซึ่งทำตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปี ทำไปทำมาทั้งปีของปีนี้มีเยอะมากๆ คือปกติ 2-3 ปีนี้มีอยู่ 600 กว่าเพลง ผมเอาเพลงทั้งหมดนั้นมาคัดเอาที่ผมชอบจริงๆ ช่วงปลายปีผมได้เพลงเหลือประมาณ 100 เพลง และ 50 เพลงในที่สุด ผมลงมือเขียนจาก 50 เพลง ระหว่างนั้นที่เหลือมันก็จะงอกขึ้นมาเรื่อยๆ จนครบ 75 เพลง มีหลายเพลงที่ควรจะติด แต่ถ้าไม่ติด ผมหวังว่าศิลปินคงจะเข้าใจ

 

ผมมีทำ Playlist นี้ไว้ด้วยครับ ใช้ชื่อว่า MixTapes Thai Songs 2023 ทั้ง Apple Music และ Spotify แปะไว้ที่ท้ายบทความ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ

 


  1. เธอคือกาแฟในตอนเช้า / No One Else

เพลงแบบ No One Else คือเพลงแบบที่เอาไว้เปิดในงานแต่งงาน เพลงที่มีเนื้อหาดี เทิดทูนความรัก อบอวลไปด้วยความอบอุ่น เธอคือกาแฟในตอนเช้า มีความหมายลงตัวตามชื่อ อยากให้เธอเป็นคนเติมเต็มคาเฟอีนให้กับฉันทุกๆ วัน เสียงร้องที่เติมความหวานและเครื่องเป่าที่ใส่มาอย่างละมุน

 

 


  1. Highway / Stoondio

Highway ของตูน Stoondio เขียนออกมาเป็นโฟล์กร็อกที่เอาไว้เปิดเวลาขับรถ การขับรถไปยังที่ที่เคยเป็นความทรงจำกับใครสักคน เพลงที่ปักหมุดสถานที่ไว้เหมือนเพลง ความคิด ของ แสตมป์ อภิวัชร์ แต่เป็นมุมมองของผู้หญิง ขับรถผ่านมา เปิดเพลงที่เคยฟังด้วยกัน และแค่สงสัยว่าเธอผ่านมาทางนี้บ้างไหม เนื้อเพลงในแบบของ Stoondio ถ้านั่งฟังคนเดียวร้องไห้ทุกเพลง

 

 


  1. เปิดตัวเขา / Three Man Down

น่าสงสารผู้ชายคนนี้ คบเธอมานาน แต่เธอไม่เคยแชร์รูปคู่ที่ถ่ายด้วยกันเลย เหมือนเธอไม่อยากให้ใครรู้ หรืออาจเป็นเพราะเธอยังไม่มั่นใจมั้ง แล้วมันก็ใช่ วันหนึ่งเธอเปิดตัวเขา แล้วเรื่องของเราล่ะ? เพลงของ Three Man Down ในอัลบั้มที่ 2 ยังคงเต็มไปด้วยเพลงอกหักชั้นดี มีมุมมองที่แตกต่างจากเพลงทั่วไป

 

 


  1. Loving And Letting Go / ภูมิ วิภูริศ

กีตาร์สุดพลิ้ว เหมาะกับการฟังในช่วงที่อากาศกำลังสบาย เสียงของภูมิทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น หากการรักใครสักคนคือการเรียนรู้ บางทีเราควรรู้ว่า เราควรปล่อยให้เขาเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด เพลงจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ของภูมิ วิภูริศ ภายหลังจากไปทัวร์มาแล้วทั่วโลก 

 

 


  1. Love Moon / ELEVEN (Feat. LANDOKMAI)

การเขียนเนื้อเพลงที่วาดออกมาได้เป็นภาพ คนหนึ่งคนที่แหงนมองพระจันทร์ ขอบคุณที่ส่องแสงมา ช่วยเป็นกำลังใจในวันที่โหดร้าย แล้วอีกท่อนเขียนจากมุมมองของพระจันทร์ ขอบคุณที่มองขึ้นมา ช่วยเป็นกำลังใจให้ไม่เหงาได้เป็นอย่างดี แถมเพลงใส่ทรัมเป็ตที่ฟังแล้วเข้ากับบรรยากาศค่ำคืนอย่างมาก เป็นเพลงคู่ที่ลงตัวมากของ ELEVEN และ LANDOKMAI

 

 

 


  1. ฉันคือนักสะสมความเศร้า / เรนิษรา

เรนิษราผู้ถูกเลือกให้ผิดหวังทำอัลบั้มเต็มในปีนี้ เพลงยังคงออกมาแบบโทนเดียวกัน เหงาได้ในทุกฤดู เป็นคู่หูที่สะสมความเศร้า ความแตกสลายไว้ เพลงนี้มีประโยคเด็ด “เพราะพยายามแค่ไหน ก็มีแต่เราใช่ไหมที่รู้” กีตาร์เล่นโน้ตวนไกลๆ เหมือนความผิดหวังของเราไปไกลได้ไม่เท่าไรเลย

 

 


  1. ในความทรงจำ / Barbies

Barbies เป็นวงดนตรีที่เกิดมาในช่วงบริตป๊อปและอัลเทอร์เนทีฟโด่งดัง ดังนั้น พวกเขาคือของแท้สำหรับใครที่อยากจะทำความรู้จักเพลงแนวนี้ วงดนตรีที่เดินทางยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน กีตาร์จะทำให้คุณตะลึง ลูกเล่นในการระเบิดเพลงออกมาจะทำให้ใจคุณสั่น ส่วน MV นี้จะทำให้คุณร้องไห้ เพียงเพราะคุณมีใครสักคนอยู่ในความทรงจำ

 

 


  1. ถ้าต่อจากนี้ไม่มีฉันแล้ว / AYLA’s 

เพลงของการลาจาก ทำออกมาเป็นจังหวะสนุก ยินดีกับการที่จะไม่ต้องเป็นแฟนกันต่ออีก เสียงร้องและแนวเพลงชวนนึกถึงวงสี่เต่าเธอ มีความหยิ่งนิดหนึ่งในเนื้อเพลง ชื่อวงอ่านว่าไอย์ลาส์ เป็นอินดี้ร็อกที่น่าจับตามองวงหนึ่ง MV เพลงนี้เขาว่า แสบคนละเบ้า-เศร้าคนละแบบ 

 

 


  1. อย่าร้องอายเค้า / Tattoo Colour

“เราไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของชีวิตใคร” ท่องไว้ในใจ เขียนไว้ข้างเตียง เมื่อ Tattoo Colour เขียนเพลงช้า เพลงนั้นจะทิ่มแทงและทำให้เสียน้ำตาในทุกๆ ครั้งที่ฟัง ยิ่งเนื้อเพลงบอกว่าอย่าร้องไห้ยิ่งทำให้ร้องดัง สำเนียงกีตาร์ที่ไม่เหมือนใครของ Tattoo จงกลั้นน้ำตาแล้วเดินต่อไป

 

 


  1. ใครในเพลง / Maiyarap (Feat. Stamp)

มันต้องมีเพลงเพลงหนึ่งที่ทำให้เรานึกถึงคนคนหนึ่ง เรารู้ของเราคนเดียว เพื่อนเราไม่รู้ และเธอคนนั้นก็ไม่รู้ เราซ่อนเธอไว้ในเพลงที่เราชอบ การเขียนเพลงของไมยราพมีอะไรที่ได้มุมมองแปลกๆ เสมอ เพลงนี้ได้แสตมป์มาร้องด้วยอีก ได้ฟีลของความปวดใจปนคิดถึง

 

 

 


  1. ก่อนจบเพลงนี้ / MXFRUIT 

Girl Group มาใหม่ในปีนี้ มีผลงานเพลงน่าสนใจ MXFRUIT มีอยู่กัน 5 คน พวกเธอมาจาก นาดาว อคาเดมี่ จุดเด่นคือเสียงร้องของทั้ง 5 คนนั้นหวาน เอื้อน อ้อน และเซ็กซี่ ก่อนจบเพลงนี้ ได้ ฮาย ธันวา แห่งวง Paper Planes หัวหน้าแก๊งฟันน้ำนมมาเขียนและโปรดิวซ์ให้ สบตาใครในยามราตรี ยากนักที่จะลืมได้

 

 


  1. ฉันเอง / YENTED

วงดนตรีจากพะเยาทำดนตรีแบบเย็นๆ นามว่า เย็นเต็ด เพลงยังมีกลิ่นอายของวง ชวนนั่งมองพระอาทิตย์ตกแบบเศร้าๆ จับเข่าแล้วบอกว่าก็มันผิดที่ตัวฉันเอง ความพยายามที่จะเข้ากันให้ได้แต่ก็เข้ากันไม่ได้ เสียงร้องที่ชวนเหงา คีย์บอร์ดและกีตาร์อย่างละนิดอย่างละหน่อยทำให้เพลงของพวกเขาได้มู้ดของการฟังเวลาฝนตกหรืออากาศหนาว และอาจเหงาขึ้นอีก 2 เท่า

 

 


  1. รู้กันแค่นี้ / BOWKYLION

มุมมองที่ไม่ค่อยมีใครกล้าเขียน แต่โบกี้เอามาขยี้ซะสวยงาม เรื่องของการแอบหลงรักใครสักคนที่มีเจ้าของแล้ว และเขาก็ดูจะเหมือนมีใจให้เหมือนกัน มันเลยเป็นรักสามเส้าที่แอบมีใครอยู่ในใจเล็กๆ เพลงมีความเจียมตัวแบบขอให้ได้อยู่ใกล้ๆ ก็พอแล้ว เสียงของโบกี้ไลอ้อนคือเอกลักษณ์ เธอมันตัวแม่

 

 


  1. XOXO / KIKI

อิเล็กทรอนิกส์ป๊อปที่มีความละเอียดของเครื่องดนตรี ฟังแยกหูซ้ายหูขวาสุดบันเทิง เบส เครื่องเคาะ กีตาร์ คีย์บอร์ด และน้ำเสียงล่องลอย KIKI สามารถเป็นวง Headline ของงานเทศกาลดนตรี และมีวิชวลให้เราหลงรัก XOXO คือการเปิดตัวอย่างงดงามสำหรับอัลบั้มใหม่ 

 

 


  1. Late Nite / VINI

เปิดต่อกันได้กับงานของ KIKI ก็คืองานของสามสาว VINI เพลงนี้เอาไว้เปิดประกอบการเดินแฟชั่นโชว์หรือประกอบโฆษณาสินค้าหรูหรา เนื้อเพลงเป็นความโหยหาและคิดถึงอดีตที่เคยมีช่วงหน้าหนาว นี่เป็น Single ที่ 6 ของวงแล้ว และที่ทำมาเรียกได้ว่าดีทุกเพลง

 

 


  1. Follow The GPS / INSPIRATIVE 

ชีวิตคนเราก็เหมือนการใช้ GPS แค่ปักจุดหมายไว้ เครื่องก็จะบอกทางไปถึงจุดหมาย ที่เหลืออยู่ที่เราที่จะทำตามเครื่องบอก ตลกร้ายก็คือชีวิตของบางคนไม่มีแม้กระทั่งจุดหมาย การฟังเพลงของ INSPIRATIVE เหมือนดนตรีบำบัด โพสต์พังก์แสนละเมียดและงดงาม ซาวด์กีตาร์ที่เหมือนทางขรุขระที่ต้องเจอ แค่เพียงแต่ว่า วงนี้ไม่เคยพาเราหลงทาง 

 

 


  1. เพลงที่เคยฟัง / mita. 

เรามีความทรงจำที่ดีกับใครสักคน เราจำทุกโมเมนต์ที่ทำร่วมกันได้หมด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม แต่มีเพลงหนึ่งที่เธอเปิดฟังตอนนั้น และเราร้องด้วยกัน แต่เราจำชื่อเพลงมันไม่ได้เลย และมันก็ติดอยู่ในความทรงจำของการจำไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ 

 

 


  1. Gaze At The Ceiling / Death Of Heather

Death Of Heather เข้าค่าย Smallroom ไปเมื่อปีก่อน พวกเขาไม่ได้ถูกเปลี่ยนอะไรไปมากกว่าที่เคยเป็น แต่ค่ายยกระดับเป็นชูเกซสายหวาน ที่กีตาร์เพราะพริ้ง ล่องลอย และสวยงามในทุกโน้ตดนตรีที่เนื้อเพลงไม่ต้องมากเลย

 

 


  1. ปีก่อน / MOONSTONE

เป็นเพลงที่ทำให้ผมตะลึงกับเสียงกีตาร์ได้ในการฟังครั้งแรก ต้องฟังซ้ำๆ และเซฟไว้ใน Playlist เสียงกีตาร์ที่ก้องกังวาน บนเพลงที่มีท่วงทำนองสวยงาม ซาวด์บริตป๊อปที่แสนจะวิเศษ เนื้อเพลงดึงพาใครสักคนจากความทรงจำขึ้นมา เชื่อมั่นว่า MOONSTONE ต้องได้อิทธิพลมาจากวง Day Tripper แน่ๆ 

 

 


  1. WE ALWAYS KNEW / TOFU

เพลงชวนคิดถึง Winter’s Love ของ My Life as Ali Thomas บรรยากาศเพลงแห่งฤดูหนาว เนื้อเพลงที่เกี่ยวกับความรัก การอ้อนวอน การเชื่อในความรัก ท่อนท้ายของเพลงใส่เครื่องเป่าลากโน้ตยาวๆ ทำให้เพลงอบอุ่นขึ้นไปอีก วง TOFU (TH) ชื่อซ้ำกับวงต่างประเทศ เราควรเรียกวงเต้าหู้เพื่อความแตกต่าง

 

 


  1. ให้ดาวช่วยปลอบประโลมหัวใจของเธอให้หายดี / Themoonwillalwaysbewithme X Image Suthita 

ถ้าใครส่งเพลงนี้มาให้คุณ ขอให้รู้เลยว่าเขาเป็นห่วงคุณและคิดถึงคุณมากแค่ไหน โดยเฉพาะในเวลาที่คุณเจออะไรร้ายๆ เขาจะคอยอยู่ตรงนั้น ส่องประกายดั่งดวงดาวที่เฝ้ามองคุณอยู่ทุกคืน เพลงชื่อยาวๆ เพลงนี้มีทำนองที่สวยงาม มีเนื้อเพลงที่ห่วงหา มีบรรยากาศของเพลงที่สว่างไสว แถมยังได้ อิมเมจ สุธิตา มาร้องด้วย 

 

 

  1. เมื่อไหร่ที่คิดถึงเธอ / LANDOKMAI

ดนตรีแห่งโลกไหลเอื่อย กาลเวลาที่กัดกร่อนและผ่านไปอย่างเนิบช้า ความคิดถึงที่สวยงามแต่ทำลายล้างความสุขทั้งหมด เสียงของลานดอกไม้สะกดเราไว้ในทุกประโยค แต่เสียงของไวโอลินทำให้บรรยากาศเหงาและอ้างว้าง จมจ่อมอยู่กับคำว่าคิดถึง

 

 


  1. อาจเป็นเพราะฉันเอง / PURPEECH

ชื่อวงอ่านว่าเพอพีช พวกเขาเป็นวงสตริงป๊อปจากเชียงใหม่ มีด้วยกัน 5 คน เขียนเพลงในมุมความรักของวัยรุ่น ฟังง่าย ฟังเพลิน ดนตรีไม่ได้ซับซ้อน แต่ติดหูง่ายมาก อาจเป็นเพราะฉันเอง เป็นความรักที่มูฟออนไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ฟูมฟายหรือจมดิ่ง ปลอบใจตัวเองไปเรื่อย 

 

 


  1. Faded Sea / Flower For Daryl

ความหนักหน่วงของกลองซัดทำให้เรารู้ได้เลยว่าเราเจอเพลงร็อกชั้นดีแล้ว ซาวด์กีตาร์ไม่ได้หนักตาม กลับมีเมโลดีเพราะๆ แต่ท่อนหลังก็ใช้การร้องตะโกน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวงไปแล้ว Faded Sea ชวนนึกถึง The Yers, Abuse The Youth ไปจนถึง BrandNew Sunset

 

 


  1. ปีนกำแพง / JIMMY BLUES

JIMMY BLUES คือ จิมมี่-พงศธร กุลชล เขาเป็นศิลปินเล่นดนตรีงานแต่ง เล่นไปเล่นมาเขียนเพลงเองได้ด้วย เพลงปีนกำแพงเป็นป๊อปแบบอารมณ์น้อยใจนิดๆ เธอไม่เคยสนใจ แต่ก็จะขอรักต่อไป เป็นเพลงที่ฟังไปฟังมาติดหูง่ายชะมัด จัดเป็นเพลงฟังสบายเพลงหนึ่งในปีนี้ พยายามต่อไปไอ้น้อง มาถูกทางแล้ว

 

 


  1. ความสุข / The Darkest Romance (Feat. PPOIID)

เพลงยาวเกือบ 8 นาทีของ The Darkest Romance เพลงนี้เป็นเพลงรัก เป็นเพลงคู่ที่จะอยู่กันจนวันสุดท้ายของลมหายใจ เพลงนี้ได้พีพอยมาร้องด้วย ร้องแบบร้องไปสองเสียงพร้อมๆ กันชายหญิง คลอไปด้วยวงออร์เคสตราจัดเต็มโดย ทฤษฎี ณ พัทลุง มันคือความสุขที่สัมผัสได้จริง

 

 


  1. Q&A / srwks.

srwks. ย่อมาจาก Sorrow Weeks พวกเขาเป็นวงชูเกซจากเชียงใหม่ที่ทำเพลงชวนนึกถึง Cocteau Twins, Lush, The Sundays วงดนตรีที่มีเสียงผู้หญิงหวาน กีตาร์ล่องลอย 

 

 


  1. ก่อนที่จะสาย / memories can wait 

memories can wait ทำเพลงชื่อว่า Can’t Wait ค้านกับชื่อวง (แต่มีชื่อไทยว่า ก่อนที่จะสาย) เราไม่มีข้อมูลของพวกเขาเลย แต่รู้สึกว่าเพลงของพวกเขาได้อิทธิพลจาก Whal & Dolph ไม่น้อย เสียงร้องหงอยๆ กับกีตาร์เหงาๆ เนื้อเพลงนี่คือใช่เลย การรอคอยที่ไม่มีความหวัง และจมอยู่ระหว่างคำว่าจริงหรือไม่จริง 

 

 


  1. Try, Try, Try / Rocketman

หลังจากทำเพลงกันมา 4-5 ปี พวกเขาก็มีอัลบั้มแรก วงดนตรีที่ทำเพลงไวบ์ดีๆ แบบที่ชวนนึกถึงทั้ง Part Time Musician และ ภูมิ วิภูริศ อาจเป็นเพราะพวกเขามาจากค่ายเดียวกัน Try, Try, Try ฟังเย็นๆ ปลอบประโลมในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ 

 

 


  1. all to know / Max Jenmana

เพลงนี้เหมือนเราขึ้นรถไฟชั้น 3 เดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงปลายปี ลมหนาวปะทะหน้า ทุ่งหญ้าเขียวขจี มีใครสักคนนั่งด้วยอยู่ข้างๆ จับมือกันไว้ แล้วมั่นใจในทางที่เราสองคนจะก้าวไป เมื่อคนอย่างแม็กซ์เจนทำเพลงโฟล์กเกากีตาร์ มันก็จะออกมาสวยงาม 

 

 


  1. MY ALL TIME FAVORITE HEARTBREAKING MOMENT / temp.

เราโอบกอดเสียงเครื่องเป่ายาวๆ ลอยๆ ของวง temp. ทุกครั้งที่ได้ฟัง เพลงชื่อยาวๆ เพลงนี้มีจังหวะผ่อนคลาย เนื้อเพลงยังคงเวียนวนอยู่ในโรงแรมของการใจสลาย และการรอคอยใครสักคนอย่างยาวนาน temp. ไม่เคยทำเพลงให้เราผิดหวังสักครั้งเลย

 

 


  1. ติดฝน / PiXXiE 

อยู่ต่อเลยได้ไหม ในภาคของผู้หญิง เธอมาอยู่ด้วยกัน ฝนก็ตกอยู่ ยังไม่ต้องรีบกลับได้ไหม เล่นภาษาคำว่า ‘ติดฝน’ กับคำว่า ‘ติดเธอ’ เสียงร้องมีความอ้อน กีตาร์มีความเลื้อย ใครฟังแบบนี้ก็ต้องอยากอยู่ต่อ 

 

 


  1. คนในป่า / Boy Imagine’s

ดนตรีโฟล์กในแบบ Boy Imagine’s ไม่ฟังดูชาวบ้านหรือเพื่อชีวิตเกินไป ในขณะเดียวกันมันก็ไม่ได้ฟังสูงส่งเกินความเป็นโฟล์ก มันเป็นเอกลักษณ์ของ Boy Imagine’s หรือเรียกขับขานด้วยนามอันแท้จริงว่า รงค์ ดรุณ เพลงของเขาเล่าเรื่อง ทำให้เราได้ภาพตามจินตนาการ และปรัชญาดีในการเข้าใจชีวิตและธรรมชาติ ประโยคเด็ด “สิ่งอันใดเกิดกับพื้นดิน สิ่งนั้นย่อมเกิดกับเรา”

 

 


  1. Catwalk / H 3 F x Phum Viphurit

เพลงแมวเดินเพลงนี้เท่สมกับเป็นเพลงสำหรับงานเดินแบบจริงๆ กีตาร์ที่ได้สำเนียงสุดฟังก์ ฟังกี่ทีก็เท่ เสียงร้องของภูมิและเสียงคอรัสของ H 3 F คือเข้ากันได้แบบสุดๆ กีตาร์ที่โซโล่เพลินๆ ไปคือเคลิ้มมาก เป็นการร่วมกันทำเพลงที่ลงตัวมากๆ เพลงหนึ่งในปีนี้

 

 


  1. Sunday Gloaming / YONLAPA 

Sunday Gloaming นั่งทอดหุ่ยอยู่ข้างหน้าต่าง แสงอาทิตย์ตกลอดผ่านม่าน ควันบุหรี่จางลอย กระป๋องเบียร์ที่เหลือแต่กระป๋องเปล่า และความคิดถึงที่แวบเข้ามา อยากให้เธอมาอยู่ด้วยกันข้างๆ แต่เธอก็จางหายไปเหมือนควันบุหรี่ ดนตรีดรีมป๊อปที่ลอยเหมือนควัน เพลงที่จบแล้วเหมือนไม่จบ มันคงคล้ายความคิดถึงแหละ

 

 


  1. Tip Toe / HYBS

HYBS หรือ Have you been shrimp? วงโปรดของผมจากปีที่แล้ว ตอนนี้โกอินเตอร์ไปไกลมากจนกลายเป็นวงขวัญใจของเอเชียไปแล้ว Tip Toe เหมือนเยื้องย่างอย่างย่องแย่งบนดวงจันทร์ ประคองไว้ด้วยความระวัง หลงเสน่ห์เธอเข้าเต็มเปา ทำนองอบอุ่นละมุนละไม

 

 


  1. ดาดฟ้า / WORRX

“ยืนบนดาดฟ้า ความทรมาน จะช้าหรือนานมันคงจะผ่านไป” เนื้อเพลงประมาณนี้เลย วง WORRX อ่านว่า วอร์ร่า เป็นโปรเจกต์ของ เบียร์ มือเบสแห่งวง The Biirthday Party เพลงได้ความลอยด้วยกีตาร์ มีความเป็นดรีมป๊อป

 

 


  1. Moonmung / HED

เซิ้งอีสานผสมกับนีโอโซล ออกมาไพเราะและนุ่มนวล เราขอปรบมือให้กับ HED วงดนตรีจากภาคอีสาน งานของพวกเขาเอาไปอวดชาวโลกได้อีกนาน กลิ่นอายของความเป็นไทย ร้องภาษาท้องถิ่น ความเคลิ้มของเสียงพิณที่ติดหูง่าย และการใส่ท่อนแรป เรียกได้ว่าเท่ไปหมด อนาคตเราอาจได้ยินพวกเขาทำโพสต์ร็อกกลิ่นอีสานได้สบาย อย่างแจ่ม

 

 


  1. สิ่งสุดท้าย / P.O.P

เพลงนี้แด่ โต้ง-มณเฑียร แก้วกำเนิด ผู้จากไปในวันวาเลนไทน์ของปี 2023 เนื้อเพลงและทำนองมาจากผองเพื่อนนักดนตรีที่เล่นมาด้วยกันเกือบ 30 ปี โต้งเป็นหนึ่งในนักดนตรีหลักของค่าย Bakery Music (ก่อนที่จะตั้งค่ายซะอีก) และมาโด่งดังกับวง P.O.P ต่อจากนั้นก็มีงานอัลบั้มเดี่ยวในนาม Save Da Last Piece ถึงแม้เนื้อเพลงจะมีเนื้อหาส่วนตัว แต่ก็บอกว่าเขาคือสิ่งสุดท้ายที่ไม่เคยหายไปไหนจากเพื่อนทุกคนเลย

 

 


  1. ลน / The Yers

The Yers ประกาศยุบวง และจะมีคอนเสิร์ตอำลาต้นปีหน้า พวกเขาออกอีพี 4 เพลงทิ้งไว้ดูต่างหน้าก่อนจากลา เพลง ลน เป็นเพลงที่อธิบายโมเมนต์ตอนก่อนจากลาได้ดี อยากมีเวลามากกว่านี้ก่อนจะจากกันไป ความรักที่ยังเก็บไว้ เพลงนี้ไม่ได้ทำออกมาหนักเลย เครื่องสายสวยงามและหมองหม่น

 

 

สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้มีความสุขกับการฟังเพลงครับ

Playlist Apple Music:  https://music.apple.com/th/playlist/mixtapes-thai-2023/pl.u-6mo4oBycE5yrlD

 

Playlist Spotify: https://open.spotify.com/playlist/1JaAAe0zyA55VGIUFABRU6?si=IFOw_tbTQKez3A074z3TPQ&pi=a-NK6SmX9aRrix 

 

เลเล่เล้

มกราคม 2024

X: @laylaidlaid

Facebook: เลเล่เล้ – แนะนำเพลงไทยและสากล

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2023 (ภาคจบ) appeared first on THE STANDARD.

]]>
75 เพลงไทยแห่งปี 2023 (ภาคแรก) https://thestandard.co/75-thai-songs-of-2023-p1/ Mon, 25 Dec 2023 06:10:14 +0000 https://thestandard.co/?p=880609

เราปักหมุดไว้ที่ปี 2023 ได้เลยว่าปีนี้เป็นปีที่มีเพลงไท […]

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2023 (ภาคแรก) appeared first on THE STANDARD.

]]>

เราปักหมุดไว้ที่ปี 2023 ได้เลยว่าปีนี้เป็นปีที่มีเพลงไทยเยอะมาก เยอะจนฟังไม่ทัน ทั้งเพลงที่เป็นกระแสหลักและเพลงระดับอินดี้ ทั้งค่ายเล็กๆ ไปจนถึงทำเองแบบไม่มีค่าย ศิลปินเกิดใหม่เยอะมาก ผมพยายามฟังให้ได้มากที่สุด แต่ก็คิดว่าคงต้องมีเพลงดีๆ ที่หลุดไปบ้างโดยไม่ตั้งใจ หรืออาจจะแปะไว้อยู่ที่ไหนสักแห่งรอวันค้นพบ

 

ขอบคุณ THE STANDARD POP ที่ไว้ใจให้ผมเป็นคนเลือกเพลงด้วยตัวเอง อาจจะอคติไปบ้างตามแนวเพลงที่ชอบ ปีนี้นอกจากโซลและนีโอโซลแล้ว ดูเหมือนดรีมป๊อปและชูเกซ จะกลับมาปรากฏตัวเยอะขึ้นอีกครั้ง และเพลงไทยยังคงหลากหลาย เพลงที่เป็นภาษาอังกฤษมีมากขึ้นจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว (ซึ่งเราเองก็เลิกแยกมานานแล้ว) 

 

ปีนี้เลือกมา 75 เพลงเหมือนปีก่อนๆ ครับ และก็แยกเป็น 2 บทความ โดยอีกบทความจะตามมาหลังช่วงปีใหม่ และจำใส่เพลย์ลิสต์ไว้ให้ด้วยครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ

 

1. Dum Dum – Jeff Satur

เพลงโคตรเท่เลย Jeff Satur กลับมาเขียนเพลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และปีนี้น่าจะเป็นปีของเขา แต่ละเพลงดีๆ ทั้งนั้นเลย Dum Dum มีส่วนผสมของอาร์แอนด์บีกับอิเล็กทรอนิกส์ มีริฟกีตาร์สวยๆ มีเสียงจุดไฟแช็ก เนื้อเพลงพูดถึงความเจ็บปวด ชวนนึกถึงเพลง ทำร้าย ของ Yokee Playboy  

 

 

2. เธอไม่ได้สอนให้ฉันอยู่คนเดียว – SHERRY

วงดนตรีอินดี้ ทำเพลงมาสักพักใหญ่ พอเข้าสังกัดใหญ่อย่าง SpicyDisc ปล่อยเพลง เธอไม่ได้สอนให้ฉันอยู่คนเดียว เป็นเพลงแรกก็ดังเปรี้ยงปร้างเลย เพลงที่ให้ความรู้สึกหมดแรง เธอจากไปไม่ได้บอกสักคำ ทำนองสวย ท่อนฮุกติดหูง่าย คีย์บอร์ดเหงา เครื่องเป่าเสริมบางๆ SHERRY ตั้งชื่อจากนักแสดง พวกเขาคือ แจ๊ค อรรถพล กับ จีน พันธุ์กวี

 

 

3. notOKkrubbossX – _less

ชื่อวงอ่านว่า อันเดอร์สกอร์เลส วงนี้มี 2 คน โดยที่ทั้ง 2 คนใส่หน้ากากไม่ยอมเปิดเผยหน้าตา เนื้อเพลงกวนเหลือหลาย ใครเคยเจอเจ้านายสั่งงานวันหยุดหรือสั่งเย็นเอาเช้าบ้าง เนื้อเพลงประมาณนี้เลย คือเล่าเรื่องมาจากคำพูดเจ้านาย หลอนมาก ใส่ดนตรีให้ได้ความสนุก ที่ฟังแล้วทุกข์แทน เป็นเพลงอารมณ์ดีชวนนึกถึงงานของปันปัน ยีย์ยีย์ 

 

 

4. ถ้าพบกัน ขอให้วันนั้นเราโตพอที่จะไม่ทิ้งกันอีก – Romancerr

ความรักเราคงเป็น Puppy Love อาจจะเป็นที่ความคิด อาจจะเป็นที่อายุ แต่ไม่ใช่เป็นเพราะเราไม่ได้รักกันจริงแน่ๆ ถึงเราเลิกกันในตอนนี้ แต่อนาคตเราอาจจะได้เจอกันอีกก็ได้ ถึงวันนั้นเราก็คงจะโตพอที่จะไม่ทำอะไรเหมือนวันนี้ Romancerr (อ่านว่า โรแมนเซอร์) คือ อาร์ม-อติวิชญ์ แสงฉายา ทำเพลงนี้ได้เพราะเหลือเกิน 

 

 

5. คนที่คุณอาจรู้จัก – guncharlie (Feat. Stamp)

เธอมีรอยตำหนิอยู่ที่แขนซ้าย จริงๆ แล้วเธอไม่ใช่คนใจร้าย เราเคยรู้จักกัน แต่ตอนนี้เธอหายไปไหนไม่รู้ ความทรงจำบอกว่าเราเคยรู้จักกันดี แต่ความทรงจำคงเหมือนแผลเป็น มันไม่เคยจางหายไปไหน เพลงช้าที่มีความดิ่ง และพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ในท่อนแรป แล้วก็ตบลงมาด้วยเสียงของแสตมป์ อภิวัชร์ รวมเป็นความทรงจำที่แสนใจร้าย

 

 

6. ใจลอย – QLER 

การเขียนเพลงแบบประชดศิลปินได้อย่างน่ารักที่สุด เนื้อเพลงเล่าว่านอนไม่หลับเพราะคิดถึงเธอ แต่คิดเท่าไรก็รู้ว่าสู้คนหนึ่งไม่ได้ คนคนนั้นคือ THE TOYS! หนุ่มแบดบอยเศรษฐีย่านอารีย์ ดนตรีเป็นอาร์แอนด์บี มีร้องรัวเหมือน THE TOYS ด้วย QLER คือศิลปินค่าย What The Duck ที่เรารออัลบั้มเต็มอย่างใจจดใจจ่อ

 

 

7. Let Me Love U – Daniel Ryn

เพลงแบบ Daniel Ryn คือเพลงที่มีทำนองสวย ดนตรีสว่าง จังหวะเพลงสนุกสนาน ฟังชื่นบานร่าเริงทั้งวัน เนื้อเพลงคือไปแอบหลงรักใครสักคนที่ไปกับไอ้หนุ่มคนไหนก็ไม่รู้ที่ไม่ได้เรื่องเลย ถ้าเธอแค่รู้ว่าฉันรักเธอแค่ไหนนะ 

 

 

8. คืนให้ – Sarah Salola (Feat. Mean TaitosmitH) 

เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ทำน้ำตาเปียกหมอนสำหรับคนมูฟออนไม่ได้ เรื่องราวของความรักที่คืนให้ไม่ไหว ประโยคธรรมดาที่สวยงามในท่อนสร้อยแสนเจ็บ “ก็คืนให้ทั้งชีวิตและฝันที่เคยคุยกันไว้” เพลงได้ มีน ไททศมิตร มาโซโล่กีตาร์ทำให้เพลงป๊อปเพลงนี้ช่างปวดร้าวขึ้นไปอีก ส่วนเสียงของซาร่าห์คือเหงาไปนะ 

 

 

9. TRYNAFINDYOU – Lesssugär

Lesssugär เป็นวงดนตรีดรีมป๊อปที่ซาวด์กีตาร์ก็พอจะเป็นชูเกซได้ด้วย พวกเขาคือสมาชิกวง The Biirthday Party ที่ลองของใหม่โดยมีนักร้องนำเป็นผู้หญิง (และเล่นเบสด้วย) เธอชื่อ ฟางค์ และเสียงของเธอก็ชวนลอยดี ฟังแล้วนึกถึง Cocteau Twins ไปจนถึง Alvvays เพลง TRYNAFINDYOU คือการตามหาใครสักคนที่ชวนนึกถึงหนังสือของ Haruki Murakami

 

 

10. Feels Like Home – Gabe Watkins

มีซิงเกิลมาพอสมควร ปีนี้ Gabe Watkins ศิลปินลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลียมีอัลบั้มเต็มแล้ว เพลงของ Gabe เอาไว้ฟังเวลาเดินทางต่างจังหวัด จังหวะของเพลงจะทำให้เราเบิกบาน Feels Like Home มีเสียงคีย์บอร์ดที่ลื่นไหล ทำนองเพลงสวยงาม ชวนคิดถึง Josh Rouse ไปจนถึง Matt Maltese แล้ววกกลับมา HYBS

 

 

11. love is growing – Plastic Plastic

ทุกปีจะต้องมีเพลงของ Plastic Plastic ติดอยู่ในลิสต์ของผม เพลงของ Plastic Plastic เติบโตขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอะไร love is growing ดนตรีละเมียดละไม เนื้อเสียงอบอุ่น เพลงโอบอุ้มความสัมพันธ์ อาบฝันความรักของสองคน ถึงแม้ว่าเราจะเข้าใจความรักอันน้อยนิดเหมือนกับหยดน้ำในมหาสมุทรก็ตาม

 

 

12. take off your shoes – dem’s 

วงดนตรีเล็กๆ มีกัน 3 คน ออม ป๋วย และตาว เพิ่งมีซิงเกิลเพลงนี้เป็นเพลงแรกและเป็นเพลงเดียวของปีนี้ด้วย แต่ทำเพลงออกมาได้ละมุนละไมมาก ชวนนึกถึงสมัยที่เราเพิ่งทำความรู้จักศิลปินอย่าง Namcha และ H I N A N O รวมถึงได้ฟีลอย่าง LANDOKMAI และ ANATOMY RABBIT ด้วย เพลงดรีมป๊อปลอยๆ take off your shoes เป็นเพลงเกี่ยวกับความรักที่มีอีโก้อยู่ไม่น้อย ถ้าได้ปลดเปลื้อง (รองเท้า) ออกไปบ้างก็จะดีเหมือนกัน 

 

 

13. ธาตุทองซาวด์ – YOUNGOHM (Feat. SONOFO)

ธาตุทองซาวด์ ปักหมุดเพลงเต้นสนุกสนานประจำงานสงกรานต์ 2023 งานเพลงจากอัลบั้มเต็มชื่อเดียวกันของยังโอมที่ทำมาเป็นคอนเซปต์อัลบั้ม โดยเอาโรงเรียนเก่าของเขาเป็นแก่นของอัลบั้ม เพลงที่ใส่ความเป็นไทยในซาวด์ที่ทันสมัย เป็นความน่าทึ่งในเส้นทางดนตรีที่ทั้งแมสทั้งเท่

 

 

14. Capture ใต้ร่มไม้ – PENGUIN VILLA

เพลงของ เจ เจตมนต์ หัวหน้าหมู่บ้านเพนกวินยังจับใจเราได้ทุกปี ด้วยคอร์ดสวยและแปลก ฟังดูเท่ แต่เต็มไปด้วยความไพเราะ เนื้อเพลงเหมือนนอนหนุนตักเขียนเพลงใต้ต้นไม้ เป็นเพลงรักที่อยู่กับปัจจุบัน มีความสุขกับปัจจุบัน ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ขอเพียงจดจำปัจจุบันนี้เอาไว้ แต่ถ้ามองเพลงนี้เป็นเพลงเศร้า การจากลาอีกไม่นานก็ขอให้เป็นการจากลาที่ยิ้มทั้งน้ำตา อย่างน้อยก็เคยมีเวลาดีๆ แบบนี้

 

 

15. มนุษย์ดอกไม้ – DADa’

เพลงที่ฟังครั้งแรกนึกถึง Sqweez Animal และเสียงกีตาร์สำนวนสิงห์ ฟังครั้งที่สองนึกถึง Solitude Is Bliss มีความเมาหงุดหงิดอยู่นิดๆ DADa’ เป็นวงดนตรีจากเชียงใหม่ ทำดนตรีออกมาเป็นร็อก พังก์ และไซคีเดลิกปนกัน เนื้อเพลงประชดประชัน เป็นการมองโลกในแง่ร้ายของคนหวังดี 

 

 

16. die tryin – PETITE

เสียงของเปอติ๊ดสะกดเราทุกครั้งที่เพลงถูกหมุนวนขึ้นมาจากเพลย์ลิสต์ งานดนตรีโซลที่งดงาม มีเสียงร้องกับกีตาร์ คีย์บอร์ดเสริม แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพลงพูดเรื่องของความพยายาม อย่างที่เขาว่ากัน อะไรที่ไม่ทำให้เราตายจะทำให้เราแกร่งขึ้น 

 

 

17. ตาย – DJ Suharit Siamwalla

ความตายมันก็แค่ทางเดินกลับบ้าน งานเพลงใหม่ของ สุหฤท สยามวาลา หลังจากหายหน้าไปนาน เขาเตรียมกำลังจะออกชุดใหม่ ดนตรีเป็นร็อกผสมแดนซ์ เป็นอีดีเอ็ม มีความอิเล็กทรอนิกส์มันๆ ดีดดิ้นได้เต็มที่ เนื้อเพลงพูดถึงความตายได้อย่างเท่ที่สุด เลิกเศร้า เลิกทุกข์ สักวันหนึ่งไม่ช้าหรือเร็วมันก็ต้องมา 

 

 

18. 704 – AUTTA

อัตตากับอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรก มีอะไรซ่อนไว้มากมายในเพลงและในอัลบั้ม 704 คือห้องที่เขาเคยอยู่ขณะเรียน ขนาดของห้องเท่ากับชื่ออัลบั้มซึ่งเล็กมาก แต่มันมีอะไรมากมายเกิดขึ้นในนั้น ซึ่งเนื้อเพลงบอกหมด เพลงเป็นสแตนดาร์ดแจ๊สที่ร้องด้วยแรป เปียโน ดับเบิลเบส กลอง และเครื่องเป่า ในส่วนที่ซ่อนไว้ ขอเฉลยตรงนี้เลย ความยาวของเพลงคือ 4:07, ใช้ Time Signature 7/4, และบีตดนตรีของเพลงนี้จะอยู่ที่ 74 bpm ทำออกมาได้ลึกและสุดยอดมาก

 

 

19. ผ้าพันคอ – lostbeans

วงดนตรีอินดี้ 4 คนน่าจับตามอง พวกเขาทำเพลงเป็นบริตป๊อปผสมพังก์เล็กน้อย เขียนเนื้อเพลงได้น่าสนใจ ร้องแต่ว่า ผ้าพันคอ ผ้าพันคอ ต้องหาเนื้อดูถึงจะเข้าใจว่าเป็นการเทียบกับความสัมพันธ์ของสองคน วงถั่วหายวงนี้ชวนคิดถึงวงอย่าง Seal Pillow ไม่มากก็น้อย งานเพลงที่ไม่ต้องเข้าใจอะไรมากก็ได้ มีลูกเล่นไม่ธรรมดา

 

 

20. ฟ้ามืดทีไร – Dept 

ความคิดถึงมีหลายรูปแบบ มองฟ้า มองดาว ใครๆ ก็เขียนมาเยอะแล้ว แต่แปลกดีไม่เคยมีใครอ้างถึง ‘ฟ้ามืด’ ทั้งๆ ที่ฟ้ามืดนี่แหละที่ทำให้คนยิ่งรู้สึกคิดถึงกัน Dept นำเสนอเพลงนี้ด้วยจังหวะไม่ช้าไม่เร็ว ทำนองไม่เศร้า ถ่ายทอดออกมาสว่าง เหมือนอารมณ์ดี แต่เนื้อเพลงนี่สิ อย่างเหงาเลย 

 

 

21. สบายใจกว่าเยอะ! – PAWAE 

ความรักมีต้องใช้ แต่ถ้าไม่ใช่ให้อยู่เฉยๆ สบายใจกว่าเยอะ! เหมือนทำความรู้จักเพื่อนคนหนึ่งที่ปล่อยวางทางความรักได้ เบื่อตาโน่นตานี่ รักใครเขาก็ไม่รัก ใครมารักเราก็ว่าไม่ใช่อีก ก็เลยอยู่คนเดียวดีกว่า เป็นเพลงที่ทำออกมาได้น่ารักสมวัย แพรวา-แพรรุจิรา โกมลารชุน เขียนเพลงนี้เองด้วย และมีไมโล Tilly Birds มาโปรดิวซ์ให้ เพลงนี้แด่คนโสดทุกคน

 

 

22. สักคำ…ก็สำคัญ – Aran

Aran ทำให้ผมนึกถึง เบน ชลาทิศ และ ป๊อบ ปองกูล ผู้ชายเสียงหวานปนเศร้า เขาเขียนเพลงเองด้วย สักคำ…ก็สำคัญ เป็นซิงเกิลที่ 2 ของ นุ้ย-อรัณย์ หนองพล เนื้อเพลงมีความห่วงหา ความรักเก่าที่ร้างลาไปแล้ว เป็นเพลงที่โน้ตสวย และคอร์ดแปร่งในท่อนฮุก ฟังจบควรคิดถึงใครสักคน

 

 

23. สักวันจะกลายเป็นฝน – tAH AND FRIENDS.

ชื่อวงอ่านว่า ต๊ะแอนด์เฟรนด์ 3 ปีทำมา 4 เพลง เขาคือ ต๊ะ ศิวัช อดีตนักร้องวง 23’O และยูทูเบอร์สายฮา เพลง สักวันจะกลายเป็นฝน คือเพลงแห่งความอดทน ทุกคนมีวันที่ดอกไม้ของตัวเองจะบาน สักวันเราจะเติบโต เพลงใส่แซกโซโฟนเข้ามาได้อย่างน่าทึ่ง

 

 

24. Rise Up – Mike Sriviengping 

ไมค์ ศรีเวียงพิงค์ คือนักดนตรีจากเชียงใหม่ เคยมีผลงานร่วมในอัลบั้ม Minimal’s Less ของค่าย Minimal Records เมื่อเราฟังเสียงกีตาร์ของเขา เราจะทึ่งในความสามารถในการเล่นกีตาร์แบบ Fingerstyle งานของเขาชวนคิดถึง Newton Faulkner เพลง Rise Up นี่โกอินเตอร์สบายๆ เลย 

 

 

25. Our Song – neptember

neptember คือ นัท-ดลรัชรัตน์ พรหมสุนทรสกุล ทำเพลงป๊อปหวานๆ เหงาๆ เสียงของนัทฟังเคลิ้มชวนนึกถึงละอองฟอง, WNRDA, The Kopycat และชวนนึกถึงศิลปินต่างประเทศในยุคปัจจุบันอย่าง Laufey ด้วย เนื้อหาของเพลงพูดถึงเพลงที่เคยฟังด้วยกัน เพลงเพราะๆ เพลงนั้นมันยังเป็นเพลงของเราเสมอๆ หรือเป็นแค่เพลงของฉันในตอนนี้

 

 

26. บรรยากาศ – Only Monday 

วงดนตรีมาแรงของค่าย Gene Lab พวกเขามีกัน 3 คน ดนตรี 3 ชิ้น กีตาร์ เบส และกลอง เล่นแน่น ร้องดี บรรยากาศฟังแล้วชวนคิดถึงวงอย่าง Musketeers มีท่อนโซโล่กีตาร์ยับ ทำนองเพลงสวย เพลงจังหวะสนุก ทั้งๆ ที่เนื้อหาของเพลงคือความเหงาของบรรยากาศที่ไม่มีเธอเหมือนเมื่อก่อน เป็นเพลง Nostalgia ที่ดีมากๆ สำหรับคนมีอดีต

 

 

27. Obey – The Octopuss*

วง The Octopuss* (ของแทร่ต้องมี * ด้วย) เป็นวงที่เราอยากเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตู พวกเขาเป็นวงดนตรีที่ทำเพลงพังก์ร็อกอย่างเท่ กีตาร์ เบส และกลอง มันช่างเฟี้ยว เพลง Obey คือเพลงที่โดดเด่นทุกครั้งที่เวลาเพลย์ลิสต์โดดเด้งขึ้นมา เพลงนี้เครื่องเป่าดีดดิ้นกับกีตาร์ได้ดี  

 

 

28. FOLLOW – Flower.far

Flower.far มีความเป็น World Music เธอคือ ฟาร์-พิชญานิน หนูศรี ศิลปินใหม่ของค่าย YUPP! ที่ขนาดนิตยสาร NME ยังจับตามองว่าเธอจะโกอินเตอร์ตามมิลลิไปไหม เพลง FOLLOW นี่เล่นใหญ่มากตั้งแต่ดนตรีถึง MV เพลงที่แสดงให้ถึงพลังเสียงบวกกับดนตรี Afrobeat ตรงกับเนื้อเพลงที่สร้างความสัมพันธ์ ยั่วยวน ลุ่มหลง จนต้องติดตาม 

 

 

29. ASIAN FLUSH – via.

ผมไม่มีข้อมูลอะไรของ via. เลย ไม่รู้ชื่อจริงของเธอ แต่รู้สึกว่าเธอทำเพลงน่าสนใจมาก เพลงของเธอเป็นนีโอโซล กีตาร์หวานๆ ลอยๆ กับเสียงทุ้มต่ำ ชวนคิดถึง Zweed n’ Roll ไปจนถึง PETITE และแนวเพลงชวนคิดถึง ABOY เพลง ASIAN FLUSH มีความเซ็กซี่ เป็นเพลงแห่งคืนแรกที่เจอกัน หลงเสน่ห์หัวปักหัวปำ กีตาร์ไฟฟ้าท่อนโซโล่ที่หยอดลงมาบาดรุนแรงเหมือนโดนไฟช็อต

 

 

30. Hold Me Down – Ambivalent Bodies

วงสองพี่น้องฝาแฝด กวิน-ปีเตอร์ ทำเพลงได้สนุก และมีซาวด์เป็นเอกลักษณ์ที่ฟังแล้วรู้เลยว่าเป็นวงนี้ พวกเขามีแรงบันดาลใจอย่าง deadmau5 เพลง Hold Me Down เหมือนปลุกเราตื่นแล้วออกไปตามฝันกัน มีอุปสรรคก็ต้องฝ่าฟันไป 

 

 

31. ZiGZaG – ALLY

ถ้าฟังดีๆ ก็พอจะรู้ว่าใครเป็นคนเขียนเพลงให้ เพลงมีจังหวะแปลก มีท่อนแรป ชวนโยกและชวนเคลิ้มในเวลาเดียวกัน พอดูเนื้อเพลงคือ ไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ฟังแล้วติดหนึบภายใน 2-3 รอบได้ ใช่แล้ว คนเขียนและคนโปรดิวซ์เพลงให้แอลลี่คือ THE TOYS

 

 

32. จะเกิดใหม่ครั้งใด ขอให้เธอได้เป็นขวัญใจ – Youth Brush

อยากเกิดใหม่ใกล้บ้านเธอ เราคงได้เป็นแฟนกัน เธอจะเป็นขวัญใจของฉัน เพลงของ ดุ่ย Youth Brush ทำออกมาน่ารักแบบสุดๆ เอาจริงๆ คือ ชาตินี้คงไม่มีหวังกับเธอแล้ว ดังนั้นขอเป็นชาติหน้าละกัน เสียงร้อง เสียงประสาน เสียงกีตาร์ และเสียงผิวปาก ผสมผสานกันจนอยากเกิดใหม่เร็วๆ 

 

 

33. SEED – door plant

อินโทรเพลง SEED นี่นึกถึง New Order เลย เบสที่เดินเท่ เพลงที่จังหวะสนุกๆ กีตาร์กับกลองซัดสุดมัน พวกเขาเป็นอินดี้ที่เล่นซาวด์อังกฤษได้อย่างถึง พวกเขาทำเพลงมาสักพักใหญ่แล้ว ปีนี้ได้ฤกษ์ออกอัลบั้มเต็มซะที 

 

 

34. Lucent Tides – Fourtwosixx Feat. stella kana

อิเล็กทริกป๊อปสวยงามที่หลงข้ามกาลเวลาจากยุค 90 มาอยู่ในปัจจุบัน ดนตรีที่ทำให้นึกถึงวง Saint Etienne โดยเฉพาะเสียงร้องหวานๆ กับเครื่องดนตรีสังเคราะห์ที่ทำให้รู้สึกลอยๆ ใส่กลองที่เด่นพอสมควร Fourtwosixx คือ เรียว มิโตมิ ศิลปินญี่ปุ่นที่มาออกผลงานในไทยกับค่าย Comet Records BKK 

 

 

35. 1955 – SOBBOY

SOBBOY คือ โบ๊ท คนาวิน แห่งวงสมเกียรติ เมื่อวงแตกลง เขาออกทำงานเดี่ยวที่ยังชวนคิดถึงงานแบบสมเกียรติอยู่ โดยเฉพาะเพลงนี้ชวนคิดถึงเพลง สิ่งสุดท้าย ที่เคยแนะนำไปเมื่อ 2 ปีก่อน SOBBOY ชื่อก็บอก ขอเป็นตัวแทนความสะอื้นชอกช้ำ 1955 แทนการจากลาที่ทำให้รู้รสชาติของน้ำตาเป็นอย่างดี 

 

 

เลเล่เล้

ธันวาคม 2023

Twitter: @laylaidlaid

Facebook: เลเล่เล้ – แนะนำเพลงไทยและสากล

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2023 (ภาคแรก) appeared first on THE STANDARD.

]]>
3.45 x 4.9 x 2.55 – AUTTA อัลบั้มแห่งการรอคอยอัลบั้มหนึ่งในปีนี้ และก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย https://thestandard.co/345-x-49-x-255-autta/ Thu, 24 Aug 2023 07:31:53 +0000 https://thestandard.co/?p=833306

การผสมผสานของสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกันอย่างสุดขั้วได้อย่างล […]

The post 3.45 x 4.9 x 2.55 – AUTTA อัลบั้มแห่งการรอคอยอัลบั้มหนึ่งในปีนี้ และก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย appeared first on THE STANDARD.

]]>

การผสมผสานของสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกันอย่างสุดขั้วได้อย่างลงตัว

 

นี่คืออัลบั้มแรกของ อัตตา ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งมาจากชื่อจริงเล่นๆ ว่า อัษฎกร เดชมาก และมีชื่อเล่นจริงๆ ว่า กร ทุกคนรู้จักเขาในนามแรปเปอร์อัจฉริยะ เขาจบจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหิดล สาขาแจ๊สและซาวด์เอ็นจิเนียร์ ทำเพลงมาตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ ซึ่งก็ประมาณ 4 ปีที่แล้ว ระหว่างเส้นทางก็ไปแข่งขันในรายการ RAP IS NOW ทะลุเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และได้ที่ 2 กลับมา (ที่ 1 ในปีนั้นคือไมยราพ)

 

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว อัตตาเริ่มทำเพลงแรกคือ ชายหน้ามึน เพลงเป็นทางแจ๊ส แต่วิธีร้องใช้แรป เพลงนั้นไม่ได้อยู่ในอัลบั้มนี้ หลังจากนั้นอัตตามีเพลงอย่าง ว่างยัง, แย้มบาน, วันอากาศดีๆ ที่ไม่มีเธออยู่ ซึ่งเพลงเหล่านี้ก็ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มแรกอัลบั้มนี้เช่นกัน นอกจากนี้ ระหว่างทางเขายังไปฟีเจอริงกับคนอื่นๆ อีกเยอะ เช่น ว่าน วันวาน, ป๊อบ ปองกูล, di age, F.HERO, I Hate Monday, เป้ อารักษ์ รวมถึงไมยราพด้วย 

 

 

เพื่อนสนิทของอัตตาคือ มิค-เพชรภูมิ เพชรแก้ว ซึ่งอัตตาบอกว่าอัลบั้มนี้เขาทำครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งมิคทำ มิคเป็นมือกีตาร์วง I Hate Monday ซึ่งเป็นวงป๊อป แต่เขาเป็นมือกีตาร์สายร็อก เมื่อสองคนทำเพลงออกมา มันเข้าคู่ได้ดีจริงๆ 

 

11 เพลงในอัลบั้มนี้แยกเป็นหลักๆ ได้ 3 ส่วน สามเพลงแรกได้ฟีลแบบแจ๊ส 4 เพลงต่อมาจัดว่าเป็นร็อก อีก 3 เพลงเป็นโฟล์กป๊อปกีตาร์นำ แล้วปิดท้ายด้วยป๊อปเหงาๆ ด้วยเปียโน การทำเพลงแบบนี้ทำให้เหมือนดูหนังสามภาคให้จบภาคในชั่วโมงเดียว ได้อารมณ์ครบทุกรสชาติ มันเป็นรสชาติแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ฟังทีละเพลงก็ทึ่งแล้ว แต่เอามาฟังเรียงกันทั้งหมดก็ทึ่งไปอีก ถ้าครึ่งปีแรกเป็นปีของแรปเปอร์อย่าง YOUNGOHM ครึ่งปีหลังขอยกให้อัตตา

 

นอกจากดนตรีที่ทำได้กลมกล่อมแล้ว จุดเด่นของอัตตาคือการเขียนเนื้อเพลง ภาษาที่ใช้สละสลวย ที่สำคัญมันมีประโยคที่เหมือนปักเข้าไปกลางอก ฟังแล้วรู้สึกว่า เขียนได้ไงวะ เดี๋ยวเราจะแกะสิ่งนี้ออกมาทีละเพลง อัตตาบอกว่า เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาไกลถึงขนาดนี้ เขาทำเพลงก็แค่สนองตอบความอยากทำของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำเพื่อใครอื่นเลยในตอนแรก เขาไม่ได้มีลุคของฮิปฮอปเดิมในยุคของ RAP IS NOW เขาเป็นหนุ่มหน้าตี๋ที่แรปได้อย่างน่าทึ่ง

 

ตัวอัลบั้มมีความเป็นสุดขั้วตรงข้ามแต่จับมารวมกันได้ เพลงแจ๊สที่เบาบางมาใส่ในการร้องแรปที่กระโชก เนื้อเพลงที่ดูเหมือนจะเข้าใจตัวเองและไม่เข้าใจตัวเองในเวลาเดียวกัน วิถีของแรปเปอร์ที่ลงมือทำแล้วต้องทำให้สุด ปะปนกับความพ่ายแพ้ไปทุกอย่างแม้กระทั่งแพ้ตัวเอง ความย้อนแย้งมีมากมายในอัลบั้มนี้ แต่ผสมผสานได้อย่างกลมกลืน อัตตาบอกว่า เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาไกลถึงขนาดนี้ เขาทำเพลงเพียงแค่ตอบสนองความอยากทำของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำเพื่อใครอื่นเลยในตอนแรก

 

 

อัลบั้มชื่อจำยาก 3.45 x 4.9 x 2.55 มันคือขนาดของห้องของอัตตาตอนเรียนดนตรีช่วง ม.ปลาย ห้องนี้เป็นห้องเช่าที่เล็กมากๆ อัตตาเปิดเพลงแรกของอัลบั้มด้วยการบรรยายถึงห้อง ชีวิตในห้อง สิ่งที่เรียนรู้จากห้อง ห้องนั้นเลขที่ 704 เขาตั้งชื่อเพลงตามชื่อห้อง ซึ่งบางคนนึกถึงเพลงของ ดาจิม แรปเปอร์ในยุค Y2K ที่เขียนเพลงเล่าเรื่องผีในห้องเลข 704 เหมือนกัน (หวังว่าน่าจะคนละที่) เพลงนี้เปิดด้วยเปียโน พลิ้ว ตามด้วยดับเบิลเบส กลอง พอเสียงร้องขึ้น เครื่องเป่าก็พากันมาเต็ม ปลายเพลงมีแซกโซโฟนด้วย ถ้าลองฟังเพลงนี้สัก 2-3 รอบ ลองโฟกัสที่ดนตรีโดยตัดเสียงอัตตาออกไป มันจะกลายเป็นการฟังเพลงสแตนดาร์ดแจ๊สที่เพราะและนุ่มลึกเพลงหนึ่ง 

 

ใครที่ชอบสายทฤษฎี อัตตาเล่าให้ฟังว่าเพลงนี้เขาซ่อนอะไรไว้กับเลข 704 เยอะมาก เช่นความยาวของเพลงคือ 4:07, ใช้ Time Signature 7/4 ซึ่งแรปเปอร์อย่างเขาชอบใช้, บีตดนตรีของเพลงนี้จะอยู่ที่ 74 bpm, และมีเนื้อเพลงที่พูดถึง Stan Getz ผู้ซึ่งมีเพลง Seven Steps to Heaven ซึ่งอัตตาก็ฮัมเพลงนี้เข้าไปในเพลงด้วย และประโยคเด็ดเพลงนี้คือ 

 

“กว่าจะผ่านพ้นแต่ละปี Democracy ที่มี 

ดันเป็นตัว demo crazy that we all live with 

ผู้นำระยำตั้งแต่ ’15 

และอยู่กับโรคบ้าๆ ตั้งแต่ ’19”

 

704

 

 

เพลงต่อมา ทางรถไฟกับวัยเซ่อ เล่าเรื่องของเพื่อน (ก็คือคุณมิคนี่แหละ) ชวนออกไปเดินเล่น จิบเบียร์ Budweiser (ซึ่งทำให้รู้ว่าไม่ได้หมายถึงวัยเซ่อซ่า) เดินไปในทางรถไฟทั้งๆ ที่ฝนตก เจออะไรบ้าง เล่าเป็นเรื่องเป็นราว เป็นเพลงที่มีแค่เสียงเปียโนกับกลองสแนร์ ท่อนฮุกที่แทรกเข้ามามีความหลอกหลอนอยู่ลึกๆ เหมาะกับบรรยากาศดึกๆ แก่นของเพลงนี้คือการตอบแทนคุณสิ่งที่เราใช้อยู่ทุกวันบ้าง ตรงปลายเพลงมีประโยคดีๆ เยอะแยะเลย

 

ต่อด้วยเพลงที่ปล่อยเมื่อปีที่แล้ว ไม่ว่างมองฟ้า เพลงนี้มี Feat. กับปรัชญาไมค์ (Pratyamic) และ K.AGLET แรปเปอร์ชาวพิษณุโลก เพลงนี้ขึ้นด้วยฮุกก่อนเลย เนื้อหาเป็นงานส่วนตัวแต่ละคน บอกเลยว่าแต่ละคนนั้นผ่านอะไรมา เคยหนักหนาแค่ไหนกับการเป็นแรปเปอร์ การพิสูจน์ตัวเองจากสิ่งที่ทำมาเป็นพันๆ รอบ จากคนธรรมดาที่ต้องทำมากกว่าคนอื่น ท่อนฮุกแค่สะท้อนว่าบางทีเราก็แค่เงยหน้าขึ้นฟ้าบ้าง อาจจะเข้าใจสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่มากขึ้น เพลงนี้มีแซกโซโฟนคลอไปตลอดด้วย ถ้าสังเกต มันก็เหมือนท้องฟ้าแหละ มีอยู่ตลอด แค่เคยมองขึ้นไปบ้างหรือเปล่า 

 

“เป็นเวลานานเท่าไร ที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไป

มองท้องฟ้ากว้างใหญ่ เพียงได้เห็นก็สุขใจ

และนานเท่าไร ที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไป

Wondering who am I

ยังคงหาคำตอบในใจ”

 

ไม่ว่างมองฟ้า

 

 

ต่อด้วยเพลงที่ปล่อยปีที่แล้วอีกเพลง เธอบอกว่าฉันคือ เพลงนี้เจ็บจริง เรื่องของความคาดหวังที่ทำไม่ได้อย่างหวัง เป็นเพลงที่ฟังลอยและจมในเพลงเดียวกัน คีย์บอร์ดคีย์ซ้ำฟังล่องลอย แต่เนื้อเพลงจมดิ่งหมดแรงจะไปต่อ ท่อนอย่าง “เธอบอกว่าฉันเป็นหมอ ขอโทษที่กลายเป็นคนไข้” ทำให้ผมนึกถึงเด็กเรียนที่พ่อแม่ใส่ความหวังให้เรียนหมอ แต่เด็กสอบไม่ติดแล้วรู้สึกเฟลด้วย เพลงนี้ได้ พัด Zweed n’ Roll มาร้องด้วย เสียงของพัดสวยงามและมีพลังมาก มันทำให้เพลงไม่อ้างว้างจนเกินไป

 

“เธอบอกว่าฉันคือเมฆขาว

แต่บดบังแสงของดาวอยู่ใช่ไหม 

บอกว่าฉันคือท้องฟ้าใหญ่

แต่ไม่มีนกตัวใดชอบใจฟ้าแบบนี้หรอก”

 

เธอบอกว่าฉันคือ 

 

 

แล้วเพลงก็เข้าสู่พาร์ตโหด 3 เพลงติด เริ่มด้วย เกลียดกูก่อนมึง ซาวด์กีตาร์แรงๆ แต่มันเจ๋งมาก (มิคอีกแล้ว-เขาเป็นนักเรียนระดับเกรดเอทางด้านกีตาร์ที่มหิดล) กีตาร์เหมือนพยายามจะทิ่มทะลุหูเราตลอดเวลา มันมีความแสบ มีความเฟี้ยว ทางฝั่งอัตตาเขียนเนื้อเพลงสรุปง่ายๆ ว่าเกลียดตัวเอง คนอื่นไม่ต้องมาเกลียดกูเลย กูเกลียดกูเองก่อนมึงอีก แถมท่อนสุดท้ายเขาเปลี่ยนสรรพนามจากกูเป็นมึง ซึ่งหมายถึงมึงก็เกลียดตัวมึงเองไม่แพ้กัน นอกจากนี้ นิทานเศรษฐีเฒ่าในเพลงนี้ดีมาก เดิมบีตของเพลง ANTLV เคยเป็นของเพลงนี้มาก่อน แล้วเพลงก็ต่อกันพอดีกับ Introvert ซึ่งมีท่อนโซโล่แบบลีดกีตาร์ชวนนึกถึงร็อกยุค 80 เพลงต้องการจะบอกว่ามึงไม่ต้องพูดหรอก เพราะกูไม่อยากพูดกับมึง ท่อนท้ายนี่พีคทั้งเนื้อและกีตาร์ “ให้ไปฟังมึงกูฟังโซโล่ดีกว่า” แล้วกีตาร์ก็โซโล่ไฟลูกอย่างกับหนัง Crossroads

 

ต่อด้วยเพลงเอกของอัตตา ANTLV เพลงที่ทำให้ทุกคนทึ่งในความสามารถของอัตตาในปี 2021 มันมีความพลุ่งพล่านมากๆ โหดสลัด แรปเร็วรัว ชื่อเพลงย่อมาจากคำว่า Another Level ซึ่งหมายถึงอีกเลเวลหนึ่ง โดยที่อัตตาต้องการสื่อว่า มันไม่ได้หมายความว่าเหนือกว่าคนอื่น แต่เป็นการเหนือกว่าตนเอง เก่งกว่าเมื่อวาน

 

 

แล้วอัลบั้มก็ตบลงเพลงเบาแบบทันทีกับเพลงที่ชื่อว่า ทบทวน กีตาร์ตบคอร์ดเบาๆ มีคีย์บอร์ดแซม รวมทั้งเสียงผิวปาก เพลงวาดภาพควันบุหรี่กับการนั่งจมจ่อมกับตัวเอง ทบทวนความคิดทบทวนเรื่องเก่าๆ เพลงนี้มี NAME MT (เนม เอ็มที) มา Feat. ด้วย ร้องเสียงธรรมดาด้วยกัน เป็นการตั้งใจทบทวนจริงๆ แหละ 

 

ต่อด้วยเพลงรักเพลงเดียวในอัลบั้ม หลอกมาเลย เพลงที่รู้อยู่แล้วว่าเธอหลอกมาตลอด แต่ก็พร้อมที่จะให้หลอก เพราะยังรักอยู่ เธอปิดบังเรื่องทุกอย่าง เธอกลับมาก็ไม่ได้กลับมาจริง แต่ฉันก็แค่ยังอยากให้เธอหลอกฉันต่อไปอยู่ดี ถ้าฟังดีๆ มันเป็นเพลงที่เศร้ามากนะ เพลงนี้ท่อนจบพยายามดึงโน้ตขึ้นสูงอีก ได้ความปวดร้าว

 

“หลอกมาเลย ฉันเชื่อทุกอย่าง

หลอกมาเลย ว่าไม่จากไปไหน

จะไม่ตั้งคำถาม ไม่ส่งข้อความ ไม่สงสัย 

ไม่พร้อมจะบอก ไม่เป็นไร หลอกมาเลย” 

 

หลอกมาเลย

 

ต่อด้วย สุดท้ายแล้วเราจะ เพลงที่เหมือนควรปล่อยวางทุกอย่างในที่สุด เพราะในที่สุดแล้วชีวิตมันก็ไม่มีอะไรเลย อัตตาเล่นกับความทรงจำของมนุษย์ “สิ่งที่น่ายินดีของความทรงจำคือยังจำได้ว่าเคย สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของมันคือมึงจดจำอะไรไม่ได้เลย” เพลงนี้ Feat. กับ เล็ก Greasy Cafe เป็นเพลงที่ท่อนฮุกสวยมากทั้งทำนองและเนื้อร้อง เสียงของ Greasy Cafe บีบรัดความรู้สึก ดนตรีพีคขึ้นเรื่อยๆ ในท่อนสร้อย เป็นเพลงที่ฟังทีไรก็น้ำตาคลอทุกที 

 

“สุดท้ายแล้วเราจะลืมทุกสิ่ง

สุดท้ายแล้วเราจะทิ้งทุกอย่าง

กลิ่นหอมของความทรงจำสลายเป็นสีเจือจาง

แค่เพียงไม่นานถูกลมพัดลอยผ่านไป

เมื่อนกพิราบสยายแย้มปีก

สิ่งที่เคยได้ยินจะค่อยๆ จาง

อ้อมกอดที่เคยสัมผัสจะหายไปในพริบตา

สักวันเราคงถูกลืมเลือนไม่ต่างกัน”

 

สุดท้ายแล้วเราจะ

 

 

จริงๆ แล้วอัลบั้มควรจบด้วยเพลงนี้ เพราะเป็นบทสรุปทุกอย่างได้อย่างดี แต่อัตตาเขียนเพลงอีก 1 เพลง ชื่อเพลงว่า ประกายฟ้า เป็นเพลงที่มีแค่เสียงร้องกับเปียโน เนื้อเพลงเป็นความห่วงหา การมีเพื่อนสักคนคอยอยู่เป็นเพื่อนคุย เพื่อให้รู้ว่ายังมีใครสักคนอยู่นะ ชีวิตมันไม่ได้อ้างว้างขนาดนั้น เป็นเพลงที่เนื้อหาอบอุ่นมาก เรื่องจริงคือเพลงนี้แต่งให้น้องนักดนตรีคนหนึ่งชื่อ ประกายฟ้า เธอเป็นยูทูเบอร์สาวสวย เธอเสียชีวิตไปในช่วงโควิด ด้วยการที่เธอไม่มีรายได้ใดๆ ในช่วงนั้น เครียด และทำอัตวินิบาตกรรมในที่สุด ถึงเธอจากไป ท้องฟ้าก็ยังคงเป็นประกายให้เธออยู่เสมอ 

 

อัตตาจัดงานเปิดตัวอัลบั้มไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม เอาเพลงทั้งอัลบั้มมาทำเป็นหนัง (กำกับโดย จั๊ก-จิรัฏฐ์ สมภักดี) โดยถ่ายแบบ Long Shot แต่ละเพลง ซึ่งหนังก็มีให้ดูทางยูทูบในช่องของอัตตาด้วย เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกอย่างสำหรับอัลบั้มนี้

 

อัลบั้ม: 3.45 x 4.9 x 2.55

ศิลปิน : AUTTA

ค่าย: YUPP! Entertainment 

 


 

เลเล่เล้

สิงหาคม 2566

X: @laylaidlaid

FB: เลเล่เล้-แนะนำเพลงไทยและสากล

 

ภาพ: YUPP!

The post 3.45 x 4.9 x 2.55 – AUTTA อัลบั้มแห่งการรอคอยอัลบั้มหนึ่งในปีนี้ และก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย appeared first on THE STANDARD.

]]>
PLOY จาก วาเลนติน่า พลอย อัลบั้มที่เอาไว้นอนฟังบนเตียง มองเพดานแล้วก็คิดถึงใครบางคน https://thestandard.co/ploy-by-valentina-ploy/ Thu, 25 May 2023 07:31:35 +0000 https://thestandard.co/?p=795063 Valentina Ploy

พยายามวางเรื่องเพลงของเธอให้ความรู้สึกเหมือนฟัง Taylor […]

The post PLOY จาก วาเลนติน่า พลอย อัลบั้มที่เอาไว้นอนฟังบนเตียง มองเพดานแล้วก็คิดถึงใครบางคน appeared first on THE STANDARD.

]]>
Valentina Ploy

พยายามวางเรื่องเพลงของเธอให้ความรู้สึกเหมือนฟัง Taylor Swift ไว้ข้างๆ ก่อน แล้วลองฟังอัลบั้มนี้อย่างตั้งใจ มันเป็นอัลบั้มที่มีแต่เพลงเพราะๆ ทั้งอัลบั้ม

 

วาเลนติน่า พลอย เป็นใคร? เธอเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี เกิดที่อิตาลี แต่พูดไทยได้คล่อง เธอมีความเป็นฝรั่งมาก ทำมาทุกอย่าง เช่น เธอเคยประกวดนางงาม Miss Universe Thailand ด้วย แถมได้ตำแหน่งรองอันดับสอง เพราะตอนเด็กๆ เธอชอบงานประเภทอาสาสมัคร เธอเคยแข่ง The X Factor และ Amici ที่อิตาลี เคยแข่งประกวดร้องเพลง The Voice Thailand Season 6 โดยมี โจอี้ บอย กดหันกลับมาเพียงคนเดียว 

 

อันที่จริงเธออยู่ในวงการเพลงไทยมาเกือบ 4 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้วาเลนติน่ามีอีพีหนึ่งชุดชื่อ Satellite เมื่อปี 2020 มี 5 เพลง และมีเพลงอย่าง See you in life ที่เพราะมาก ผ่านช่วงเวลาโควิดอันเสียเปล่าไปสัก 2 ปี กลับมาตอนนี้เธอมีอัลบั้มล่าสุดเป็นอัลบั้มเต็มไม่ซ้ำอีพีเดิม อัลบั้มนี้มีชื่อสั้นๆ ว่า PLOY

 

Valentina Ploy

 

เพลงในอัลบั้ม PLOY มีทั้งหมด 11 เพลง และมีพูดอินโทรตอนเริ่มอีก 1 แทรก (ซึ่งถ้าเรากดแบบวนซ้ำในสตรีมมิง พอวนกลับมาอีกทีจะข้ามแทร็กพูดไปเลย) ตรงอินโทรเหมือนเวลาเราอ่านโน้ตบทปกอัลบั้ม เธอบอกว่าอัลบั้มนี้เธอเขียนในห้องน้ำ ร้องในห้องน้ำ มันคือเรื่องราวจริงๆ ของเธอที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนโต เหมือนเป็นไดอารีเล่มหนึ่งที่เล่าถึงแฟนเก่า แฟนใหม่ และเพื่อนไว้ให้เราฟังเพลินๆ เดิมทีอัลบั้มนี้มีชื่อว่า Song from My Bathroom 

 

ธีมของอัลบั้มมีความเป็นป๊อปที่ฟังง่าย ทำนองดี ซาวด์ดี มีเพลงที่ร้องกับกีตาร์ มีเพลงที่ใส่ซาวด์อิเล็กทรอนิกส์ป๊อป มีกีตาร์ไฟฟ้าเด่นออกมา มีทั้งเพลงอกหักและเพลงรัก รวมถึงเพลงที่เกี่ยวกับเพื่อนด้วย อัลบั้มเรียงเพลงอย่างตั้งใจ เริ่มจากเพลงที่มีความสุข สนุก จนกระทั่งถึงโมเมนต์อกหัก อยู่ได้ และก็มีเพื่อนคอยปลอบ 

 

Valentina Ploy

 

เปิดอัลบั้มด้วยจังหวะสนุก กีตาร์โน้ตสวย ซาวด์ก้อง ติดหูง่าย Bla Bli Blu เพลงที่พูดถึงเวลาคนที่เป็นแฟนกัน มักจะมีภาษาเฉพาะของกันและกัน รวมถึงการบอกรักด้วย เธอบอกรักด้วยคำว่า Bla Bli Blu ซึ่งไม่มีคำแปลใดๆ เป็นเพลงที่ฟังน่ารักดี มีการใส่เนื้อเพลงที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษด้วย วาเลนติน่าพูดได้ถึง 5 ภาษา ไทย อิตาลี อังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน ต่อด้วย Again And Always เพลงกีตาร์ลอยๆ พูดกับตัวเอง เรื่องของคนสองคนที่ห่างไกล ส่งได้แค่ข้อความและรูปภาพอาหารเช้าแก่กัน หวังว่าสักวันจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง

 

อัลบั้มคั่นด้วยเพลงช้าบ้าง You’ve Always Been There เพลงรักหวานฉ่ำที่บอกว่าเธอเป็นเหมือนบ้านของฉันเสมอ แล้วต่อด้วยเพลง Nobody’s Perfect ที่มีกีตาร์เฟี้ยว เพลงที่เหมือนทำความเข้าใจกันและกัน เสียงของพลอยในเพลงนี้ฟังแล้วคิดถึงงานของ SAMMii แล้วก็ต่อด้วย Berlin ที่เทียบความรักเป็นเหมือนกำแพงเบอร์ลิน สร้างกำแพงปิดกั้นไว้ ทำลายทิ้ง ซ่อนตัวหลังกำแพง ในที่สุดก็ไม่เวิร์กใดๆ เพลงทำออกมาแบบสนุกๆ ถือว่าเป็นการเลิกที่ไม่ได้เจ็บปวดมาก

 

And I know we don’t talk anymore

But I still have you captured on films that

I took of you

Here in my camera roll

Where a moment is frozen forever in time

Now that nothing’s the same as before

You are so out of touch but yet under my fingers

Now nothing’s the same as before, at all

We’re still safe in my camera roll

 

Camera Roll

 

 

ครึ่งอัลบั้มหลังเป็นเพลงเศร้าซะส่วนใหญ่ เพลงที่เพราะมากๆ คือ Camera Roll ความรู้สึกอึนๆ ในตอนที่เลิกกัน รูปถ่ายที่เคยถ่ายด้วยกันไว้ ความทรงจำที่ยังเก็บไว้ในฟิล์มของกล้องเก่า เป็นเพลงเศร้าที่เรามูฟออนไม่ได้ที่ดีมากๆ เพลงหนึ่ง เสียงร้องกับกีตาร์ตีคอร์ด คอรัสเดินเคียงไปด้วยกันให้เพลงไม่เหงามาก ต่อด้วยเพลง I’m OK เพลงที่หมายความตามชื่อเพลงจริงๆ พอต่อกันก็ทำให้ความรู้สึกดีขึ้น ถึงแม้ข้างในจริงๆ ยังไม่ดีขึ้นก็ตาม 

 

I Miss My Friends เพลงที่วาเลนติน่า พลอย แต่งขึ้นมาก่อนทั้งหมด แล้วอยากให้ ภูมิ วิภูริศ มาร้องด้วย เท็กซ์ไปหา (ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักกัน) เขาตอบรับ แก้เนื้อนิดหน่อย แล้วก็ร้องคู่กัน เป็นเพลงที่วิเศษมากเพลงหนึ่ง มีความเหงาของคนที่ต้องจากบ้านจากเพื่อนมาไกล มีประโยคเด็ดคือ “I need someone to bring me ice cream when I sit and cry in bed” วัฒนธรรมอิตาลีเวลาใครเศร้าให้เอาไอศกรีมไปปลอบใจ เป็นเพลงที่ฮีลใจได้น่ารักมากๆ 

 

I’ll be kissing strangers, changing city

Anything to make it easy

The thing that’s hurting the most

Is that losing you feels right for us to grow

 

Shoreditch Road

 

 

Shoreditch Road กับ To Myself เป็นเพลงที่ตัดเป็นซิงเกิลและทำเอ็มวีไปแล้ว เพลงแรกมีฉากหลังเป็นถนน ทะเลาะกันในรถ แล้วก็เลิกกันไป เธอเขียนเพลงจากเหตุการณ์จริง มี Shoreditch Road เป็นพยาน ส่วนเพลง To Myself เป็นเพลงเร็ว มีความร็อกอยู่ในกีตาร์ บอกตัวเองว่าต่อไปต้องเดินเองโดยไม่มีใคร ปิดอัลบั้มด้วยเพลงช้าร้องกับกีตาร์ Left Unsaid ตอนจบของความรักจากการที่ไม่ได้พูดกันอย่างจริงจัง เป็นเพลงเหงาตายอีกเพลงหนึ่ง

 

การเขียนเพลงของวาเลนติน่า พลอย ใช้คำง่าย เล่าเรื่องดี ฟังไม่ยากแต่มีความเป็นอินเตอร์ เพลงของเธอดังไปหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว อัลบั้มทำกับ What The Duck ไม่ได้บอกว่าใครโปรดิวซ์ให้ (แต่เดาว่าคือคนเดิมคือ ปกป้อง จิตดี แห่ง Plastic Plastic) หากอัลบั้มนี้ขายในต่างประเทศให้ Warner Music Thailand เป็นคนจัดการ

 

อัลบั้ม: PLOY

ศิลปิน : วาเลนติน่า พลอย

ค่าย: What The Duck / Warner Music Thailand  

 

เลเล่เล้

พฤษภาคม 2566

Twitter: @laylaidlaid

The post PLOY จาก วาเลนติน่า พลอย อัลบั้มที่เอาไว้นอนฟังบนเตียง มองเพดานแล้วก็คิดถึงใครบางคน appeared first on THE STANDARD.

]]>
75 เพลงไทยแห่งปี 2022 (ภาคจบ) https://thestandard.co/top-thai-song-2022-ep2/ Tue, 10 Jan 2023 07:02:26 +0000 https://thestandard.co/?p=735058

มาต่อกันที่อันดับ 36-75 นะครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน […]

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2022 (ภาคจบ) appeared first on THE STANDARD.

]]>

มาต่อกันที่อันดับ 36-75 นะครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านภาคแรก เข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยครับ https://thestandard.co/top-thai-song-2022-ep1/

 

ที่จริงแล้วเพลงมีถึง 100 เพลง มีหลายเพลงที่เสียดายมากๆ ตอนตัดออกไปครับ ผมมีทำเพลย์ลิสต์ที่ชื่อว่า MixTapes Thai 2022 ไว้ด้วย ทำไว้ทั้ง Apple Music และ Spotify เลื่อนลงไปข้างล่างสุดจะเจอครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ

 


 

  1. ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง (ดอกไม้ฤดูหนาว) – เรนิษรา

เพลงที่พูดถึงอากาศหนาว การอยู่คนเดียวแบบเหงาๆ มองใครๆ เขามีคู่แต่มองกลับมาดูตัวเองเหมือนยังไม่ไปไหน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เพลงนี้ทำออกมาได้เย็นเหมือนเนื้อเพลง ด้วยความเป็นป๊อป กลองจังหวะง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อน มีความเป็น Bedroom แต่จับใจคนเหงาๆ ได้ง่าย เรนิษราอ่านว่า เร-นิ-สะ-รา เป็นศิลปินดูโอ้ที่มาแรงมาก 

 

 

  1. Nobody Knows – Stamp, Christopher Chu

เพลงประกอบหนัง One for the Road ที่ได้แสตมป์เป็นคนแต่ง ออกมาในวันสุดท้ายของปีที่แล้ว เพลงนี้มีถึง 3 เวอร์ชัน อังกฤษ ไทย และญี่ปุ่น Nobody Knows เหมือนเอากลิ่น Hello, Goodbye ของ The Beatles, Piano Man ของ Billy Joel, Father and Son ของ Cat Stevens และ Tiny Dancer ของ Elton John มาทำให้เป็นเพลงของยุคปัจจุบัน ความเพราะอยู่ที่เปียโน และเชลโลในตอนท้าย

 

 

  1. ห้องเก็บของ – Max Jenmana

คนอย่างแม็กซ์เจนกลับมากับเพลงช้าๆ ที่ชื่อว่า ห้องเก็บของ เพลงแบบนี้ทำให้นึกถึงสมัยที่เขาทำเพลงอย่าง ไวน์ และ ดารา เพลงช้าเปียโน ห้องเก็บของ เป็นเรื่องของความรักที่จบลงไปแล้ว ยังลืมไม่ได้ ขอเก็บทุกอย่างไว้ในห้องเก็บของละกัน เพลงของแม็กซ์ถูกออกแบบมาสำหรับคนจำนวนมากที่โดดเดี่ยว

 

 

  1. คุก – Freehand

เพลงอกหักที่บอกว่าเหมือนติดอยูในคุกที่มองไม่เห็น หาทางออกไม่ได้ แนวดนตรีบริตป๊อปกีตาร์สาดโหยหวนแบบที่ใครชอบ Zweed n’ Roll ควรจะชอบ เสียงร้องที่ลากยาวๆ ชวนนึกถึงเสียงของ โต Silly Fools และเพลงอย่าง ไหนว่าจะไม่หลอกกัน

 

 

  1. ทรงอย่างแบด – Paper Planes

เพลงชาติเด็กอนุบาล การกลับมาอย่างทรงพลังของเพลงร็อก พังก์ อีโม ระเบิดว๊ากออกมาอย่างมัน ท่อนฮุกที่เตะหู เรื่องของความเศร้าพ่อหนุ่มแบดบอยที่ไปรักคนที่ไม่ชอบผู้ชายทรงนี้ ความดังของเพลงถึงขั้นมาหลายๆ คนพยายามวิเคราะห์ว่ามันเป็นปรากฏการณ์ได้ยังไง เอาเป็นว่า Paper Planes มาแบบถูกที่ถูกเวลามาก ทั้งๆ ที่พวกเขาเพิ่งมีเพลง เสแสร้ง อันโด่งดังไปเมื่อต้นปีนี้เอง  

 

 

  1. Temple Fair – Phum Viphurit

ปีนี้ภูมิมีเพลงใหม่ 3 เพลง เพราะแบบเหนือชั้นทั้ง 3 เพลง ถ้าให้เลือกเพลงเดียวขอเลือก Temple Fair เพราะมันมีความเป็นไทยผสมอยู่ ภูมิใส่เสียงของฉิ่งและกลองหนังไว้ในดนตรีและมันดีมากๆ เพลงที่มองเห็นบรรยากาศของงานวัด ความรื่นเริงมีชีวิตชีวา โซโล่กีตาร์ลื่นไหล เขาบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง มนต์รักทรานซิสเตอร์ ของ เป็นเอก รัตนเรือง

 

 

  1. Love Each Other – Pumpkins At Alaska 

ดนตรีหวานเบาบางชวนนึกถึงเพลงแบบ Cigarettes After Sex วงดนตรีวงนี้เป็นดูโอ้จากอุบลฯ ทำเพลงดรีมป๊อป ที่กีตาร์มีความละมุน Love Each Other เล่าถึงความรักที่เคยมีแต่ก็จางจากไปแล้ว ในความรู้สึกบางตอนมันเหมือนเธอยังอยู่ตรงนั้น มันคือความฝันที่ยังไม่ยอมหายไป

 

 

  1. ปล่อยให้เวลา – Three Man Down

ร็อกรุนแรงกับความรักที่ผิดหวัง Three Man Down ปล่อยของแบบว่าที่จริงพวกเขาเป็นวงร็อก โยนความทรมานทั้งหมดทั้งมวลใส่ลงไปในกีตาร์ และเสียงร้องอันโหยหวน ท่อนแรปเจ็บปวดแบบตะโกน MV พลิกพล็อตเรื่อง โคตรดี

 

 

  1. ชอบตัวเองตอนอยู่กับเธอ – Billkin

เสียงของบิวกิ้นเหมาะกับเพลงโรแมนติก อาร์แอนบีผสมป๊อป เครื่องสายคลอ มีความดีว่าหรูหราอลังการ ได้ฟีลเหมือนฟังเพลงของเบล สุพล ชอบตัวเองตอนอยู่กับเธอ มองที่ตาหวานไปถึงที่ใจ เขียนเนื้อได้หยาดเยิ้ม มีความขี้อ้อนเล็กๆ มันจะเป็นเพลงที่คนรักเอาใส่ไว้ในเพลย์ลิสต์แล้วส่งหากัน 

 

 

  1. Fire Boy – PP Krit

ร้อนแรงดั่งไฟ พ่อหนุ่มหน้าหวานจุดติดง่าย เขยิบเข้ามาใกล้เกรงจะโดนเผา Fire Boy เป็นเพลงสนุกๆ ชวนเต้น ที่มีลายเซ็นคนเขียนเพลงอยู่ชัดเจน (The Toys เขียน) จังหวะของเพลงที่ไม่ช้าไม่เร็วแต่ได้ความยั่วยวน เข้ากันได้ดีกับเสียงของพีพี กฤษฏ์ หวานแต่มีความแสบ

 

 

  1. นิมมานซอย 9 – ว่าน ธนกฤต

เพลงชื่อสถานที่สำหรับคนที่ยังมูฟออนไม่ได้สักที ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ เพลงช้าๆ ในสไตล์ของว่านหยุดเราได้ทุกครั้งที่ฟัง เสียงของว่านเหมาะกับเพลงเศร้าๆ เหงาๆ เล่าเรื่องกับคีย์บอร์ดหนึ่งตัว คลอไปกับเครื่องสาย อากาศหนาวควรคิดถึงใครสักคน

 

 

  1. ทุกนาทีที่สวยงาม – นนท์ ธนนท์ 

งานของนนท์ ธนนท์ อัลบั้มนี้โปรดิวซ์โดย ไมโล Tilly Birds เพลงนี้ไมโลร่วมเขียนด้วย มันจึงมีซาวด์ของ Tilly Birds อยู่ในเพลง มีความอลังการของดนตรี มีพลังของความเสียใจ เข้าใจ และมองความรักอย่างสวยงาม การใส่แซกโซโฟนตอนท้ายเพลงคือวิเศษ เสียงของนนท์ชวนฟังแบบยิ้มทั้งน้ำตา

 

 

  1. Baby Can You Stay – WNRDA

WNRDA คือ แพท วรรณรดา นักร้องนำจากวง Part Time Musicians กับ อาร์ม ภูษณะ มือกลองจาก The Paradise Bangkok Molam International Band เพลงเป็นนีโอโซลที่ประสานเสียงดี เพลงนี้เป็นเพลงรักหวานๆ แบบอยากให้อยู่ต่อ ไม่อยากจากกันเลย น้ำเสียงอ้อน ถ้าได้ยินแบบนี้คงเคลิ้มเลย

 

 

  1. Everything You Do – The Kopycat

The Kopycat เป็นวงดนตรีที่ทำเพลงย้อนยุคไปถึงยุค 60 ความละมุนละไมของดนตรีป๊อป Everything You Do ได้ นิค นักร้องนำแห่งวง Temp. และวง Part Time Musicians มาร้องด้วย ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงคู่ที่ดีมากเพลงหนึ่งในปีนี้เลย 

 

 

  1. สุดท้ายแล้วเราจะ – AUTTA, (feat. Greasy Café)

เพลงที่เล่นกับเนื้อเพลง เล่นกับความทรงจำของมนุษย์ สิ่งที่เราอยากจะลืมแต่เรายังจำมันได้ อ้อมกอดที่เราอยากจะจำมันไว้แต่เราวันหนึ่งเราก็ลืมมันไป เหมือนลมที่พัดลอยผ่านไป เนื้อเพลงที่เป็นเหมือนปรัชญา ฟังจบแล้วจะฟังซ้ำ การแรปของอัตตาที่ไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ ตรงกันข้ามกันเสียงของเล็ก Greasy Café ที่บีบรัดความรู้สึกทั้งมวล ดนตรีที่มาแบบเนิบๆ แล้วสร้างความพีคขึ้นเรื่อยๆ MV ทำน้ำตาแตกไป 3 วัน

 

 

  1. Luxury – D Gerrard

Luxury เป็นเพลงอบอุ่นและจริงใจ เรื่องราวของความรักที่อันที่จริงไม่ได้ต้องการสิ่งของใดๆ ขอแค่อยู่เคียงข้างกันก็พอแล้ว การหลุดพ้นสิ่งที่เป็นวัตถุนิยม ดนตรีมีความเป็นโซล เสียงของ D Gerrard สวยงามทุกครั้งเวลาขึ้นสูง แถมใส่เครื่องเป่าเข้ามาในบางช่วงทำให้เพลงนี้ลงตัวมากๆ ได้ความหวานสีชมพูไม่ต่างกับ โลกคู่ขนาน ในปีที่แล้วเลย

 

 

  1. From BANGKOK to BETONG – _less (Feat. AINN, PERTHPERACH)

เพลงนี้เล่นคำท่อนฮุคได้อย่างเหนือชั้นมากๆ แค่เนื้อเพลงธรรมดาก็กวนตีนแล้ว เธอวางสายไปเพราะขับรถอยู่แล้วก็หายไปเลย เธอคงขับไปถึงเบตงละมั้ง ตรงท่อนฮุกใช้คำว่า “ใจเย็นจังนะฮันนี่” แต่ฟังดีดีจะได้เป็น “ใจเย็นจังนะอีห่านี่” เพลงเป็นอิเล็กทรอนิกส์ป๊อปโฉบเฉี่ยว

 

 

  1. Clapton – H 3 F

เพลงหน้า B ที่ไม่ได้ดังอะไรจากอัลบั้มที่ 2 Unemployment เพลงนี้ไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรกับ Eric Clapton หรือเปล่า เนื้อเพลงมีความเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป อยากให้เธอยังอยู่ ถ้ามันเป็นเพลงที่เล่าความรู้สึกของ Clapton ที่มีต่อลูกชายที่เสียชีวิตไป มันคงเป็นเพลงที่เศร้ามากๆ เพลงหนึ่ง (อันนี้เดาล้วนๆ) ตัวดนตรีมีความเป็นบลูส์ 100% กีตาร์เสียงนวล ท่อนท้ายโซโล่บาดลึก เครื่องเป่าประสานที่เติมเข้ามาอย่างไพเราะ

 

 

  1. Making Move – Daniel Ryn

Daniel Ryn หรือ แดเนียล ดิษยะศริน ศิลปินลูกครึ่งที่เมื่อก่อนเคยทำวง Penny Lane แล้วก็มีผลงานเดี่ยวอยู่หลายปี ตอนนี้เข้าสังกัด Smallroom ไปเรียบร้อย ทำเพลง Making Move ออกมาแบบทุกคนต้องมีเพลงนี้ในเพลย์ลิสต์ กีตาร์จิ้มๆ ลอยๆ จังหวะสนุก เพลงชวนสาวเข้าห้องเพลงนี้เปิดเป็นเคลิ้มทุกราย

 

 

  1. Very Very Small – YOUNGOHM

คล้ายจะป็นงานยุคใหม่ของยังโอมที่ไม่เน้นคำหยาบ ยังโอมเขียนเพลงในมุมความรักของวัยรุ่น หยิบโรงเรียนของตัวเอง (วัดธาตุทอง) มาเป็นฉากหลัง การหลงรักใครสักคนในโรงเรียน อยากเดินจาก BTS เข้าโรงเรียนไปด้วยกัน การใช้คำอย่างมีชั้นเชิง บนจังหวะเซิ้งได้ เหนือชั้นและยังมีลายเซ็น

 

 

  1. Holding On (to me) – Rocket Man 

Rocket Man จากค่าย Rats Records เป็นวงที่ทำเพลงในแบบโซลฟังก์ มีกีตาร์นำ เติมด้วยจังหวะที่เป็นฮิปฮอปอาร์แอนด์บีในยุค 90 เป็นเพลงโยกได้นิดหน่อย ผสมเสียงร้องมีความละมุน ท่อนที่ขึ้นสูงฟังเคลิ้ม มีการประสานเสียงอย่างดี 

 

 

  1. ความฝัน – อิมเมจ

มีกี่คนที่เดินตามความฝันแล้วได้ดั่งฝัน? แล้วคนที่เหลือเขารู้สึกอย่างไรกัน เพลงนี้อธิบายความรู้สึกตรงนั้นได้ดีที่สุดเลย มันเป็นเพลงสำหรับ Loser ผู้ต้องการคำปลอบใจสักคำ หรือแค่การรับฟัง เนื้อเพลงทำให้คนอย่างเราน้ำตาคลอตั้งแต่ประโยคแรกแล้ว หรือเสียงอิมเมจนี่แหละที่ทำให้เราร้องไห้ ชีวิตมันเศร้าไปนะ

 

 

  1. Spin – Rosalyn

เพลงในแบบโซลผสมกับดรีมป๊อป Rosalyn ทำเพลงได้เท่มาก เสียงร้องสูงๆ คีย์บอร์ดสวยๆ จังหวะเพลงช้าๆ เหมือนควันบุหรี่บางเบาที่ลอยขึ้นฟ้า Spin เหมือนเพลงที่เอาไว้ประกอบหนังฟิลม์นัวร์หรือหนังมัวแบบหว่องกาไว 

 

 

  1. เจ้าของที่ – Mirrr

Mirrr เขียนเพลง เจ้าของที่ ในความหมายของความรักที่เว้นที่ให้เธอคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จะมีคนใหม่หรือใครๆ ที่เข้ามา เจ้าของที่นั้นก็ยังเป็นของเธอคนเดียว การมูฟออนไม่ได้ในดนตรีโซลป๊อป กลองโปรแกรม 

 

 

  1. Find Yourself – Hope The Flower

ถึงเวลาค้นพบตัวเอง เพลงบรรเลงในแบบฉบับของโพสต์ร็อกจากวง Hope The Flower ค่อยๆ ปอกเปลือกตัวตนของเราทีละนิด เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นแจ่มชัด คีย์บอร์ดลื่นไหล กีตาร์มุ้งมิ้ง กลองเคาะระทึก ก่อนจะพานพบความพีคในดนตรีช่วง 2 นาทีสุดท้าย เพลงชวนนึกถึง Felicity is Out There  ของ Inspirative เป็นที่สุด  

 

 

  1. 2614 – ไมยราพ

ให้เป็นเพลงที่เหมาะจะฟังตอนขับรถมากที่สุดของปีนี้ เพลงที่มีไวบ์ดีโฟลวไหลลื่น แต่เนื้อเพลงคือกำลังโกรธเธออยู่และไม่อยากให้เธอมายุ่งในตอนนี้ ไมยราพทำเพลงนี้ที่แคลิฟอร์เนีย ใช้กลองโปรแกรมธรรมดา แค่นี้ก็เท่ได้

 

 

  1. Budapest – Wicked Lights

เพลงเหมือนการประกอบฉากที่พระเอกเพิ่งไปฆ่าแวมไพร์ในเมืองเสร็จแล้วขับกลับบ้านหาคนรัก อินดี้โฟลก์ร็อกเท่ๆ แบบที่เราชอบ Mumford & Sons, The National, และ Kings of Leon กีตาร์โปร่งคลอไปกับเสียงร้องทุ้มต่ำ มีเปียโนตอนท้าย Wicked Lights คือ ธู จารุศร งานนี้โปรดิวซ์โดย เจ มณฑล ด้วย

 

 

  1. พิพิธภัณฑ์ – Illslick

การเก็บใครสักคนไว้ในความทรงจำเป็นเรื่องง่ายสำหรับเรา แต่การที่จะบอกเขาให้รู้ว่าเรายังเก็บไว้อยู่สิเป็นเรื่องอยาก เพราะเขาไม่ได้อยู่ให้บอกแล้ว ถึงแม้จะทำให้มันเป็นพิพิภัณฑ์ก็ตามเถอะ ทำเพื่อแค่หวังสักวันว่าเขาจะเดินเข้ามาดู เพลงแบบ Illslick มีความเป็นกวี ทำนองสวยงาม มีจินตนาการ บนลูปกลองง่ายๆ 

 

 

  1. Time Machine – TOFU 

ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ ที่มีความฟังก์ของกีตาร์ ความเท่ของเสียงกีตาร์นำพาเพลงโดดเด่น ท่อนโซโล่โฉบเฉี่ยว ตัดลงมาด้วยคีย์บอร์ด เบสตัวตึง เป็นเพลงที่ฟังซ้ำๆ ได้ไม่เบื่อ MV น่ารัก เรื่องราวของความรักที่อยากย้อนเวลากลับไปหาเธออีกครั้ง 

 

 

  1. No Dreamer – Réjizz 

Réjizz หรือ เรย์เจย์ เป็นแรปแบบโอลด์สคูล ใส่ความเป็นแจ๊สและสำเนียงโคตรดี คือถ้าฟังผ่านๆ จะไม่คิดว่าเป็นเพลงไทย No Dreamer โชว์การแรปสองภาษาแบบเหนือๆ และไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับยา ชีวิตที่โตมา หรือทองที่คอเหมือนเพลงแรปทั่วไป 

 

 

  1. Nocturnal – VINI

หากคุณหลงรักเพลงอิเล็กทรอนิกส์คุณต้องหลงรักวงนี้ VINI เป็นวงดนตรีสามสาวที่แต่ละคนแชร์ความเด่นได้ดี เพลงที่มีความลื่นไหลของคีย์บอร์ด โซโล่เบสอย่างเท่ และกีตาร์เดินสวย การประสานเสียงอย่างดี ซินธิไซเซอร์เรียบเรียงดนตรีอย่างสวย Nocturnal เป็นความโฉบเฉี่ยวทางดนตรีในยามค่ำคืน

 

 

  1. คิดถึง – QLER

QLER (อ่านว่าคิวเลอร์) ยังทำเพลงดีๆ อยู่เรื่อยๆ คิดถึง เป็นโซลป๊อปที่มีเสียงร้องกับกีตาร์ไฟฟ้า เนื้อเพลงพร่ำบ่นกับตัวเอง เธอไม่ได้อยู่ฟังด้วยแล้ว ก็ได้แต่บอกว่าคิดถึงไปกับรูปโพลารอยด์ที่มีอยู่ในมือ เพลงติดหูง่าย และฟังเหงาๆ 

 

 

  1. ประวัติอาชญากร – ISEAST

ISEAST เป็นแรปเปอร์สายเล่าเรื่อง การแรปที่เหนือชั้น พลุ่งพล่านในตอนท้าย ใส่ลูปเพลงดีๆ ประวัติอาชญากร เป็นการหยิบประเด็นของการจัดเก็บข้อมูลทางราชการ ที่การลงนามกลายเป็นอาชญากร ทำให้ไม่สามารถไปสมัครงานที่ไหนหรือทำธุรกรรมใดๆ ได้ ความยุติธรรมที่ควรยุติการกระทำได้แล้ว

 

 

  1. Nothing You Even Need To Know – GHQST

โปรเจกต์ของ อาร์ต-อรรณพ มุสิกโปดก อดีตมือกีตาร์วง Goose วงแนวชูเกซตัวพ่อ เขาทำเพลงนี้พร้อมวิชวลที่ไม่ธรรมดา ดูก้อนหินที่แตกออกอย่างน่าติดตาม Nothing You Even Need To Know ออกมาในแนวโพสต์ร็อก เยือกเย็นด้วยเปียโน แต่เพลงจะค่อยๆ พีคขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

  1. เฮอร์ไมโอน้อง – TheChanisara

เสกเพลงโดย แอ้ม อัจฉริยา เจ้าแม่แห่งการเขียนเพลง บิดนิดหนึ่งจากเฮอร์ไมโอนี เพลงออกมามีความน่ารัก ติดหูได้ง่ายๆ เสียงของ อูน-ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ ได้ความขี้อ้อน ชวนนึกถึงเพลง แม่มด ของ แสงระวี อัศวรักษ์ ในยุคต้น 90

 

 

  1. Heartbeat – ALLY

 

ALLY คือลูกสาวของ อ่ำ-อัมรินทร์ นิติพน เธอเขียนเพลงเองด้วย เพลง Heartbeat เป็นเพลงป๊อปบับเบิลกัม ติดหูง่ายฟังสบายๆ เหมือนเวลาเราฟังเพลงของ 4EVE, Pretzelle และ Pixxie ความฝันของหญิงสาวที่มีต่อคนที่ทำให้ใจเต้นเร็ว ใจละลายแล้ว

 

 

  1. Love in the Wild – Linda Vinta

งานเพลงป๊อปสดใสยุค 2000 ที่ทำให้นึกถึงวง Hal และ The Thrills จากไอร์แลนด์ Love in the Wild เหมาะกับเป็นเพลงปลุกเราเพื่อค้นพบความสดชื่นในตอนเช้า ซาวด์กีตาร์น่ารัก ประสานเสียงดี เสียงร้องอบอุ่น 

 

 

  1. รูดี้…ชั้นรู้ดี – VENN

สับคอร์ดแรงๆ กับการประสานเสียงแบบกระหึ่ม นี่คือเพลงโฟลก์ร็อกที่ทรงพลังเพลงหนึ่งของปีนี้ วง VENN (อ่านว่าเว็น) แตกมาจากวง Mattnimare พวกเขามีความเท่และทำดนตรีอย่างเข้าถึง เนื้อเพลงบอกกับตัวเองว่ารู้ดีว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะรั้งเธอเอาไว้ 

 

 

  1. Time Moves Slower – Varis

วริศ คงสุวรรณ หรือ Varis ยิ่งทำเพลงยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ Time Moves Slower เป็นเพลงที่ทำออกมาอย่างเท่ เสียงเคาะจังหวะ กับเสียงร้อง เหมือนเวลาเดินไปอย่างช้าๆ แล้วพอเข้าท่อนฮุก สาดกีตาร์กับฟาดกลองแบบไม่ยั้ง ใส่ความเป็นร็อกเต็มๆ ตัดกลับเข้ามาช้าอีก เหนือชั้น 

 

 

  1. ใกล้ ใกล้ – Yonlapa

แล้ว Yonlapa ก็กลายร่างเป็นชูเกซได้อย่างงดงาม ก่อนหน้านี้วงดนตรีจากเชียงใหม่ทำเพลงเบา ล่อยลอย ในแบบของดรีมป๊อป ใกล้ ใกล้ เหมือนเปิดโลกใหม่ให้กับเรา เพลงชวนนึกถึงวงอย่าง Lush, Cocteau Twins, และ Slowdive ฟังไม่ยากเนื้อเพลงออกจะหวาน

 

 

MixTapes:

Apple Music

Spotify 

 

 

เลเล่เล้

มกราคม 2566

Twitter @laylaidlaid

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2022 (ภาคจบ) appeared first on THE STANDARD.

]]>
75 เพลงไทยแห่งปี 2022 (ภาคแรก) https://thestandard.co/top-thai-song-2022-ep1/ Wed, 28 Dec 2022 00:51:12 +0000 https://thestandard.co/?p=729604

2022 เป็นปีที่ศิลปินทำเพลงกันเยอะมากๆ ทั้งศิลปินเก่าและ […]

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2022 (ภาคแรก) appeared first on THE STANDARD.

]]>

2022 เป็นปีที่ศิลปินทำเพลงกันเยอะมากๆ ทั้งศิลปินเก่าและใหม่ จำนวนเพลงดีๆ ในปีนี้มีเป็นร้อย ผมพยายามเลือกมา 75 เพลงแบบที่อยากให้ถูกใจทุกคน ขอขอบคุณ THE STANDARD POP ที่เชื่อใจให้ผมเลือกเพลงด้วยตัวเองทั้งหมด

 

ด้วยความยาวของบทความ ผมก็เลยทำเหมือนปีที่แล้วคือ แบ่งเป็น 2 ภาค โดยภาคแรกคือที่คุณอ่านอยู่นี้ และภาคหลังจะลงในช่วงต้นปีใหม่ 2023 ครับ ผมมีทำเพลย์ลิสต์ที่ชื่อว่า MixTapes Thai 2022 ไว้ด้วย จะแปะไว้ด้วยกันกับบทความภาคหลัง ขอบคุณที่ติดตามครับ

 

1. Sad New Year – อิมเมจ สุธิตา

เพลงนี้ของอิมเมจปล่อยออกมาก่อนวันสุดท้ายของปีที่แล้วอย่างตั้งใจ กว่าใครจะรู้จักบางทีก็เลยวันสุดท้ายของปีไปแล้ว เลยต้องมาแนะนำกันในปีนี้ ‘Sad New Year’ คือการฉลอง Happy New Year คนเดียว ฉลองอย่างเหงาๆ ลองตั้งใจฟังเสียงของอิมเมจ เธอคือนักร้องหญิงที่เสียงดีที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย

 

 

 

2. I Miss My Friends – Valentina Ploy (Feat. Phum Viphurit)

เป็นเพลงที่มีความเหงาจับใจ ทำนองเพลงสวยมาก เนื้อเพลงสวยกว่า การร้องคู่กันของวาเลนติน่ากับภูมิทำให้เพลงลงตัวมาก เพลงเป็นโฟล์กกีตาร์ ที่แค่ตีคอร์ดเฉยๆ แล้วปล่อยให้ทำนองเดินไปในทางของมันคือมหัศจรรย์สุดแล้ว วาเลนติน่าเขียนเพลงนี้ในช่วงโควิดล็อกดาวน์ ซึ่งมันก็ทำให้เธอเขียนเพลงออกมาได้แบบคิดถึงเพื่อนจริงๆ

 

 

3. Killer – HYBS

Killer คือความงดงามของเพลงป๊อปแห่งยุค 80 ส่งผ่านมาทางนีโอโซลยุคปัจจุบัน โอบรัดไปกับความเจ็บปวด ความไพเราะของเพลงที่มีความมินิมัล เสียงร้อง ซินธิไซเซอร์ กลองโปรแกรม และการประสานเสียง เนื้อเพลงสำหรับคนใจร้าย ทำไมต้องไปหลงรักนักฆ่าที่เฉือนหัวใจเราได้อย่างเลือดเย็นที่สุด

 

 

4. ตลอดไป – Whal & Dolph

เพลงช้าเศร้าดิ่งของ Whal & Dolph อีกเพลง เสียงร้องกับเปียโน คลอเชลโล นี่จะเอาให้ตายเลยใช่ไหม เพลงมีท่อนพีคค่อยๆ ขึ้นเครื่องดนตรีชิ้นอื่น โอบกอดอดีตและเป็นความดีใจที่อย่างน้อยเคยรักกัน ถึงจะไม่ปล่อยในวันวาเลนไทน์ก็ทำใจสลายได้

 

 

5. งูงู้ – THE TOYS

เพลงของ THE TOYS ที่เปลี่ยนไปจากแนวเพลงที่เคยทำมา เพลงนี้เป็นนูเมทัล แนวที่เขาถนัด ว้ากออกมาอย่าโหด แถมโซโล่กีตาร์ไฟแลบ เธอมันก็แค่งูที่มาหลอกกัน ถ้าสังเกตเพลงดีๆ เพลงนี้ตอนที่ใส่ซาวด์หนักๆ คือตอนที่งูโผล่ออกมา ท่อนอื่นที่ไม่มีงูกีตาร์จะไม่หนักเลย เป็นการคิดเพลงที่มีชั้นเชิงมาก

 

 

6. T E L L Me – LAAN

LAAN เป็นความแปลกใหม่ของดนตรี การประสานเสียงอย่างเหนือชั้น แถมทำเพลงได้ล่องลอยด้วยแนวดนตรีโฟล์ก T E L L Me เหมือนแค่รอให้เธอบอกเลิก เวลาที่ยังค้างๆ คาๆ อยู่ไม่รู้จะให้ไปต่ออย่างไรดี เพลงแบบนี้ชวนนึกถึงเพลง ‘Midnight Serenade’ ของ 25 hours เพียงแค่เนื้อหาของมันตรงข้ามกัน

 

 

7. 17 นาที – MILLI (Feat. Mints)

ปีทองของเจ้านวย มิลลิ เจ้าแม่มะม่วงแห่ง Coachella งานคอนเสิร์ตอย่างชุก งานเพลงเธอยังฟีเจอริงไปกับศิลปินมากมาย รวมถึงการออกอัลบั้มปลายปีด้วยเพลง 17 นาที เป็นเพลงที่ฟังง่าย สนุก มีจังหวะที่ดี ทำกับสองหนุ่มวง mints เพลงนี้เหมือนเวลาตอบไลน์ ให้รอสัก 17 นาทีจะเป็นเวลาที่เหมาะที่สุด

 

 

8. 17 – Dept

Dept ใช้เวลาไม่กี่ปีก้าวขึ้นมาเป็นวงอันดับต้นๆ ของเมืองไทยได้ เพลงของพวกเขาเป็นดรีมป๊อป เพลง 17 นี้เป็นเพลงที่ 17 ของพวกเขาพอดี มันอยู่ในอัลบั้มเต็มที่ออกมาตอนกลางปี พอพวกเขาทำเพลงสนุกสนาน มันมีชีวิตชีวามาก เสียงซินที่บิดเพี้ยนคลอไปทั้งเพลงคืออย่างเท่ การแอบรักใครสักคนของวัยรุ่นมันจะมีความสับสนอยู่ในนั้น

 

 

10.โต๊ะริม – นนท์ ธนนท์

มีใครที่สามารถทำให้คุณละลายได้เพียงแค่มองบ้างหรือเปล่า? ‘โต๊ะริม’ เป็นเพลงที่ร้องโดยผู้ชายแต่เขียนโดยผู้หญิง คนแต่งเพลงนี้คือโบกี้ไลอ้อน ซึ่งเขียนออกมาได้กว้างดี ไม่เจาะจงเพศ และโต๊ะริมอาจจะเป็นโต๊ะที่โรงเรียน มหาวิทยาลัยลัย ที่ทำงาน หรือที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น มันจึงเป็นเพลงที่โดนใจได้ทุกคน หากคุณตกหลุมรักใครที่ตรงนั้นอยู่ เนื้อท่อนฮุกก็เอาให้ตายไปเลย เสียงของนนท์มีความเว้าวอน

 

  

10. Stranger With A Wall – thepicnik

thepicnik มีกัน 5 คน ชาย 4 หญิง 1 วงนี้ผู้หญิงตีกลอง พวกเขาสังกัด MACROWAVE ของ Sony ทำเพลงมา 3-4 เพลงแล้ว เพลงของพวกเขาเป็นป๊อปจังหวะสนุกๆ กีตาร์ชวนโยกมันๆ เพลงนี้ก็เช่นกัน ชายหนุ่มผู้ไม่มีความกล้าออกไปเผชิญหน้าหญิงสาวแปลกหน้าหลังกำแพง ได้ฟีลของภูมิ วิภูริศ ผสมกับ Seal Pillow

 

 

11. ฝากลม – Desktop Error

เพลงเบาๆ ของวงชูเกสหนักๆ ในแบบ Desktop Error ‘ฝากลม’ ปลิวไปกับเสียงกีตาร์ กลองมีไอเดีย เป็นเพลงที่งดงามแบบที่ใครชอบเพลง ‘ควันจางลา’ และ ‘ทุกทุกวัน’ ของพวกเขาจะต้องชอบ หลับตาแล้วให้ซาวด์กีตาร์ทั้งหูซ้ายและขวาพาเราล่องลอยตามลมไป

 

 

12. เบาะหลัง – เป้ อารักษ์

ขยันทำเพลงจริงจัง มีเพลงใหม่ออกทุกๆ 2-3 เดือน แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ นักแสดง-นักร้องทำเพลงนี้ได้นุ่มดี กีตาร์มีเสน่ห์ ผสมกับการเล่าเรื่องสไตล์เป้ ย้อนภาพกลับไปถึงอดีต เพลงที่เปิดฟังในปัจจุบัน บทสนทนาที่มีความขัดแย้ง ฟังแล้วจั๊กจี้ดี ที่เบาะหลัง

 

 

13. INK – อิ้งค์ วรันธร

คูมอิ้งค์ของทุกคน กับอัลบั้มเต็มของเธอ มีเพลง ‘INK’ เป็นเพลงแรกหน้าแรก แต่กลับเป็นเพลงที่เงียบมาก ทั้งๆ ที่เป็นเพลงที่ดีมากเพลงหนึ่งของอิ้งค์ ‘INK’ ชวนนึกถึง ‘SNAP’ จาก EP. แรก ความเป็นอิ้งค์คืออิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ชวนขยับเข้ามาใกล้ เสียงของอิ้งค์มีความเย้ายวน

 

 

14. Lily – SAMMii

น้ำเสียงที่เท่และทุ้มต่ำ ฟังครั้งแรกนึกถึงงานของ Tracey Thorn ตอนที่ทำอัลบั้ม A Distant Shore ก่อนเพื่อนเลย เสียงของแซมมี่กับกีตาร์แค่นั้น มันช่างทรงพลัง มันมีความเจ็บปวด ความเหงา และเยือกเย็น

 

 

15. Miguel – TangBadVoice

มิเกลคือเพื่อนของตั้ง ตะวันวาด หรือ TangBadVoice เขาเป็นเพื่อนผู้รักในเสียงเพลง ทำเพลง แต่จากไปก่อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตั้งทำเพลงมาหลายปี ก่อนที่จะเล่าเรื่องเพื่อนคนนี้ให้เราฟังด้วยเสียงเพลง ในเพลงมีรายละเอียด มีการเว้นช่วงเพลงตอน 2.36 นาทีให้มิเกลร้อง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่มิเกลจากไป และทำให้เรานึกถึงเพลงของตั้งที่ใช้วิธีคุยสองคนมาโดยตลอด คนคนนั้นคือมิเกลหรือเปล่านะ?

 

 

16. นั่งลงก่อนสิไกล – มาโนช พุฒตาล (Feat. โป่ง หิน เหล็ก ไฟ, โอ้-โอฬาร พรหมใจ)

ความเก๋าของเพลงคือการใส่ประโยคดีๆ ไว้เต็มเพลง เช่น “เราต้องมีความหวัง แต่ อย่าไปหวังจากคนอื่น” ดนตรีที่เป็นโปรเกรสซีฟในยุค 70 ผสมกับร็อก เฮฟวีในยุค 80 การนำ 2 ผู้ยิ่งใหญ่อย่าง โป่ง ปฐมพงศ์ มาร้องด้วยเสียงระดับคอแตก และ โอ้ โอฬารมาโซโล่กีตาร์ระดับหูเหล็ก ไม่ง่าย แต่เป็นไปได้ สำหรับความยาวเพลง 8.13 นาที ฟังเพลินไม่ยาวเลย

 

 

17. The Blessing of Changes – JIPI

มีความเป็นยิปซีและโฟล์กป๊อป เด่นด้วยการประสานเสียง เหมือนเป็นเพลงที่เอาไว้ร้องหมู่รอบกองไฟ ให้ความผ่อนคลาย นั่งตกผลึกกับปีปีหนึ่งที่ผ่านไป สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน ตัวเราก็เปลี่ยนเช่นกัน

 

 

18. Flowers From Japan – Gabe Watkins

Gabe Watkins เป็นศิลปินใหม่ลูกครึ่งของค่าย What The Duck ค่อยๆ ทำเพลงมา 3-4 เพลงแล้ว เป็นเพลงป๊อปซาวด์แห่งยุคต้น 2000 ที่ฟังสบายๆ ชวนเดินทางท่องเที่ยว ชายหนุ่มผู้รอเธออยู่ที่ญี่ปุ่นส่งดอกไม้ให้เธอมาหาไวๆ เพลงนี้ได้ ตูน Three Man Down มาโปรดิวซ์ให้ด้วย

 

 

19. ปริศนา – The Yers

The Yers กลับมากับอัลบั้มที่ 4 วงดนตรีผู้มีความสมบูรณ์แบบเป็นที่ตั้ง ‘ปริศนา’ ตั้งคำถามว่าต่อให้ตายไปก็จะลืมเธอได้จริงหรือเปล่า เป็นความทรมานที่ไม่สิ้นสุดจริงๆ ความโหดของตัวเพลงที่ยังเป็นอินดี้ร็อก มีซินธิไซเซอร์กับคีย์บอร์ดเท่ๆ กลองซัด เบสคือเอาตาย และเสียงร้องที่ชัดเจนทุกประโยค

 

 

20. What If – Petit Desk

Petit Desk เป็นวงอินดี้ป๊อป ทำเพลงกันมา 4-5 เพลงแล้ว มีอิทธิพลของบริตป๊อปอยู่ใม่น้อย เพลง What If มีความลอย เบา และบอบบาง เนื้อเพลงตั้งคำถามถ้าเราไม่ได้เจอกันอีกเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น หรือถ้าเราได้เจอกันแค่ในคืนที่จันทร์เต็มดวง เป็นเพลงที่เสียงร้องสวยงาม และกีตาร์ไม่ธรรมดา

 

 

21. หากว่าเราไม่คิดถึงกัน – ส้ม มารี Feat. The Parkinson

ท่อนแรกยังเฉยๆ ก็เพลงป๊อปทั่วไป แต่พอดนตรีเริ่มมาเรื่อยๆ เราเริ่มเห็นความสวยงามในแบบของ The Parkinson ที่ชัดเจนในความเป็นอาร์แอนด์บี และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พอเจอท่อน “แยกทางชั่วคราวก็คงเปลี่ยนเป็นชั่วนิรันดร์” โอ้โห! โน้ตดนตรีสวยมาก ขยี้ต่อด้วยเสียงกีตาร์ ตาย! ส้ม มารีเขียนถึงมุมของความรักที่ขอห่างกันสักพักเพื่อดูว่ายังรักกันอีกไหม เป็นการฟีเจอริงที่ความเด่นของทั้ง 2 ศิลปินไม่ทับกันแต่ช่วยเสริมกันดี

 

  

22. วาดไว้ – Bowkylion

ปีนี้มีหลายๆ เพลงที่เขียนถึงคนที่จากไปแล้วด้วยความคิดถึง เหมือนที่ปีที่แล้ว เติร์ด Tilly Birds เขียนไว้ใน ‘ถ้าเราเจอกันอีก’ เพลงนี้โบกี้ไลอ้อนเขียนถึงคุณแม่ และไม่ว่าพี่กะเทยจะบอกอย่างไร สำหรับคนที่ยังอยู่ มันก็ยังมีน้ำตาอยู่ดี

 

 

23. ถ้าเธอได้รู้ – Safeplanet

อัลบั้มที่ 2 ของ Safeplanet หลังจากปล่อยให้เหล่า Safeboys รอมากว่า 3 ปี ‘ถ้าเธอได้รู้’ เป็นเพลงที่เพื่อนแอบรักเพื่อน ความรู้สึกที่มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รอวันเอ่อล้น ซาวด์กีตาร์และเสียงร้องที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของเอเลี่ยนคือลายเซ็นของวงเลย

 

 

24. ด้วยการไม่รักใครอีก – Pearpilincys Feat. Sarah Salola

หลังจากทำเพลงมาหลายเพลง ปีนี้ Pearpilincys ก็มีอัลบั้มเต็ม มีเพลงนี้ที่ร้องคู่กับ Sarah Salola ศิลปินที่มาแรงมากในปีนี้จากค่าย LOVEiS ด้วยการไม่รักใครอีก เป็นความเจ็บจากความรักที่ทำให้ไม่กล้าที่จะเดินต่อ เสียงของทั้ง 2 คนคล้ายเสียงกระซิบ หมดแรงจะไปต่อตามเนื้อเพลง

 

 

25. Butterflies – Plastic Plastic

Plastic Plastic คือขาประจำของการแนะนำเพลงดีๆ สองพี่น้องทำเพลง Butterflies ได้อย่างงดงาม มีความย้อนยุคไปถึงป๊อปยุค 70 ที่มีกีตาร์และเปียโนเป็นหลัก ทำนองเพลงอบอุ่น เห็นภาพผี้เสื้อสองตัวบินไปมา แด่ความรักของสองคนแม้อยู่ห่างไกล  

 

 

26. ผู้ปกครองมารับแล้วค่ะ – Bad Baboon

เป็นเพลงที่ทำให้นึกถึง ‘น้องเปิ้ล’ ของ Paradox โรคจิตคลั่งรัก บนความโหดของดนตรีร็อก นูเมทัล การเขียนเพลงที่มองเห็นเป็นเรื่องราวเหมือนดูหนังสั้นสักเรื่อง มีท่อนหนัก ท่อนเบา มีทะลึ่งตึงตัง ใช้ภาษาดี ว้ากเดือดยาวๆ ก็มี ฟังหลอนก็ได้ Bad Baboon เป็นวงของ เก้า-จิรายุ ละอองมณี

 

 

27. เรื่องแค่นี้ – UrboyTJ

เพลงเศร้าถ้าได้เล่าด้วย UrboyTJ เพลงนั้นจะเศร้าลงไปอีก เสียงของเขามีความเหงา อ้างว้าง เพลงนี้เขาร้องกับเปียโน ‘เรื่องแค่นี้’ เป็นเพลงที่อยากจะบอกเธอว่า ฉันดีขึ้นแล้ว เรื่องแค่นี้ ไม่เป็นอะไรหรอก ถึงแม้ว่าทุกนาทียังมีเธออยู่ในใจ มันเป็นเพลงที่ไม่ต้องมีอะไรโอบอุ้มไปมากกว่านี้อีกแล้ว

 

 

28 .SuperCarCare – Tattoo Colour Feat. D Gerrard

ท่อนฮุกอันตราย ติดหู ดูกรุ้มกริ่ม กะลิ้มกะเหลี่ย การทำเพลงนี้ในแบบของ Tattoo Colour มีความเก๋าด้วยจังหวะ เพลงเป็นการจีบสาวแบบรุ่นใหญ่ที่ฟังดูไม่คุกคาม ใช้มุกทะลึ่งตึงตัง ผสมกับซาวด์กีตาร์ชวนเคลิบเคลิ้ม เติมเต็มด้วยการแรปของ D Gerrard จัดเป็นเพลงระดับ Top 10 ของ Tatttoo Colour ได้เลย

 

 

29. เธอบอกว่าฉันคือ – AUTTA Feat. พัด Zweed n’ Roll

“เธอบอกว่าฉันคือ ท้องฟ้าใหญ่ แต่ไม่มีนกตัวใดชอบใจฟ้าแบบนี้หรอก” เพลงสำหรับพ่อแม่ที่ตั้งความหวังให้กับลูกมากมายเกินไป ใครก็ตามที่แบกความคาดหวังไว้เยอะ เมื่อถึงวันที่ทำไม่ได้ นี่คือความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวล มันจึงเป็นเพลงที่โดดเดี่ยวมากเพลงหนึ่ง การเขียนเนื้อเพลงที่สุดยอดของอัตตา เริ่มต้นและสรุปจบลงด้วยความอนัตตา

 

 

30. Dancing Flowers – tie a tie

อินโทรเพลงเริ่มด้วยกีตาร์สวยมาก เพลงมีซาวด์ที่แปลก แหวกแนว เป็นดรีมป๊อปที่สะดุดหูตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง จังหวะเพลงทำด้วยวอลซ์ ได้ความโอ่อ่า ร้องด้วยเสียงสูง tie a tie เป็นศิลปินดูโอ้ผู้ชาย 2 คนจากค่าย Citadel Sound

 

 

31. ยิ้มของเธอจะอยู่กับฉันตลอดไป – Portrait

แค่หลับตา บางทีเราก็จะเห็นรอยยิ้มของใครบางคน การเขียนเพลงในแบบของปอย Portrait มักจะทำให้หัวใจเราสั่นไหวอยู่เสมอ เพลงนี้ไม่ได้อยู่ในโปรเจกต์ House of Tears แต่เหมือนเป็น Hidden Track ที่ปอยหยิบมาร้องเอง มันมีความเหงาเล็กๆ เปียโนและเชลโลบางๆ ช่วยให้ความคิดถึงยังมีระยะ

 

(ยังไม่มี MV ใน YouTube)

 

32. ชอบป่ะเนี่ย – ใหม่ ดาวิกา

เพลงรักสนุกๆ ของปีนี้ การแอบรักใครสักคนที่ดูเชิงแล้วน่าจะสมหวัง ‘ชอบป่ะเนี่ย’ เป็นเพลงที่ติดหูง่าย มีท่อนแรป คล้าย ‘เฮอร์ไมโอน้อง’ ซึ่งก็คือคนแต่งคนเดียวกัน คือ แอ้ม-อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ ศัพท์แสงที่ใช้ก็ทันสมัย มีคนเชียร์ให้เอา MV นี้ไปทำเป็นหนัง ต้องแล้วแต่ผู้กำกับเลยครับ

 

 

33. Back In The Game – KIKI

ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์โฉบเฉี่ยวไฉไล ชายสองหญิงหนึ่งชื่อวง KIKI (อ่านว่า กีกี้) เป็นศิลปินไม่เก่าไม่ใหม่ พวกเขาแตกมาจากวงสมเกียรติ และนักร้องนักแต่งเพลงเป็นแฟนของหนึ่งในนั้น พวกเขาทำเพลงติดหูได้ดีเลย เป็นอิเล็กทรอนิกส์ป๊อป ที่มีซินธิไซเซอร์กับกีตาร์ 2 ตัวเด่นๆ

 

 

34. Still – Proud

Still เป็นงานแบบมาเงียบๆ ดังเงียบๆ และเราไม่อยากให้คุณพลาดเพลงดีเพลงนี้แบบเงียบๆ งานเพลงจากค่าย NO1R ที่มีจังหวะสนุกสนาน มีกีตาร์ที่พลิ้วสวย เบสเดินดี เสียงร้องดี ทุกอย่างดีไปหมด ไม่มีข้อมูลอะไรอื่นใดเกี่ยวกับตัวเพลงหรือตัวศิลปินที่ชื่อพราว นอกจากเสิร์ชเจอชื่อคนแต่งไว้ว่า พราวไพลิน และ วิภูริศ ศิริทิพย์ มิน่าเล่า

 

 

35. ตายอย่างช้าๆ – Youth Brush

ความรักที่ตายอย่างช้าๆ เสียงร้องหมดแรง มูฟออนไม่ได้ ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องเก่าๆ ร้องไห้ไม่หยุด อกหักมันก็เป็นแบบนี้ Youth Brush ทำเพลงแบบสับคอร์ดฉับไว กีตาร์ค่อยๆ แรงขึ้น และแรงขึ้น ท่อนฮุกวนไปกับประโยคที่ร้องว่า “พอได้แล้ว พอ”

 

 

เลเล่เล้

ธันวาคม 2022

Twitter: @laylaidlaid

The post 75 เพลงไทยแห่งปี 2022 (ภาคแรก) appeared first on THE STANDARD.

]]>
MILLI แบบเบิ้มเบิ้ม การที่คนตั้งเป้าไว้สูงแล้วไปให้สุด พอถึงจุดนั้นแล้วมันดีอย่างนี้เอง https://thestandard.co/mixtapes-milli/ Wed, 07 Dec 2022 06:51:03 +0000 https://thestandard.co/?p=720779 MILLI แบบเบิ้มเบิ้ม

มิลลิเรียกตัวเองว่านวย ใครยังไม่เคยรู้ที่มา อ่านไปเดี๋ย […]

The post MILLI แบบเบิ้มเบิ้ม การที่คนตั้งเป้าไว้สูงแล้วไปให้สุด พอถึงจุดนั้นแล้วมันดีอย่างนี้เอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
MILLI แบบเบิ้มเบิ้ม

มิลลิเรียกตัวเองว่านวย ใครยังไม่เคยรู้ที่มา อ่านไปเดี๋ยวมีเฉลย ณ เวลานี้เธอคือเบอร์หนึ่งของวงการเพลงแรป ย้ำ! เบอร์หนึ่งแบบเบิ้มเบิ้มเลย 

 

มิลลิเพิ่งอายุ 20 ปีไปหมาดๆ แต่เธอมีความปังปุริเย่เริ่ดสะแมนแตนแบบที่ทุกคนพร้อมปรบมือให้ การเป็นศิลปินไทยที่ได้ไปอยู่บนเวที Coachella และกินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์เมื่อต้นปี คือความสำเร็จระดับโลกจริงๆ มิลลิมีชื่อจริงว่า ดนุภา คณาธีรกุล เธอเป็น Singer-Songwriter อีกคนของเมืองไทยที่มีฝีไม้ลายมืออย่างมาก เพลงที่เธอเขียนทุกคนต้องหันมาสนใจ การแรปและการร้องที่ทุกคนต้องหยุดฟัง

 

มิลลิเป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา ฟังเธอตอบคำถาม ดูตามความคิดของเธอ เป็นเด็กที่มีความมั่นใจตัวเองสูงมากและทำในสิ่งที่เด็กส่วนใหญ่อยากทำ เธอเป็นไอดอลของเด็กมากมาย จากเด็กที่เป็นประธานนักเรียน การเรียนระดับปานกลาง แต่เรียน English Program มา ภาษาเธอเลยดี เธอเข้าประกวด The Rapper ในซีซัน 2 ตอนที่เพิ่งอายุ 16 ปี เธอให้สัมภาษณ์ในตอนนั้นว่า “ถ้าเลือกเธอ เธอจะเป็นความแปลกใหม่ในวงการ และเธอจะเป็นตัวประหลาดด้วย” หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เธอเป็นแบบที่เธอพูดทุกคำ เป็นในระดับที่คนในวงการเพลงแรปก็ยังทึ่ง การแรปรัวเป็นไฟด้วยท่อนที่แต่งเองทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมถึงภาษาท้องถิ่น การแสดงบนเวที ความเป็นเฟมินิสต์ ความคิดดีๆ สะท้อนมาในเพลงของเธอ

 

 

หลังจาก The Rapper สังกัด Yupp! ก็ได้ตัวเธอไป แล้วมิลลิก็ออกเพลงแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพลงนั้นชื่อว่า พักก่อน เป็นเพลงที่ทำให้ทุกคนหันมามองเธอแบบจริงจัง ความแสบของเนื้อเพลงระดับสุด ต่อด้วยเพลงอย่าง สุดปัง เริ่มดังและฉุดไม่อยู่แล้ว หลังจากนั้นเธอก็ไปฟีเจอริงกับศิลปินอีกมากมาย ยิ่งทำให้เธอดังขึ้นไปอีก มีตัวตนที่ชัดเจนขึ้น มีสไตล์การแรปที่เป็นตัวของตัวเอง จนถึงทุกวันนี้ที่เธอฟีเจอริงกับศิลปินระดับโลกแล้ว

 

เห็นเธอบอกอย่าพักผ่อน แต่ใส่เสื้อเสียสำส่อน 

จวนจะเห็นนมย้อนหย่อน แต่มึงควรกลับไปซักก่อน 

ใส่เสื้อ Boy London แต่นัดผู้ชายที่ Bonchon 

แต่งหน้าเสียอ่อนอ่อน เดี๋ยวอีกสักพักก็ล่อนจ้อน 

และ Oh My God 

นี่ชะนีหรือ Rhino วิ่งโร่หาพวกผู้ชาย 

Oh My God 

แต่งตัวโคตรมิดชิด พี่แอบคิดว่าหนูขาย

  • พักก่อน 

 

 

แล้วเธอก็ออกอัลบั้มแรก แบบ เบิ้ม เบิ้ม ในเดือนพฤศจิกายน เรามาทำความรู้จักทีละเพลงกันดีกว่า 

 

เปิดอัลบั้มด้วย Welcome ตะโกนดังๆ Welcom to Thailand เอ้ย Welcome to myyyyy ลากยาวๆ เชิญมารู้จักชีวิตของเธอ อินโทรกลิ่นแจ๊ส เพลงที่เหมือนอยู่ในท้องถนนอลหม่าน มีเสียงบีบแตรรถตลอดเวลา เนื้อเพลงเล่าถึงสิ่งที่ผ่านมาก่อนจะมาเป็นวันนี้ เหมือนแรปเปอร์ทั่วไปที่ต้องเล่าชีวิตตัวเองในเพลงแรก ภาษาแรงมาก เช่น “โชคดีพ่อมึงอ่ะ กูพยายามแทบตาย” ใช่ครับ อย่ามาด้อยค่าความพยายามของใคร เธอโชว์ท่อนแรปไฟแลบได้อย่างสุดเดือด

 

เพลงที่ 2 เปิดด้วยเสียงเหมือนสวดมนต์ในเพลง สาธุ ท่อนเนื้อเพลงของเธออีกแล้วที่เธอได้พันล้านเพราะว่าหลวงพี่ท่าน ความคิดของเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ โลกนี้มีข้อมูลเต็มไปหมดแล้ว จะให้เชื่ออะไรงมงายอีก เพลงนี้แรปคู่กับ TangBadVoice ลิ้นติดไฟกันทั้งคู่ 

 

ปัดโถ่ อุตส่าห์นั่งฟังพระอาจารย์ 

ตั้งแต่ตำนานท่าตั้งนานสรุป แฮ่!

กูเชื่อใครได้บ้าง เชื่อตัวเองแล้วกัน

เพราะทำไงได้งั้นเนี่ยของแท้

เพราะวันก่อนโดนโจรปล้น มันเดินค้นตามคน

มันพกของมีคม กูลองและ

เลยล้วงมือเข้าไปหยิบหลวงพี่ตั้งมาอม เท่านั้นแหละ

กึบ ช็อกโกแลต

  • สาธุ 

 

 

I LUV U! เป็นเพลงรักที่ฟังดูเด็กขี้รำคาญ เป็นเพลงแรปคู่คุยกัน การเขียนเนื้อแบบตอบสวนกันไปมามีความท้าทายและไม่ง่าย เพลงนี้แรปคุยกับ NAMEMT ต่อด้วยเพลงแอโรบิกที่มีความโป๊งชึ่ง Sad Aerobic เพลงนี้มีความเป็นไทยด้วยซาวด์และเครื่องเคาะ เหมือนเพลงที่รถสองแถววิ่งข้ามจังหวัดจะเปิด ลูกทุ่งอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์อมตะนิรันดร์กาล เนื้อเพลงแซวการออกกำลังกาย กินผัก-ผลไม้ ตลกตรงขวาๆ ซ้ายๆ ได้ความฮาถ้านึกภาพตาม เพลงนี้เขียนร่วมกับ น็อต สพัชญ์นนทน์ มือโปรดิวเซอร์สายนี้ 

 

Boy Pablo หรือ บอยพาโบ้ ตั้งชื่อเพลงตามชื่อศิลปินดัง เพลงนี้ร้องกับ BOWKYLION เมื่อ Singer-Songwriter สองคนมาเจอกัน ความสุดปังก็บังเกิด เนื้อเพลงมีความหลุดกรอบมาก ประชุมกับตัวเอง ทะเลาะกับตัวเอง สับสนในตัวเอง กับผู้ชายเฮงซวยคนหนึ่ง แต่ก็เลิกไม่ลง เพลงเลยเหมือนคุยอยู่กับกุมารทอง แม่ซื้อ หรือใครสักคน แล้วก็วนไปวนมาหาข้อสรุปไม่ได้ เด็ดดวงมากแม่

 

ไอ้คนนิสัยไม่ดี ต้องเป็นแบบนี้ทุกที 

บอกตรงๆ ว่าเลิกแม่งเลยเหอะ ก็คงดี

กี่ครั้งที่เสียน้ำตา ผิดแต่ไม่ยอมร่ำลา 

เลิกเลยไปถ้าคบแล้วไม่มีค่า จัดการแม่งเลย

  • บอยพาโบ้

 

 

Not Yet! เป็นเพลงดังเมื่อปีที่แล้ว เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง คือผู้หญิงยังไม่พร้อมและไม่อยากเยเย่เย้หรือทำอะไร แค่มาหาเพราะคิดถึงหรืออยากจะแค่นอนกอด แต่ผู้ชายเป็นเพศที่อยากจะเยเย่เย้ เธอปฏิเสธแล้วก็ยังจะตื๊ออยู่ ผู้ชายกับผูหญิงต่างกันตรงนี้ ผู้หญิงอยากมีรักก่อนมีเซ็กซ์ ผู้ชายอยากมีเซ็กซ์ก่อนมีรัก ต่อด้วยเพลง 17 นาที มิลลิบอกไว้ว่า มันเป็นเรื่องของเวลาในการตอบไลน์ การที่ไม่ได้ตอบในทันทีแต่ทิ้งเอาไว้สัก 17 นาทีจะกำลังดี ดนตรีเพลงนี้ฟังง่าย ไหลลื่น เพลงนี้ร้องคู่กับสองหนุ่มวง mints และจัดว่าเป็นเพลงรักที่เพราะมากๆ ของมิลลิ 

 

ที่จริงฉันเองชอบเธอมากเหลือเกินจะทน 

แต่ฉันเองก็กลัวเธอจะไม่คิดเหมือนกัน 

ก็เราต่างเป็นแบบนี้ มัวแต่ดึงเช็งทุกที 

แล้วเมื่อไรจะได้คุย 

ก็เล่นตอบช้าแบบนี้ เล่นหายไปนานทุกที 

ก็คงรอกันต่อไป

  • 17 นาที 

 

 

Homework เป็นเพลงที่เปียโนคลอไปทั้งเพลงอย่างเพราะ มิลลิเล่าเรื่องการทำการบ้านที่เยอะแยะไปหมด ทำเท่าไรก็ไม่หมด ขี้เกียจทำแล้ว อยากดูหนัง เปิดเพลงฟัง ติดอยู่ที่แม่นี่แหละ เขียนเรื่องราวได้ลื่นดีเหลือเกิน ต่อด้วย สุดก่อน มีความโชว์เพลงในเพลงนี้เลย การซ้อนของเพลง การโฟลวของแรป และเครื่องดนตรีที่ใช้มีความน่าทึ่งมากๆ ปิดท้ายอัลบั้มด้วย Squad Shit เป็นเพลงสุดเหม็นเล่าเรื่องขี้และมีเสียงตดตลอดเพลง มีความกวนตีนของเพลง แขวะพวกกินบ้านกินเมือง และคำผวนเกี่ยวกับสบู่ 

 

มิลลิเป็นคนกวนๆ ชื่อเล่นจริงๆ ของเธอคือมินนี่ ซึ่งเธอตั้งชื่อตัวเองว่านวย มาจากคำผวนว่า มินนวยหัวคี่ นั่นแหละเธอล่ะ 

 

อัลบั้ม: แบบ เบิ้ม เบิ้ม (BABB BUM BUM) 

ศิลปิน: มิลลิ (MILLI) 

ค่าย: YUPP!

 

เลเล่เล้ 

พฤศจิกายน 2565 

Twitter: @laylaidlaid

 


MixTapes by laylaidlaid 

 

เนื่องจากมิลลิฟีเจอริงกับศิลปินเยอะมากทั้งในและนอกประเทศ เลยอยากทำเป็น MILLI Essential รวมเพลงเพราะๆ ของเธอไว้ให้ฟังเพลินๆ ครับ 

 

Apple Music: MixTapes MILLI 

https://music.apple.com/th/playlist/mixtapes-milli/pl.u-vxy6yXMIPXV9lp 

Spotify: MixTape MILLI 

https://open.spotify.com/playlist/40M9itxmpOOrAxQfQK0wWZ?si=zChM4Oz2Q8uqW6qMWKpdtA 

 

  1. Welcome – MILLI ft. MINUS 
  2. พักก่อน – MILLI
  3. Mind Games – MILLI ft. Jackson Wang
  4. เพื่อนเล่นไม่เล่นเพื่อน – MILLI ft. Tilly Birds
  5. Sad Areobic – MILLI
  6. สุดปัง / MILLI
  7. Not Yet – MILLI
  8. The Weekend / 88rising & BIBI (MILLI Remix)
  9. Mango Sticky Rice / MILLI
  10. สาธุ – MILLI ft. TangBadVoice
  11. หนูทำเอง – MILLI ft. FIIXD
  12. ตาแตก – MILLI ft. WONDERFRAME
  13. Boy Pablo – MILLI ft. BOWKYLION
  14. เบาได้เบา – MILLI ft. Towpee Southside
  15. ดูออก – MILLI ft. Pae Sax Mild, ว่าน วันวาน
  16. แฟนใหม่หน้าคุ้น – MILLI ft. MAIYARAP
  17. 17 นาที – MILLI ft. mints
  18. ได้อยู่ – MILLI ft. OAT PRAMOTE
  19. Homework – MILLI
  20. Booty Bomb – 4EVE
  21. Mirror Mirror – MILLI ft. F.HERO, Changbin of Stray Kids 
  22. Squad Shit – MILLI ft. 1FLOW

 

The post MILLI แบบเบิ้มเบิ้ม การที่คนตั้งเป้าไว้สูงแล้วไปให้สุด พอถึงจุดนั้นแล้วมันดีอย่างนี้เอง appeared first on THE STANDARD.

]]>
อัลบั้มเต็มของ นนท์ ธนนท์ ที่ตั้งใจแบ่งย่อยเป็น 3 พาร์ต และตั้งชื่อตามอารมณ์ที่ได้จากการฟัง https://thestandard.co/nont-tanont-full-album/ Fri, 02 Sep 2022 11:00:03 +0000 https://thestandard.co/?p=675521 นนท์ ธนนท์

คุณรักพาร์ตไหนที่สุด?   นนท์ ธนนท์ หรือชื่อจริงว่า […]

The post อัลบั้มเต็มของ นนท์ ธนนท์ ที่ตั้งใจแบ่งย่อยเป็น 3 พาร์ต และตั้งชื่อตามอารมณ์ที่ได้จากการฟัง appeared first on THE STANDARD.

]]>
นนท์ ธนนท์

คุณรักพาร์ตไหนที่สุด?

 

นนท์ ธนนท์ หรือชื่อจริงว่า ธนนท์ จำเริญ เป็นเจ้าของรางวัลชนะเลิศ The Voice Thailand Season 1 จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 10 ปี นนท์มาไกลมาก เรียกได้ว่าในนาทีนี้เขาคือศิลปินชายเดี่ยวยืนหนึ่งของเมืองไทย ทะเยอทะยาน Concert ที่เพิ่งผ่านไปประสบความสำเร็จอย่างมาก และมันจะเป็นก้าวที่ดีของเขาต่อไปในอนาคตอีก

 

อัลบั้มนี้ชื่อว่า Cigarette Candy & Vanilla Sky ทำมาเป็นแพ็กเกจสวยงาม แบ่งเพลงออกเป็น 3 พาร์ต พาร์ตละ 4 เพลง เพลงที่ 1-4 จะได้ความขม สติล่องลอย เหมือนบุหรี่ เพลงที่ 5-8 จะได้ความหวานปนความห่วงใย เหมือนลูกกวาด เพลงที่ 9-12 จะได้ความหอมหวน ซึ่งทำให้หวนคิดถึงอดีต เป็นโมเมนต์ที่มองท้องฟ้าเวลาเหงาแล้วฟ้ามีเมฆเป็นสีวานิลลา

 

 

สไตล์การร้องของนนท์มีความเป็นอาร์แอนด์บี มีลูกเอื้อนที่ดี อัลบั้มนี้ใช้วิธีให้ศิลปินดังๆ มาเขียนเพลงให้นนท์ร้อง ซึ่งกลับกลายเป็นดีมาก เพราะแต่ละเพลงมีคาแรกเตอร์ชัดเจนตามคนเขียนเพลง แล้วมันทำให้พอฟังรวมทั้งอัลบั้มก็ไม่เบื่อง่าย แถมนนท์ยังปรับสไตล์การร้องตามคนแต่งได้หลายแบบ อัลบั้มนี้เรียกได้ว่าพามาแต่คนเก่งๆ ไม่ว่าจะเป็น เติร์ด Tilly Birds, นะ Polycat, กานต์ The Parkinson, ข้าว Fellow Fellow, แทน ลิปตา, หนึ่งและบี ETC., ปู๋ HENS, ก้อง H 3 F, เจนพัฒน์ Mad Puppet, กัน วง MEAN, โบกี้ไลอ้อน, AMBYRFEELS, HYE และ แอ้ม อัจฉริยา อัลบั้มโปรดิวซ์โดย ไมโล Tilly Birds

 

จับเพลงทั้งหมดมา ผมแบ่งกลุ่มตามเนื้อหาของเพลงออกเป็น 4 กลุ่ม ได้กลุ่มละ 3 เพลงพอดิบพอดี มันช่างลงตัว

 

(กลุ่มแรก) เพลงที่แอบรักใครสักคน มีความหวังอยู่ลึกๆ มีเพลง โต๊ะริม, แค่แอบหวัง และก็ Dark Choc ขอเริ่มจากเพลงดังก่อน โต๊ะริม เพลงนี้ออกมาเป็นซิงเกิลก่อนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และมันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเพลงที่ทำให้นนท์รู้จักในวงกว้าง เพลงนี้เขียนโดยโบกี้ไลอ้อน เนื้อเพลงที่ฟังครั้งแรกก็สะกดเราให้ยิ้ม มีประโยคแทงใจเต็มไปหมด เช่น “ตายแล้วตายอีก” “เชือดนิ่ม” “ใจปริ่ม” “ฆ่ากันแล้วก็เอาให้ตาย” “เธอมาทำให้ละลาย” โต๊ะริมหมายถึงโต๊ะในร้านอาหารก็ได้ โต๊ะทำงานก็ได้ โต๊ะที่นั่งประจำในมหาวิทยาลัยก็ได้ มันได้ไปหมดกับทุกที่กับทุกคน เป็นการแต่งเพลงที่เฉือนด้วยคำที่ดีมากๆ ของปีนี้เลย

 

ไม่ใช่แค่ฝัน ที่ฉันต้องตื่น

และฉันก็ฝืนหัวใจตัวเองไม่ไหว

เธออยู่ตรงนั้น

อยากเพียงแค่ชิดใกล้

ห้ามใจ เท่าไรไม่ได้สักที

โต๊ะริม 

 

 

แค่แอบหวัง เปิดต่อกันกับโต๊ะริม เพลงนี้ได้กานต์ The Parkinson มาแต่งให้ เสียงฮู้ยาวๆ ตรงอินโทรก็คือความเป็น The Parkinson เลย มีความรักแบบเพื่อนแอบรัก เปิดต่อ เพื่อนรัก ของ The Parkinson และ พอไหว ของ อะตอม ชนกันต์ ส่วนเพลง Dark Choc ใส่เครื่องเป่ากังวาน เบสคำโตๆ เพลงนี้มีความเป็น ETC. เป็นเพลงที่รู้ว่าความรักมันขมแต่ก็ไม่เข็ด เสียงร้องของนนท์มีพาวเวอร์

 

(กลุ่มสอง) มีความแบบได้อยู่ใกล้ๆ เธอ อยากให้เธอรักตอบบ้าง แต่ก็ทำใจไว้แล้วนิดหนึ่ง ได้แก่เพลง ไม่เป็นไรที่รัก, ผ้าพันแผล และ ถ้าเธอไม่อยากโชคร้ายเรื่องความรัก ในอัลบั้มนี้มีชื่อนนท์เป็นหนึ่งในคนแต่งเพลงด้วย เพลงนั้นคือ ไม่เป็นไรที่รัก มันเป็นเพลงป๊อปฟังเย็นๆ ขึ้นด้วยคอรัส กีตาร์เพลงนี้มีลูกเล่นมาก แถมตอนท้ายมีโซโล่กีตาร์ไฟฟ้าออกแนวเจ็บปวด เนื้อเพลงเป็นความผิดหวังของเธอ ซึ่งเราก็ทำหน้าที่ได้แค่ปลอบ

 

เธอลองพูดคำว่ารักกับฉันไหม​​​

ฉันจะไม่ทำให้เธอเสียใจ แบบที่เธอเคยเจอมาก่อน

ฉันขอเป็นคนที่เธอรักได้ไหม​​​

จะทำให้เธอเข้าใจ ว่าความรักที่แท้เป็นอย่างไร

ถ้าเธอไม่อยากโชคร้ายเรื่องความรัก​​จะลองดูไหมให้ฉันรักเธอเอง

ถ้าเธอไม่อยากโชคร้ายเรื่องความรัก

 

 

ถ้าเธอไม่อยากโชคร้ายเรื่องความรัก เป็นเพลงที่ร้องคู่กับ อิ้งค์ วรันธร การเลือกอิ้งค์มาร้องด้วยช่วยส่งเพลงได้ดี เพราะว่าเพลงในแบบของอิ้งค์ก็มีความเฟลในความรักไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าสองคนเสริมกันได้ดีเลย ส่วน ผ้าพันแผล เปรียบเทียบได้ดีเลย เป็นผ้าพันแผลให้เธอ อยู่ด้วยกันกับเธอตอนที่เธอเจ็บ แต่ฉันก็เป็นแค่ผ้าพันแผล เธอหายแล้วเธอก็ไม่ได้ต้องการอีก เสียงคอรัสมีความเป็น Tilly Birds มีประโยคเด็ดอย่าง “สัมผัสความเป็นห่วงจากฉันในเมโลดี”

 

(กลุ่มสาม) ความรักที่เพิ่งจบ แต่ทบทวนแล้วไม่อยากให้จบ ขอเริ่มใหม่ถ้ามีโอกาส เพลงกลุ่มนี้คือ Back To You, เธอมีคนเดียวบนโลก และ คนใหม่ เพลงแรกเป็นเพลงภาษาอังกฤษเพลงเดียวในอัลบั้ม ซึ่งนนท์ก็ร้องได้ดี เป็นเพลงที่แต่งโดย Adrian Milanio ตัวเพลงมีความเหงาด้วยคีย์บอร์ด ในคอนเสิร์ตนนท์โชว์การเล่นเปียโนในเพลงนี้ด้วย แถมกีตาร์ท่อนจบยิ่งเหงาใหญ่ได้ก้อง H 3 F มาช่วย

 

เพลงเพลงนั้นที่เธอเคยชอบฟัง

บางครั้งที่ฉันบอกว่ารำคาญ เพราะมันช่างเสียงดัง

วันนี้ฉันต้องเปิดมัน เพื่อลบเลือนความเงียบงัน

เพื่อจะเพ้อว่าเธอยังอยู่ตรงนี้ด้วยกัน

เธอบ่นเสมอเวลาที่เดิน ทำไมไม่จับมือกัน

วันนี้อยากทำเท่าไรก็ ทำได้เพียงแค่เดินลำพัง

คนใหม่

 

 

คนใหม่ เป็นเพลงที่น่าจะตัดเป็นซิงเกิลมาก เป็นเพลงที่เพราะแบบเหงาตาย ความรักที่รู้แล้วเมื่อขาดหาย คนเขียนเพลงนี้คือ แอ้ม-อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ นักแต่งเพลงฝีมือฉมังในยุคนี้ เพลงเป็นเพลงช้าเศร้าๆ เสียงของนนท์บ่งบอกถึงความปวดร้าว ยอมเปลี่ยนเป็นคนใหม่เพื่อให้เธอกลับมา ส่วน เธอมีคนเดียวบนโลก มีความเป็น Tilly Birds ชัดเจนมาก เป็นเพลงที่เด่นออกมาจากสไตล์การร้องและเนื้อเพลง

 

(กลุ่มสุดท้าย) เพลงที่มูฟออนไม่ได้ ยังเสียใจอยู่ทุกวัน ยิ้มทั้งน้ำตาให้เหมือนว่าเข้าใจความเป็นไป กลุ่มนี้มี วันครบเลิก, ทุกนาทีที่สวยงาม และ Memories 

 

ขอเริ่มจากเพลงฮิตก่อน วันครบเลิก ฟังแล้วชวนคิดถึงเพลง Easy ของ Mac Ayres เพลงนี้เป็นเพลงแรกของอัลบั้มนี้ที่ปล่อยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว วางภาพของนนท์ไว้ชัดเจนตั้งแต่นั้นมา มันมึความเจ็บปวดในเสียงร้อง เมื่อวันครบรอบกลายเป็นวันครบเลิก เพลงนี้ นะ Polycat และ เจนพัฒน์ Mad Puppet เป็นคนเขียน

 

ไม่มีทางที่ฉันจะลืม​​​​​ทั้งเรื่องร้ายๆ ในวันที่เราจากกัน

และเรื่องดีๆ ที่ทำให้รู้ว่า​​​​ช่วงเวลาเหล่านั้น มันช่างสวยงาม

กี่คำถาม ที่มันยังคาในใจ​​​​ เธอรู้ไหมมันทรมานแค่ไหน

เพราะคำตอบ มันอยู่ในทุกนาทีที่ฉันเคยเคียงข้างเธอ

ทุกนาทีที่สวยงาม

 

 

ทุกนาทีที่สวยงาม เพลงยาว 6 นาทีที่ไม่รู้สึกว่ายาวเลย เพลงที่ให้ความรู้สึกเดียวกันกับตอนที่ได้ฟัง ถ้าเราเจอกันอีก ของ Tilly Birds ครั้งแรก เพลงที่เต็มไปด้วยความเศร้า แต่ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะเข้าใจ เพลงที่มีความอลังการของดนตรี เครื่องดนตรีแต่ะละชิ้นทำหน้าที่ได้ดี อย่างเช่น แซกโซโฟน ที่ทำให้โลกนี้สวยงามท่ามกลางความเศร้าของเพลง เพลงนี้ถูกวางไว้เป็นเพลงรองสุดท้ายของอัลบั้ม

 

อัลบั้มปิดด้วย Memories ทำให้อัลบั้มมันไม่ได้เศร้าดิ่ง เพลงนี้เป็นเพลงที่นนท์ร้องกับกีตาร์ ฟังแล้วนึกถึง ยังรอคอยเธอเสมอ ของ พรู การที่เราคิดถึงอดีต เราสามารถยิ้มและมีความสุขกับมันได้ เครื่องสายที่ใส่เติมเข้ามาคือความสวยงามของความสุข

 

เป็นอัลบั้มที่ฟังเท่าไรก็ไม่เบื่อ สวยงามทั้ง 12 เพลงอย่างแท้ทรู

 

 

อัลบั้ม Cigarette Candy & Vanilla Sky

ศิลปิน นนท์ ธนนท์

ค่าย LOVEiS

 

เลเล่เล้

สิงหาคม 2565

Twitter: @laylaidlaid

 

อ้างอิง:

 

MixTapes by laylaidlaid

วางคอนเซปต์ไว้เป็นอาร์แอนด์บีเพราะๆ ครับ

 

Apple Music: MixTapes Nont Tanont

 

 

 

Spotify: MixTape Nont Tanont

 

 

 

  1. โต๊ะริม / นนท์ ธนนท์
  2. แค่แอบหวัง / นนท์ ธนนท์
  3. เพลงส่วนบุคคล / fellow fellow
  4. นั่งโง่ๆ ริมทะเล / นนท์ ธนนท์, MEAN, JEEP
  5. ยอม / Yented
  6. Destiny / เบน ชลาทิศ
  7. ถ้าเธอไม่อยากโชคร้ายเรื่องความรัก / นนท์ ธนนท์ (Feat. อิ้งค์ วรันธร)
  8. ภวังค์ / AP1WAT
  9. St. Elmo’s Fire / Michael Franks
  10. จะบอกเธอว่ารัก / The Parkinson
  11. วันครบเลิก / นนท์ ธนนท์
  12. Easy / Mac Ayres
  13. Always, I’ll Care / Jeremy Zucker
  14. มีผลต่อหัวใจ / นนท์ ธนนท์
  15. พรครับ / BayBay
  16. ผ้าพันแผล / นนท์ ธนนท์
  17. I Keep Forgettin’ (Every Time You’re Near) / Michael McDonald
  18. Back To You / นนท์ ธนนท์
  19. พอไหว / อะตอม ชนกันต์
  20. เห็นฉันไหม / Soul After Six (Feat. Jacarr)
  21. คนใหม่ / นนท์ ธนนท์
  22. ถ้าหาก / Two Popetorn, Billkin, TA The Parkinson
  23. No.15 / AMBYRFEELS
  24. หยุดได้แล้ว / MEAN, นนท์ ธนนท์
  25. รอยจูบ / Tattoo Colour
  26. ทุกนาทีที่สวยงาม / นนท์ ธนนท์
  27. ถ้าเราเจอกันอีก / Tilly Birds
  28. Nobody Knows / Stamp, Christopher Chu
  29. Memories / นนท์ ธนนท์

 

อ้างอิง:

The post อัลบั้มเต็มของ นนท์ ธนนท์ ที่ตั้งใจแบ่งย่อยเป็น 3 พาร์ต และตั้งชื่อตามอารมณ์ที่ได้จากการฟัง appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Kopycat ‘SWIRL’ ถ้าคุณกำลังหาอัลบั้มฟังสบายเอาไว้เวลาไปเที่ยวกับแฟน อัลบั้มนี้เลย! https://thestandard.co/the-kopycat-swirl/ Tue, 23 Aug 2022 09:30:12 +0000 https://thestandard.co/?p=670825 The Kopycat

The Kopycat เป็นวงป๊อปที่ทำเพลงออกมาละมุนละไม เพลงมีอิท […]

The post The Kopycat ‘SWIRL’ ถ้าคุณกำลังหาอัลบั้มฟังสบายเอาไว้เวลาไปเที่ยวกับแฟน อัลบั้มนี้เลย! appeared first on THE STANDARD.

]]>
The Kopycat

The Kopycat เป็นวงป๊อปที่ทำเพลงออกมาละมุนละไม เพลงมีอิทธิพลของเพลงป๊อปยุค 60 และ 70 ที่มีเสียงคอรัสฮูวาวาฮู กีตาร์เล่นแบบไม่ต้องเยอะ มีลูกหวานๆ เยิ้มๆ เบสลื่นไหล สร้างบรรยากาศสนุก บางเพลงใช้คีย์บอร์ดได้ความรู้สึกไปอีกแบบ ที่สำคัญเสียงร้องมีความหวานชวนหลงใหล เป็นวงที่ทำให้นึกถึงวง She & Him ก่อนเพื่อน และความใสได้ประมาณ Pink Martini

 

The Kopycat

 

วงนี้มีด้วยกัน 3 คน นักร้องสาวเสียงใสนามว่า มู่ หรือ มารีอา มู่ เธอเป็นคอรัสให้กับหลายๆ คนมาก่อน เช่น ส้ม มารี, เอิ๊ต ภัทรวี, วง Temp. และ quicksand bed ส่วนมือกีตาร์คือ แฮม-ฐาณิศร์ สินธารัตนะ ร่วมกับ ปอนด์-พรพิพัฒน์ มาลีพันธ์ เดินเบส พวกเขาทั้ง 3 คนทำ The Kopycat ด้วยกันมา 2 ปี มีเพลงรวมเป็นอัลบั้มได้พอดี จังหวะกำลังดี โควิดกำลังหมดความสำคัญ ปรากฏว่านักร้องนำได้การตอบรับไปเรียนต่อที่สเปน อัลบั้มนี้จึงออกมา มีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม และคอนเสิร์ตเล็ก ก่อนที่จะพักวงกันสักแป๊บ

 

The Kopycat

 

ชื่ออัลบั้มเพราะดี SWIRL แปลว่าหมุน โลโก้ชื่ออัลบั้มที่ออกแบบมาก็ให้ความรู้สึกนี้ เพลงทั้งอัลบั้มฟังแล้วได้ความรู้สึกหมุนปลิว เหมือนเราเดินอยู่กลางทุ่งหญ้าโล่งๆ ในวันที่อากาศเย็นสบาย ไปปิกนิกกลางป่า นั่งกินแซนด์วิชริมธาร เที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ที่มีเพื่อนคู่ใจไปด้วย หรือเป็นอารมณ์แบบเดตกันที่ร้านอาหารหรูบนตึกระฟ้า มองบรรยากาศแสงไฟตึกข้างนอกที่สวยงาม จิบเครื่องดื่ม และนั่งคุยกันอย่างมีความสุข

 

เมื่อฟังเพลงอัลบั้มนี้ครบทั้งหมดแล้ว มันเป็นการยากที่จะบอกว่าเพลงไหนดีกว่าเพลงไหน เพราะแต่ละเพลงมีความพิเศษของมันเอง และต่อกันแต่ละเพลงได้อย่างไหลลื่น 

 

Baby, I wanna see you my baby.

You’re only one that make me smile.

Why won’t you come here for a while.

Cause tonight, stars shine so bright like I see your eyes.

And I wanna hold you so tight.

Please don’t deny it, my baby.

– My Baby

 

 

เปิดอัลบั้มด้วย My Baby เพลงที่ชวนคิดถึงเพลง Earth Angel (Will You Be Mine) ในยุค 60 และมีอิทธิพลของ Be My Baby ของ The Ronettes ด้วย เพลงนี้เป็นเพลงแรกของวงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กีตาร์มีความอ่อนโยน เนื้อร้องออดอ้อน อยากให้มาเจอกัน ช่วงโซโล่กีตาร์ตรงกลางไม่ต้องเยอะก็เพราะแล้ว ใช้เพลงนี้เปิดอัลบั้มได้ดีเลย ต่อด้วย A Night Ride เพลงที่เหมือนนั่งรถไปด้วยกันช่วงเดตแรก มีความเขินปนกับความดีใจ ความฝันที่เป็นจริง การร้องที่ลากคำว่า You ยาวๆ คือความใส่ใจในตัวเธอ 

 

ต่อด้วย Painting เพลงนี้มี 2 เวอร์ชัน อีกเวอร์ชันเป็นเปียโน มู่ร้องคู่กับ JIPI หรือ จี๊ป-รัชช อมาตยกุล อดีตสมาชิกวงจินตา แต่เวอร์ชันหลักเป็นเสียงของ แฮม เล่นกับเปียโน มีเสียงของมู่เป็นคอรัส พอเพลงเข้าท่อนฮุคเพลงนี้สวยมาก การที่คนสองคนมาเจอกัน คุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดกัน แชร์ลมหายใจเดียวกัน และการได้เรียนรู้กัน เหมือนกับการทาสีของคนหนึ่งเข้าไปที่อีกคนหนึ่ง จบเพลงด้วยเสียงกีตาร์ใสๆ ให้เพลงไม่หม่นไปนัก

 

Waiting For You ใช้กีตาร์อะคูสติกคลอไปกับเสียงร้อง มีทำนองหวาน และหวานด้วยเสียงร้องที่ฟังเหมือนมีความดีใจที่ได้เป็นคู่อยู่ด้วยกัน มีความอาลัยเมื่อตอนจากกัน แล้วดนตรีก็ตัดเป็นอีกบทที่เร็วขึ้น เป็นเพลงที่เก๋ดี และทำให้เพลงในอัลบั้มไม่ได้เป็นโทนเดียวเกินไป 

 

เพลงดี 3 เพลงเรียงติดกัน Hideaway เป็นเพลงสนุกๆ แบบที่นึกถึง Belle and Sebastian ตอนที่แยกทำ God Help The Girl ต่อด้วย Ting A Ling ที่ให้ความรู้สึกเหมือนฟังเพลงคริสต์มาส เพลงมีความอบอุ่น ฟังแล้วเคลิ้มมาก เพลงต่อไปเป็นเพลงคู่ที่เพราะมากๆ นั่นคือ Everything You Do เพลงนี้ได้ นิค นักร้องนำแห่งวง Temp. และวง Part Time Musicians มาร้องด้วย ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงคู่ที่ดีมากเพลงหนึ่งในปีนี้เลย ลองเปิดต่อเพลง You’re All I Need To Get By ของ Marvin Gaye & Tammi Terrell หรือ Cruisin ที่ Gwyneth Paltrow ร้องกับ Huey Lewis เนียนเลย

 

I’m in love with you.

And everything you do.

I’m in love with you. Oh baby.

And my heart says it’s true.

– Everything You Do

 

 

Street Regiment เล่าถึงความไม่มั่นใจในตัวเอง จนกระทั่งเธอเข้ามา ทำฉันหัวเราะได้ ความรักที่อยู่รอบๆ ตัวมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ส่วน Campfire เป็นการไปตั้งเต็นท์ด้วยกันที่ต่างจังหวัด นอนมองดาวด้วยกัน ตื่นมาตอนเช้าด้วยกัน เพลงนี้มีแค่เสียงร้องกับกีตาร์ ดูเป็นเพลงธรรมชาติดี เหมือนแต่งมาเพื่อเล่นกีตาร์หน้ากองไฟจริงๆ 

 

ล่าสุดพวกเขามีเพลงใหม่อีก 1 เพลง คือ Tu es mon amour เพิ่งจะปล่อยมาเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม เป็นเพลงที่ฟังเคลิ้มๆ เหมือนเพลงในอัลบั้ม

 

อัลบั้มนี้ทำออกมาเป็นแผ่นเสียงและซีดีด้วย แผ่นเสียงเป็นแผ่นลาย สวยมาก กระดาษเนื้อเพลงที่แนบมากับแผ่นสามารถพับเป็นรูปทรงเรือใบได้ (ใครจะไปกล้าพับ) เก๋มาก

 

อัลบั้ม: SWIRL

ศิลปิน : The Kopycat

ค่าย: ไม่มีค่าย, แผ่นเสียงทำโดย Earthtone Records 

 

เลเล่เล้

สิงหาคม 2565

Twitter: @laylaidlaid

 

MixTapes by laylaidlaid

ทำเซ็ตนี้แบบสบายๆ ให้เป็นเพลงรักที่เอาไว้ฟังตอนไปเที่ยวด้วยกันได้

 

  • Apple Music: MixTapes The Kopycat

 

 

 

  • Spotify: MixTape The Kopycat

 

 

 

  1. My Baby / The Kopycat
  2. Dream A Little Dream / Pink Martini & The Von Trapps
  3. Ting A Ling / The Kopycat
  4. Come Monday Night / God Help The Girl
  5. Don’t Leave Me (Ne me quitte pas) / Regina Spektor
  6. Everything You Do / The Kopycat (feat. Nick Temp.)
  7. Harvey / Her’s 
  8. Celia Inside / The Cardigans
  9. A Night Ride / The Kopycat
  10. Be My Baby / The Ronette
  11. Love Is Blue / Paul Mauriat 
  12. Waiting For You / The Kopycat
  13. Nightclub Love / Matt Maltese
  14. The More I See You / Chris Montez
  15. Spanish Eyes / Al Martino
  16. This Girl’s In Love With You / She & Him
  17. If I fell / Chet Atkins 
  18. Hideaway / The Kopycat
  19. Lovin’ You / Minnie Riperton
  20. Annie’s Song / John Denver
  21. Street Regiment / The Kopycat
  22. So Much In Love / The Tymes
  23. On And On / Stephen Bishop
  24. Tu es mon amour / The Kopycat

 

อ้างอิง:

The post The Kopycat ‘SWIRL’ ถ้าคุณกำลังหาอัลบั้มฟังสบายเอาไว้เวลาไปเที่ยวกับแฟน อัลบั้มนี้เลย! appeared first on THE STANDARD.

]]>
Wicked Lights ​​โฟล์กร็อกฝีมือคนไทย อัลบั้มที่ต้องใช้เวลานานถึง 14 ปี https://thestandard.co/wicked-lights/ Wed, 03 Aug 2022 13:00:55 +0000 https://thestandard.co/?p=662510 Wicked Lights

ศิลปินหน้าใหม่รายนี้มีชื่อว่า Wicked Lights เป็นงานของ […]

The post Wicked Lights ​​โฟล์กร็อกฝีมือคนไทย อัลบั้มที่ต้องใช้เวลานานถึง 14 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>
Wicked Lights

ศิลปินหน้าใหม่รายนี้มีชื่อว่า Wicked Lights เป็นงานของ ธู จารุสร หรือ Two Charuson เขาเคยออก EP 4 เพลงเมื่อประมาณปี 2008 ซึ่งโปรดิวซ์โดย เจ-มณฑล จิรา เวลาผ่านไป 14 ปี ทำอัลบั้มเต็มจนสำเร็จได้มาเป็นอัลบั้มนี้ Brave Face และโปรดิวซ์โดย เจ มณฑล คนเดิม ความดีความชอบของอัลบั้มนี้อยู่ที่เจด้วย เพราะทำเพลงได้ออกมาลงตัวเอามากๆ

 

เพลงของ Wicked Lights ฟังแทบไม่รู้ว่าเป็นงานของคนไทย เพราะว่าร้องเพลงภาษาอังกฤษได้สำเนียงดีมาก ธู จารุสร เกิดเมืองไทยแต่เติบโตที่อังกฤษ จบมหาวิทยาลัยเดียวกับ Thom Yorke แห่ง Radiohead งานของเขาจึงมีอิทธิพลของเพลงทางฝั่งอังกฤษอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ Eric Clapton ไปจนถึง Fleetwood Mac และฟังแล้วก็ชวนคิดถึง Mumford & Sons, The National, The Black Keys และ Kings of Leon

 

Wicked Lights

ภาพ: Wickedlightsmusic / Facebook

 

สุ้มเสียงของ ธู จารุศร มีความคล้ายกับ ตุล ไวฑูรเกียรติ แห่งอพาร์ตเมนต์คุณป้า ผสมกับ ฮิวโก้ (เล็ก-จุลจักร จักรพงษ์) และให้ชวนคิดถึงเสียงของ Elvis Costello กับ ธีร์ ไชยเดช ด้วย ทุ้มต่ำ มีพลัง พร่ำบ่น โอดครวญ แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ธู จารุศร เคยประสบอุบัติเหตุใหญ่มาก่อน แต่ก็รอดมาได้ อัลบั้มนี้จึงมีมุมของการผ่านชีวิตด้านมืดมาพอสมควร ชื่ออัลบั้ม Brave Face ก็บอกถึงการเผชิญกับความเจ็บปวดและผ่านมันมาได้ในที่สุด

 

Brave Face มีทั้งหมด 12 เพลง เป็นเพลงร็อกที่มีความเป็นโฟล์กเหมือนที่เราฟังงานของฮิวโก้ มีความดุดันในเพลง กีตาร์ เบส กลองแน่นมาก คียบอร์ด เครื่องเป่า เครื่องสายแทรกเป็นบางเพลง เป็นอัลบั้มที่ฟังยาวๆ ได้ทั้งชุด เพลงแต่ละเพลงมีทำนองสวยงาม อัลบั้มวางสลับจังหวะความเร็วของเพลงได้ดี ทำให้ไม่เบื่อง่าย

 

เพลงเด่นที่สุดยกให้ Budapest อินโทรเกากีตาร์คลอไปทั้งเพลง เปียโนที่แทรกตรงท้ายเพลงคือดี เพลงนี้เหมาะกับ ‘การขับรถไปเรื่อย ๆ ตามต่างจังหวัด นึกถึงฉากแบบว่าพระเอกเพิ่งไปฆ่าซอมบี้ในเมืองเสร็จแล้วกลับบ้านไปหาคนรัก’

 

Listen to the ghost

Leave bodies full of rest

Go where booty calls

Fucked up Budapest

Budapest

 

 

Kushty เพลงที่ปล่อยมาเป็นเพลงแรกเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ถูกวางไว้เป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม เพลงในจังหวะสบายๆ เอาไว้เวลาขับรถกินลมชมวิว เนื้อเพลงให้กำลังใจ ว่าสิ่งร้าย ๆ สักวันมันต้องผ่านไป มุ่งมั่นและไปต่อ เพราะเพลงนี้นี่แหละที่ทำให้งานของ Wicked Lights เป็นที่สนใจของต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือเอเชีย ล่าสุดเห็นว่ามีไปสัมภาษณ์กับรายการในมาเลเซียด้วย เปิดเพลงนี้ต่อด้วย Mekong River Delta ของ Hugo ได้เลย

 

Know that it’s alright

We’re wasting time before we leave

All the days go by

Come rain or shine, let it be

 

Kushty

 


มีความเป็นร็อกหนักๆ อยู่ในเพลง Darn Respites, Fool, … And The Restless และ Edin เป็นเพลงเร่งจังหวะ ให้ความมัน เริ่มจาก 3 เพลงแรกที่วางติดกัน เปิดอัลบั้มด้วย Darn Restpites มีอินโทรย้ำคีย์บอร์ด เพลงนี้ประสานเสียงดี กีตาร์คอร์ดหนัก กลางเพลงมีใส่เครื่องเป่าเข้ามา ไม่ต้องมาก ได้จังหวะ กีตาร์ลีดก็ไม่ได้เยอะ เจ้าตัวเล่าว่ามันคือการกลับมาใหม่หลังจากหายไปนาน ส่วน Fool เป็นเพลงมีความหมายแฝงเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง กำแพงที่ไม่สามารถปีนข้ามได้ ไม่มีใครกล้าตะโกนออกไป ต่อด้วย … And The Restless มีความต่อเนื่องกันมา เพลงนี้จะเบากว่า 2 เพลงแรก ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว หมดแรงจะสู้ต่อ ส่วน Edin ดุดัน กลองหนัก เสียงร้องมีพลัง เพลงได้ความมืดหม่น ฟังแล้วจะนึกถึงเพลง Day I Die ของ The National ท่อนกลางมีกีตาร์ 2 ตัว ตัวหนึ่งหนัก ตัวหนึ่งเบา เข้ากันได้ดี

 

Sometimes

All I need is riot

Through shadows and wires

Hold them down

With the radio silence

My heads in the garden

Knock em down

Even though if it goes nowhere out there

 

Edin

 

 

อิทธิพลเพลงอังกฤษแรงๆ อยู่ใน 2 เพลงติด Lovewillalwaystearusapart ที่ดูเหมือนตั้งใจให้เรานึกถึง Love Will Tear Us Apart ของ Joy Division แต่เพลงไม่ได้หม่นไปถึงขนาดนั้น มันเป็นเพลงรักที่มีการรอคอย สับคอร์ดกีตาร์ฉับไว ไม่มีอะไรที่จะแยกเราจากกันได้นอกจากความรัก เพลงต่อมาได้กลิ่น Radiohead ชัดเจน การร้องยาวกันกีตาร์ที่ฟังลอยๆ และเริ่มโหมขึ้นเรื่อยๆ ในเพลง Bearings เปิดต่อ Blow Out หรือ Street Spirit ของ Radiohead ประมาณนั้นเลย

 

จำชื่อวงนี้ไว้ให้ดีถ้าคุณไม่อยากจะพลาดอะไรสำคัญในปี 2022

อัลบั้ม: Brave Face

ศิลปิน: Wicked Lights

ค่าย: Samutprakarn Sound

 

เลเล่เล้

สิงหาคม 2565

Twitter: @laylaidlaid

 

อ้างอิง:

 

The post Wicked Lights ​​โฟล์กร็อกฝีมือคนไทย อัลบั้มที่ต้องใช้เวลานานถึง 14 ปี appeared first on THE STANDARD.

]]>