ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม – THE STANDARD https://thestandard.co สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ. Sat, 10 Feb 2024 06:09:23 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.5 นาเกลือผืนสุดท้ายแห่งบางปะกง ‘เกลือสมุทรบ้านคลองผีขุด’ https://thestandard.co/bang-pakong-last-salt-field/ Sat, 10 Feb 2024 06:09:23 +0000 https://thestandard.co/?p=898253 นาเกลือบางปะกง

เกลือ ของแข็งสีขาวรสชาติเค็ม หนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการดำ […]

The post นาเกลือผืนสุดท้ายแห่งบางปะกง ‘เกลือสมุทรบ้านคลองผีขุด’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
นาเกลือบางปะกง

เกลือ ของแข็งสีขาวรสชาติเค็ม หนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ นอกจากใช้ปรุงอาหาร ยังใช้ในอุตสาหกรรมผลิตสารเคมีต่างๆ เช่น ฟอกย้อมเสื้อผ้า หลอมเหล็ก ทำกระจก ทำความเย็น ฯลฯ

 

แต่กว่าจะมาเป็น ‘เกลือ’ ต้องผ่านขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้ความอดทนในการรอคอย แรงงานคน สภาพดินฟ้าอากาศ ทักษะภูมิปัญญาที่ส่งต่อกันมาจากอดีตถึงปัจจุบัน

 

 

สายลม แสงแดด ภูมิประเทศราบเรียบเป็นดินเหนียวอุ้มน้ำ มีลำคลองเข้าถึงพื้นที่ทางการเกษตร และอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเล คือสิ่งที่ธรรมชาติจัดสรรพื้นที่ให้กับ ‘บ้านคลองผีขุด’ ตำบลบางปะกง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็นอีกพื้นที่ที่เหมาะกับการทำนาเกลือสมุทร จนกลายเป็นอาชีพสืบทอดต่อกันมาหลายช่วงอายุคน สร้างชื่อเสียงและเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ด้วยความเข้มข้นของแร่ธาตุในเกล็ดเกลือ รสชาติเกลือไม่เค็มจัด มีรสหวานติดปลายลิ้น ไม่แข็งมาก ละลายน้ำได้ง่าย จึงนิยมในการทำขนมไทยและอาหารไทย ซึ่งปัจจุบันที่นี่ถือเป็น ‘นาเกลือสมุทร’ ผืนสุดท้ายของบางปะกง

 

 

สิ้นฤดูฝน จะกลายเป็นฤดูเริ่มต้นการผลิต เพราะช่วงเวลาที่จะสามารถทำนาเกลือได้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แค่ระหว่างฤดูหนาวถึงฤดูร้อน และเกิดขึ้นเพียงปีละครั้ง

 

เริ่มจากการเตรียมพื้นที่นา ปรับดินให้แน่นเรียบ กักเก็บน้ำทะเลไว้ในช่วงน้ำขึ้นในนาขังหรือวังน้ำ ให้สิ่งเจือปนตกตะกอนจนน้ำทะเลใส จึงวิดน้ำทะเลเข้าสู่นาประเทียบหรือนาตาก โดยจะปล่อยให้น้ำทะเลระเหยไปกับลมและแดด ยิ่งแดดแรง ลมดีเท่าไร เม็ดเกลือที่ได้จะสวยใสมีรสชาติดี

 

 

สำหรับการเก็บเกี่ยวผลผลิตนาเกลือจะมี 2 ขั้นตอนหลัก คือ

 

  • การรื้อเกลือและการหาบเกลือ โดยการรื้อเกลือทำได้โดยการนำอุปกรณ์ที่ชื่อว่า ‘ลั่วเดินเกลือ’ โดยจะนำมาใช้เพื่อแซะแผ่นเกลือ ทำให้แผ่นเกลือหลุดจากพื้น

 

  • จากนั้นจะใช้ไม้ หรือที่เรียกกันว่า ‘คทา’ มาดันเกลือไปกองรวมกันไว้ให้เป็นรูปพีระมิดเพื่อความสะดวกต่อการขนย้าย แล้วถ่ายน้ำที่เหลืออยู่ไปยังนาดอก (ดอกเกลือ) และย้ายเกลือออกจากนาด้วยการหาบไปเก็บไว้ในยุ้ง เพื่อรอพ่อค้าคนกลางมาเหมาซื้อไปจำหน่ายต่อ

 

 

หากศัตรูของนาข้าวคือแมลง ศัตรูของนาเกลือก็คือ ‘น้ำฝน’ ปีไหนมีฝนหลงฤดูตกลงในช่วงฤดูทำนาเกลือ จะถือเป็นความโชคร้ายที่สุดของชาวนาเกลือ เพราะฝนที่ตกลงมาเพียงไม่กี่นาที สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาล เกลือที่ตากไว้เตรียมขายอาจละลายกลายเป็นน้ำ หรือน้ำในนาเกลือที่รอให้ตกผลึกจะไม่จับตัวเป็นก้อนเกลือ

 

 

ก่อนที่เกลือจะตกผลึกจนรื้อไปขายได้ จะมีเกลือชุดแรกลอยตัวขึ้นมาเกาะตัวเป็นแพบนผิวน้ำ เรียกว่า ‘ดอกเกลือ’ ที่มีความบริสุทธิ์กว่าเกลือทะเล เป็นเกลือที่เพิ่งตกผลึกใหม่ๆ ลอยเหนือน้ำ โดยไม่ได้สัมผัสกับพื้นดิน

 

ชาวนาเกลือจึงถือว่าดอกเกลือเป็นเกลือที่ดีที่สุด มีคุณภาพสูง และมีปริมาณน้อยแต่ขายได้ราคาสูง

 

เพราะฉะนั้นชาวนาเกลือจะต้องตื่นแต่เช้ามารีบช้อนดอกเกลือ ก่อนที่แสงแดดและลมจะทำให้ดอกเกลือจมลงด้านล่าง

 

 

แม้ว่าเกลือจะเป็นที่ต้องการและสำคัญต่อการดำรงชีวิต แต่ปัจจุบันประเทศไทยมีการทำนาเกลือเหลือไม่มาก โดยมีเหลือเพียง 7 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และปัตตานี

 

ขณะที่เกลือรุ่นแรกของปีจะออกช่วงเดือนมกราคม และได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในฤดูแล้งที่มีแดดจัด

 

 

ปัจจุบันนาเกลือสมุทรบ้านคลองผีขุดเป็นนาเกลือเพียงผืนเดียวและผืนสุดท้ายของจังหวัดฉะเชิงเทรา อาชีพที่เคยส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นถูกเว้นว่าง เนื่องจากในยุคปัจจุบันมีทางเลือกในการประกอบอาชีพสร้างความมั่นคงและรายได้ได้มากกว่ายุคที่ผ่านมา

 

The post นาเกลือผืนสุดท้ายแห่งบางปะกง ‘เกลือสมุทรบ้านคลองผีขุด’ appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปีละหน บนหุบเขาสีชมพู ‘ภูลมโล’ ดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง https://thestandard.co/phu-dom-gau-phaya-sua-krong-flower/ Fri, 02 Feb 2024 08:46:05 +0000 https://thestandard.co/?p=895323

ภูลมโล ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีต้นนางพญาเสือโคร่ง หร […]

The post ปีละหน บนหุบเขาสีชมพู ‘ภูลมโล’ ดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง appeared first on THE STANDARD.

]]>

ภูลมโล ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย มากที่สุดในประเทศไทย ประมาณ 160,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ และสูงจากระดับน้ำทะเล 1,664 เมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เชื่อมต่อจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดเลย ไว้ด้วยกัน 

 

ด้วยสภาพอากาศเย็นตลอดทั้งปี ทำให้ดอกพญาเสือโคร่งจะเริ่มบานตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งในแต่ละปีจะบานไม่ตรงกัน

 

สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนเดินทางท่องเที่ยวบนภูลมโล ทางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ามีประกาศไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเข้าไปบนภูลมโล เนื่องจากสภาพเส้นทางลาดชัน หากไม่ชำนาญในเส้นทางอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งยังเป็นการจัดระเบียบทางด้านการจราจรไม่ให้แออัด และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติ โดยสามารถใช้บริการรถรับจ้างของชุมชน ซึ่งจะจอดอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

 

The post ปีละหน บนหุบเขาสีชมพู ‘ภูลมโล’ ดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง appeared first on THE STANDARD.

]]>
ขอส่งความคิดถึงเดินทางไปถึงบ้าน เมื่อปีใหม่ปีนี้ยังไม่ได้กลับบ้าน https://thestandard.co/sending-love-to-our-home/ Sat, 30 Dec 2023 12:50:07 +0000 https://thestandard.co/?p=882919

ปีใหม่ วันหยุดยาวประจำปี ช่วงเวลาที่เฝ้ารอของผู้คนที่จา […]

The post ขอส่งความคิดถึงเดินทางไปถึงบ้าน เมื่อปีใหม่ปีนี้ยังไม่ได้กลับบ้าน appeared first on THE STANDARD.

]]>

ปีใหม่ วันหยุดยาวประจำปี ช่วงเวลาที่เฝ้ารอของผู้คนที่จากถิ่นฐานบ้านเกิดมาประกอบอาชีพในเมืองกรุง หลายคนได้ใช้โอกาสนี้เดินทางกลับไปเติมพลังเติมไฟที่บ้านให้มีแรงกลับมาสู้ฝันอีกครั้ง

 

‘บ้าน’ คำเรียกแทนที่อยู่อาศัย แต่ความหมายที่แท้จริงกลับหมายถึงสิ่งที่อยู่ในนั้น เรียกสั้นๆ ว่า ‘ครอบครัว’ ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้หลายคนต้องยอมออกจากบ้าน อาจเพราะความยากจน หรือแสวงหาโอกาสที่ดีในอนาคตให้กับคนที่รัก จึงจำเป็นต้องออกจากบ้านไปทำให้สิ่งที่อยู่ในบ้านที่เรียกว่า ‘ครอบครัว’ มีความสุขมากกว่าที่เคยเป็น

 

ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ความเศร้าหมองจากสิ่งที่แบกรับมาตลอดทั้งปี ทำให้พลังใจในการต่อสู้สำหรับบางคนลดน้อยลงทุกวัน หลังจากห่างบ้านมานาน ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่หลายคนเลือกเดินทางกลับไปในที่ที่เคยจากมาอีกครั้ง และแล้วความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมาทั้งปีก็ถูกเยียวยาให้หายไปทันที หลังถึงบ้านและพบเจอครอบครัวที่ได้ช่วยเตือนสติพวกเขาอีกครั้งว่า ในวันพรุ่งนี้เราสู้ไปทำไม และสู้เพื่อใคร

 

ก่อนเริ่มต้นพุทธศักราชใหม่ในปี 2567 THE STANDARD ออกสำรวจผู้คนตกค้างที่คิดถึงบ้าน และยังไม่มีโอกาสได้กลับบ้านในปีนี้ เนื่องด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ สภาพคล่องทางการเงิน และยังต้องแสวงหาปัจจัยเพื่อดำรงชีวิต ทำให้การเดินทางกลับบ้านในปีนี้อาจช้าลงกว่าปกติเหมือนทุกปี และฝากความคิดถึงผ่านข้อความและตัวอักษรถึงคนที่รักผ่านภาพถ่ายของช่างภาพ THE STANDARD

 

THE STANDARD ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกคนที่ยังไม่สามารถกลับบ้านได้ในช่วงเวลาปีใหม่ และขอให้ทุกคนที่เดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลเดินทางปลอดภัยทั้งขาไปและขากลับ มีพลังใจพลังกายพร้อมสู้กับปี 2567 ที่กำลังใกล้มาถึง

 

มาร์ค คนขับรถรับจ้างสาธารณะ เขียนข้อความถึงคุณพ่อที่จังหวัดหนองบัวลำภู สาเหตุที่ไม่ได้กลับบ้านเพราะหาเงินเพื่อจะกลับบ้านในช่วงสงกรานต์

 

ใหญ่ พนักงานเติมน้ำมัน เขียนข้อความฝากถึงคุณพ่อที่จังหวัดมหาสารคาม สาเหตุที่ไม่ได้กลับบ้านเพราะเก็บเงินเพื่อลงทะเบียนเรียน

 

ยุ้ย เจ้าหน้าที่งานปลูกเขตหลักสี่ เขียนข้อความฝากถึงคุณแม่ที่จังหวัดพิจิตร สาเหตุที่ไม่ได้กลับบ้านเพราะมีงานที่ต้องรับผิดชอบในช่วงเวลา

 

ปิยวัฒน์ อาสาสมัครกู้ภัย เขียนข้อความฝากถึงคุณยายที่จังหวัดมหาสารคาม สาเหตุที่ไม่ได้กลับบ้านเพราะเข้าเวรป้องกันเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่

 

กั๊ก พ่อครัว เขียนข้อความฝากถึงคุณแม่ที่จังหวัดศรีสะเกษ สาเหตุที่ไม่ได้กลับบ้านเพราะมีงานที่ต้องรับผิดชอบในช่วงเทศกาลปีใหม่

 

ป้อม อาสาจราจร เขียนข้อความฝากถึงคุณแม่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สาเหตุที่ไม่ได้กลับบ้านเพราะเข้าเวรช่วยเหลือประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่

 

อ้อน เจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาดเขตหลักสี่ เขียนข้อความฝากถึงพี่สาวที่จังหวัดพิษณุโลก สาเหตุที่ไม่ได้กลับเพราะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในช่วงเวลาเทศกาล

The post ขอส่งความคิดถึงเดินทางไปถึงบ้าน เมื่อปีใหม่ปีนี้ยังไม่ได้กลับบ้าน appeared first on THE STANDARD.

]]>
BMX คันเก่าแต่คนยังเก๋า ‘น้าหมู’ ชายผู้หลงใหลการถีบเป็นชีวิต https://thestandard.co/bmx-with-namoo/ Wed, 27 Dec 2023 12:00:53 +0000 https://thestandard.co/?p=881773

จักรยานกับเด็กผู้ชาย สิ่งที่เติบโตคู่กันมาตั้งแต่อดีตจน […]

The post BMX คันเก่าแต่คนยังเก๋า ‘น้าหมู’ ชายผู้หลงใหลการถีบเป็นชีวิต appeared first on THE STANDARD.

]]>

จักรยานกับเด็กผู้ชาย สิ่งที่เติบโตคู่กันมาตั้งแต่อดีตจนยุคปัจจุบัน จักรยานสำหรับบางคนอาจเป็นแค่ยานพาหนะที่ใช้แรงคนเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน พาคนจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง แต่สำหรับบางคน จักรยานเป็นเหมือนความฝัน เป็นแรงผลักดันให้ชีวิต จักรยานถูกเปลี่ยนจากยานพาหนะเป็นเครื่องมือสำหรับเชื่อมมิตรภาพ ทักษะทางร่างกาย และอาชีพในอนาคต

 

น้าหมูลอยตัวพร้อมจักรยาน BMX ในอากาศ ที่ BMX PARK ตลาดพลู

 

หมู-ศุภศิลป์ แซ่แต้ ชายวัย 53 ปี คือหนึ่งในผู้ต้องมนตร์สะกดของยานพาหนะ 2 ล้อกว่า 40 ปี ตั้งแต่มือสองข้างได้จับกับแฮนด์ และนั่งลงบนอาน ชีวิตของหมูไม่เคยลงจากจักรยานอีกเลย ในช่วงเวลากลางวัน การขับรถกระป๋องให้บริการผู้คนในละแวกตลาดพลูคืองานหลัก หลังจากว่างเว้นมีเวลาว่าง การขับจักรยาน BMX คือลมหายใจของชายที่หลายคนในวงการจักรยานรู้จักเขาในชื่อ น้าหมู ตลาดพลู

 

น้าหมูเล่น BMX Flatlandโชว์ท่า Balance

 

ศุภศิลป์ แซ่แต้ (คุณพ่อ) และ วรัญญา แซ่แต้ นักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงหญิงทีมชาติไทย

ศุภศิลป์ แซ่แต้ (คุณพ่อ) และ วรัญญา แซ่แต้ นักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงหญิงทีมชาติไทย

 

น้าหมูเล่น BMX Flatland โชว์ท่า Scorpions ที่งานมีตติ้งท่าน้ำนนท์

 

เริ่มต้นในวัยเยาว์ กลุ่มรุ่นพี่ละแวกบ้านรวมตัวกันปั่นจักรยานแบบ Mono Shock จากยืนดูเพราะความชอบ เลยไปขอรุ่นพี่ลองขับ มีโอกาสได้หัดควบคุมรถ ความชอบที่มีก็ทวีคูณขึ้นเต็มหัวใจ ไม่กี่ปีต่อมาภาพของ พีท ทองเจือ พระเอกขวัญใจวัยรุ่นในยุคนั้น ปั่นจักรยาน BMX เหมือนกัน ยิ่งเรียกความสนใจและการอยากครอบครองจักรยานประเภทนี้ขึ้นเป็นหลายเท่า

 

น้าหมูเล่น BMX Flatlandโชว์ท่า Miami ที่งานมีตติ้งท่าน้ำนนท์

 

น้าหมูในบริบทของชายขับรถรับส่งผู้โดยสาร

 

หลังจากคุณแม่พาไปเที่ยวห้างดังย่านฝั่งธนฯ เห็นโชว์จักรยานผาดโผนที่จัดแสดง
นี่คือความฝันแรกของเด็กชายหมูในชั้น ป.5 ฝันกับสิ่งที่เขามองเห็นอยู่ตรงหน้า ฝันอยากมีทีมแสดงเป็นของตัวเอง บันไดจักรยานคือของสิ่งแรกที่เด็กชายหมูซื้อ กว่าอุปกรณ์จะครบจนประกอบได้ทั้งคันพร้อมปั่นใช้เวลาสะสมของไปปีกว่าๆ

 

ส่วนหนึ่งของจักรยาน BMX ของสะสมสุดรักของ น้าหมู ตลาดพลู

 

น้าหมูกับถ้วยรางวัลที่ผ่านมาในชีวิต ประสบการณ์ทั้งหมดพร้อมถ่ายทอดส่งต่อให้กับคนที่สนใจเรียนรู้

 

ก่อนความฝันจะสำเร็จ หมูเริ่มสร้างชื่อด้วยการลงแข่งในรายการต่างๆ ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ อยากเข้าร่วมในทุกสนามแข่งเพื่อให้คนรู้จัก สนามสวนอัมพรคือสนามแรกในความทรงจำ ความตื่นเต้นจากเสียงเชียร์ของคนดู กลิ่นของสนาม บรรยากาศทุกอย่างยังอยู่ในความทรงจำ เนื่องจากกระดานโค้งในสนามแข่งคนละองศากับที่ซ้อม อุปสรรคและความใหม่กับการลงแข่งครั้งแรก หมูทำได้แค่กลับบ้านพร้อมถ้วยรางวัลอันดับ 3 ของรายการ

 

ภาพถ่ายธรรมดาที่อยู่ในความทรงจำ งานแรกของทีมสตาร์ ทีมจักรยานผาดโผนของน้าหมู งานวันเด็กที่สวนสยาม

 

วันงานเด็กที่สวนสยาม ภูเขาความฝันยอดแรกที่หมูและเพื่อนๆ ปีนขึ้นไปถึง การโชว์จักรยานผาดโผนต่อหน้าผู้ชมจำนวนหลายร้อยคน สร้างความกดดันและตื่นเต้นมากกว่าการลงแข่งในสนามเพื่อล่าถ้วยรางวัล เพราะมันคือความฝัน ฝันที่อยากมีทีมโชว์ของตัวเอง 

 

สำหรับหมูมันไม่ใช่เพราะโชคชะตาหรือพรหมลิขิต การมุมานะฝึกซ้อมและการลงแข่งขันทั้งชีวิตเหมือนเพื่อวันนี้วันเดียว สตาร์ คือชื่อทีมจักรยานผาดโผนของหมู ที่มีเพื่อนร่วมทีมอีกเกือบ 10 ชีวิตแบ่งหน้าที่แสดงทักษะวาดลวดลาย เล่นท่าบนพื้น บนกระดานโค้ง กระโดดข้ามคน เวลาเกือบชั่วโมงที่สะกดทุกสายผู้ชม ความรู้สึกของหมูในตอนนั้นเหมือนยืนอยู่บนยอดเขาที่ต้องการพิชิตได้สำเร็จ เสียงปรบมือและเสียงตะโกนชื่นชมเปรียบเหมือนสายลมบางเบาที่ปะทะร่างกายและใบหน้า และยังรู้สึกมาจนถึงทุกวันนี้

 

สมัยก่อนคนเร็วกว่ารถ ส่วนตอนนี้รถเร็วกว่าคน ด้วยอายุและสุขภาพ เราเล่นเท่าที่เราเล่นได้ ไม่ฝืนสังขารแบบมีความสุข

 

กว่า 40 ปี จากเด็กชายหมูกลายเป็นน้าหมู ความหลงใหลไม่ได้ลดน้อยลงไป จักรยานที่มีในครอบครองมากกว่า 100 คัน ถ้วยรางวัลการันตีความสามารถอีกหลายสิบใบ อะไหล่จักรยานหลายร้อยชิ้น ทางจัดวางอย่างเป็นระเบียบและมีเรื่องเล่า ทุกห้องในบ้านล้วนมีจักรยาน และจักรยานทุกคันล้วนมีเรื่องเล่าและความภาคภูมิใจ ทุกวันนี้น้าหมูส่งต่อความภาคภูมิใจด้วยการเทรนเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่สนใจในกีฬา BMX เล่นได้แต่ต้องปลอดภัยด้วย ทุกทักษะ ประสบการณ์ ถ่ายทอดให้น้องๆ ที่สนใจทุกวันเสาร์ ณ ลานกีฬาใต้ BTS ตลาดพลู

 

อะไหล่รถจักรยาน BMX แม้เวลาจะผ่านมาเป็น 10 ปี แต่ทุกชิ้นยังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้เป็นอย่างดี

 

BMX PARK ตลาดพลู

เด็กๆ ที่สนใจในกีฬา BMX รวมตัวกันที่ BMX PARK ตลาดพลู

 

ศุภศิลป์ แซ่แต้ (คุณพ่อ) และ วรัญญา แซ่แต้ นักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงหญิงทีมชาติไทย

ศุภศิลป์ แซ่แต้ (คุณพ่อ) และ วรัญญา แซ่แต้ นักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงหญิงทีมชาติไทย

 

ศุภศิลป์ แซ่แต้ (คุณพ่อ) และ วรัญญา แซ่แต้ นักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงหญิงทีมชาติไทย

สองพ่อลูกนักปั่นคุยกันบริเวณหน้าเนินอุปสรรคก่อนกระโดดข้าม ที่สนาม FBT สุวินทวงศ์

 

น้องมิ้งยกนิ้วโป้งให้กำลังใจคุณพ่อ หลังกระโดดข้ามเนินระหว่างฝึกซ้อม ที่สนาม FBT สุวินทวงศ์

 

ศุภศิลป์ แซ่แต้ (คุณพ่อ) และ วรัญญา แซ่แต้ นักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงหญิงทีมชาติไทย

น้าหมูจอดให้กำลังใจน้องมิ้งระหว่างโดดข้ามเนินระหว่างฝึกซ้อม ที่สนาม FBT สุวินทวงศ์

 

ศุภศิลป์ แซ่แต้ (คุณพ่อ) และ วรัญญา แซ่แต้ นักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงหญิงทีมชาติไทย

สองพ่อลูกนักปั่น น้าหมูกับน้องมิ้งเข้าโค้งพร้อมกันที่ปลายสนาม ที่สนาม FBT สุวินทวงศ์

 

ก่อนเริ่มออกมาเทรนเด็กที่สนใจ จุดเริ่มต้นมาจากลูกสาวสองคน ไม่อยากให้เด็กๆ ติดเกมเลยพาเด็กๆ ไปลองขี่ในสนามจักรยานจริงๆ ลองให้กระโดดเนิน ให้เรียนรู้ทักษะในการควบคุมรถ ก็ไม่คิดว่าลูกจะไม่กลับมาจับเกมอีกเลย ดีใจที่วันนี้เห็นน้องได้รับใช้ประเทศในฐานะนักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงหญิงทีมชาติไทย มีโอกาสได้ลงแข่งในเทศกาลกีฬาใหญ่ๆ อย่างโอลิมปิกปี 2020 ความภูมิใจของคนเป็นพ่อที่รักจักรยาน และมีลูกสาวปั่นจักรยาน เราก็อยากส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับคนที่คิดดีและมีความฝันเหมือนกับเรา

 

น้าหมูลอยตัวพร้อมจักรยาน BMX ในอากาศ ที่ BMX PARK ตลาดพลู

 


PHOTO STORY


 

The post BMX คันเก่าแต่คนยังเก๋า ‘น้าหมู’ ชายผู้หลงใหลการถีบเป็นชีวิต appeared first on THE STANDARD.

]]>
กรุงเทพฯ กับปัญหาเก่าที่ยังไม่พร้อมก้าวข้ามปีใหม่ https://thestandard.co/bangkok-problems-2023/ Mon, 25 Dec 2023 13:30:43 +0000 https://thestandard.co/?p=880787 bangkok traffic

กรุงเทพมหานคร เมืองสวรรค์ ติดอันดับ 4 เมืองท่องเที่ยวที […]

The post กรุงเทพฯ กับปัญหาเก่าที่ยังไม่พร้อมก้าวข้ามปีใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
bangkok traffic

กรุงเทพมหานคร เมืองสวรรค์ ติดอันดับ 4 เมืองท่องเที่ยวที่ถูกค้นหามากที่สุดในโลกปี 2566 และอันดับ 1 ของเอเชีย เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก 

 

กรุงเทพมหานครถูกสถาปนาเป็นเมืองหลวงเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2325 มีผู้ว่าราชการมาแล้วทั้งสิ้น 16 คน

 

แม้ยุคสมัยและกาลเวลาจะผ่านไปถึง 240 ปี แต่เมืองใหญ่เมืองนี้ยังมีปัญหาคุณภาพชีวิตให้รอแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องสาธารณูปโภคที่เป็นปัญหาเรื้อรัง จนทำให้สโลแกน ‘ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว’ กลายเป็น ‘ชีวิตที่ต้องเสี่ยงทายและคอยลุ้นว่าวันนี้จะผ่านไปได้ยังไงให้ลงตัว’

 

THE STANDARD สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม ก่อนก้าวข้ามปี 2023 อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาของ ‘กรุงเทพฯ ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว’ ในอนาคต

 

กรุงเทพฯ ในชั่วโมงเร่งด่วน การเดินทางในระยะทาง 10 กิโลเมตร อาจใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมง

 

ปี 2016 กรุงเทพฯ เคยถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีรถติดมากที่สุดลำดับที่ 12 ของโลก ประชาชนเสียเวลาอยู่บนท้องถนนเฉลี่ย 64.1 ชั่วโมงต่อปี ผ่านมา 7 ปี ปัญหานี้ก็ยังคงอยู่ โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ด้วยสภาพการจราจรที่ไม่เอื้ออำนวยให้ชีวิตลงตัวเลย การเดินทาง 10 กิโลเมตรในกรุงเทพฯ อาจต้องเผื่อเวลาอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงสำหรับการเดินทาง ไม่ต่างจากการใช้เวลาเดินทางข้ามจังหวัด

 

ผู้ขับขี่ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย บริเวณแยกห้วยขวาง 

 

ปัญหาความปลอดภัยและวินัยจราจรในปี 2561 กองบังคับการตำรวจจราจรยกให้กรุงเทพฯ เป็นต้นแบบสวมหมวกกันน็อก 100% ปัจจุบันการขับรถผิดกฎจราจรและการขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อกยังคงมีให้เห็นเป็นเรื่องปกติ 

 

แม้ว่ากฎหมายจราจรใหม่ปี 2565 จะมีอัตราโทษมากขึ้น ในข้อหาผู้ขับขี่ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย จากเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท อัตราโทษใหม่ปรับไม่เกิน 2,000 บาท และถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ 1 คะแนน 

 

ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในปี 2566 (1 มกราคม – 11 เมษายน 2566) มีจำนวนสูงถึง 4,478 คน ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนร้อยละ 79 เป็นผู้ขับขี่หรือผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ตามสถิติ ทุก 1 ชั่วโมงจะมีผู้เสียชีวิต 1 คนจากการขับขี่จักรยานยนต์ ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งยังไม่สามารถสร้างวินัยจราจรหรือความตระหนักถึงความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่จักรยานยนต์บางส่วนได้

 

สายสื่อสารที่ยุ่งเหยิงย่านอโศก

 

ปัญหาสายสื่อสารสุดยุ่งเหยิง ใครจะคิดว่าย่านธุรกิจแหล่งทำเงินที่มีตึกสูงระฟ้าจะมีวิวเป็นสายสื่อสารอีนุงตุงนังไปมาจนแทบจะบังแดดได้ แถมยังบังป้ายหน้าร้านค้าเกือบมิดเหมือนต้องการจะสื่อว่าอยู่มานานแล้ว อยู่มานานกว่า แม้จะมีนโยบายนำสายสื่อสารลงดินมาตั้งแต่ปี 2527 ซึ่งเริ่มทำจริงจังเมื่อปี 2560 ปัจจุบัน ผ่านมา 6 ปี ดูเหมือนความพยายามจะให้คนเมืองได้เห็นวิวท้องฟ้าไร้สายสื่อสารคงจะยังอีกยาวไกล ไกลเหมือนสายสื่อสารที่หาจุดเริ่มต้นเอาลงดินไม่เจอ

 

ป้ายรถเมล์ ทางขึ้นลงรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน พื้นที่กลุ่มผู้ขายของ หาบเร่ หรือรถเข็นต้องการพื้นที่ในการประกอบอาชีพ 

 

กรุงเทพมหานคร ปัญหาฟุตปาธ ทางเท้าที่ไม่ได้มีเฉพาะทางเดิน ร้านค้าหาบเร่แผงลอยบนพื้นที่ของคนเดินเท้า การจัดสรรพื้นที่ให้พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการตั้งร้านในจุดที่ผู้คนสัญจรไปมา ปัญหาที่ยังหาวิธีแก้ไขแบบชัดเจนไม่ได้ จนสร้างภาพจำเสมือนเนื้อคู่ หากนึกถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจก็ต้องนึกถึงพ่อค้าแม่ค้าบนบาทวิถี 

 

ป้ายห้ามทิ้งขยะของสำนักงานเขตจตุจักรถูกล้อมด้วยกองขยะจำนวนมาก

 

อีกหนึ่งปัญหาที่เชื่อมโยงกันกับปัญหาทางเท้า เรื่องขยะ ภาพที่ใครๆ ก็สามารถพบเห็นได้หากใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ยิ่งเป็นแหล่งที่มีผู้อาศัยจำนวนมากอาจตกเป็นผู้ที่ต้องประสบปัญหาด้วยตัวเอง ถึงแม้มีป้ายห้ามทิ้งขยะ และไม่ใช่จุดทิ้งขยะ ขยะกองพะเนินสูงข้างทาง ริมฟุตปาธ หรือเสาไฟฟ้า ถูกกองรวมกันไว้เหมือนอนุสาวรีย์ ด้วยปัจจัยทางสังคม เมื่อจำนวนผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ขยะก็มากขึ้น แต่บุคลากรและพื้นที่ในการจัดการเรื่องขยะมีเท่าเดิม

 

PM2.5 ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่สร้างปัญหาใหญ่ให้หลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร

 

PM2.5 ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ปัญหาใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ด้วยความหนาแน่นของประชากรที่เพิ่มขึ้น การจราจรคับคั่ง ฝุ่นผงจากการก่อสร้าง เขม่าควันจากการเผาพื้นที่ทางการเกษตรและไฟป่า อีกทั้งปัจจุบันกรุงเทพฯ ประสบปัญหาลมพัดผ่านได้ยาก อากาศหยุดนิ่ง เพราะมีตึกสูงปิดกั้นทางลม รวมถึงฝุ่นจากการก่อสร้างที่มีอยู่แทบทุกพื้นที่ มาเป็นปัจจัยเกื้อหนุนทำให้คุณภาพอากาศเลวร้ายลง เป็นภัยต่อระบบทางเดินหายใจ ปอด หัวใจ และสมอง ซึ่งยังไม่มีมาตรการในการควบคุมและแก้ไขได้ชัดเจน และเป็นปัญหาที่ผู้คนทั่วโลกต้องเผชิญร่วมกัน

 

คนไร้บ้าน มีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในทุกปี ปัญหาที่รอคอยการแก้ไข

 

ปิดท้ายด้วยปัญหาของคนไร้บ้าน จากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันและโรคระบาดโควิดที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดปัญหาคนว่างงาน หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้หลังเกษียณ การขาดโอกาสในการสร้างรายได้ เป็นจุดเริ่มต้นของคนไร้บ้าน ปัญหาที่ดูเหมือนจะมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นอีกปัญหาที่รอคอยการแก้ไข

 

คนไร้บ้าน ร้านอาหารบนทางเท้า และผู้ขับขี่ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย 

The post กรุงเทพฯ กับปัญหาเก่าที่ยังไม่พร้อมก้าวข้ามปีใหม่ appeared first on THE STANDARD.

]]>
‘กระทง’ เศษซากขยะในคืนวันเพ็ญ https://thestandard.co/krathong-garbage-on-the-night-of-the-full-moon/ Mon, 04 Dec 2023 07:53:27 +0000 https://thestandard.co/?p=873205

น่าจะลอยออกทะเลหรือไม่ก็เป็นอาหารของสัตว์น้ำ เป็นขยะในแ […]

The post ‘กระทง’ เศษซากขยะในคืนวันเพ็ญ appeared first on THE STANDARD.

]]>

น่าจะลอยออกทะเลหรือไม่ก็เป็นอาหารของสัตว์น้ำ เป็นขยะในแม่น้ำลำคลอง หลายคำตอบของประชาชนในค่ำคืนวันเพ็ญ จากประโยคคำถามที่ว่า รู้ไหมกระทงที่เราลอยลงในแม่น้ำเพื่อขอขมาและขอพรพระแม่คงคา สุดท้ายแล้วจะลอยไปอยู่ที่ไหน

 

15 ค่ำ เดือน 12 ของปี 2566 หลังคืนลอยกระทง ขยะที่ผลิตจากวัสดุหลากหลายชนิดทั้งวัสดุธรรมชาติ โฟม ขนมปัง และวัสดุที่หลายคนคิดว่าจะย่อยสลายเองตามธรรมชาติ กลายเป็นผู้ร้ายในฐานะ ‘ขยะและมลภาวะทางน้ำ’ ในทุกปีๆ ของเทศกาลลอยกระทง

 

แม้ปีนี้กระทงจากโฟมจะน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากการรณรงค์ลดการใช้วัสดุที่ไม่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจสิ่งแวดล้อม แต่ ‘ขยะก็คือขยะ’ ที่ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรในการจัดเก็บ นำเข้าสู่กระบวนคัดแยกที่ถูกต้อง และใช้เวลาในการย่อยสลาย

 

กรุงเทพมหานครจัดกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 168 คน พร้อมเรือเก็บขยะ 31 ลำ ติดตั้งไฟส่องสว่างทุกลำ, เรือขนถ่ายและลำเลียงวัชพืช 2 ลำ, เรือเก็บขนและลำเลียงวัชพืช 1 ลำ, เรือกวาดเก็บวัชพืช 1 ลำ, เรือตรวจการณ์ 2 ลำ, รถตรวจการณ์ 5 คัน และรถบรรทุกเทท้าย 8 คัน เริ่มจัดเก็บกระทงตั้งแต่เวลา 20.00 น. คืนวันลอยกระทง จนถึงเวลา 05.00 น. ของย่ำรุ่งวันที่ 28 พฤศจิกายน ป้องกันขยะกระทงหลุดลอยออกทะเล หรือจมลงสู่ใต้น้ำ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศแหล่งน้ำและสัตว์น้ำในระยะยาว

 

ในเทศกาลลอยกระทงปีนี้ THE STANDARD ติดตามการเดินทางของกระทงตั้งแต่ถูกลอยลงแม่น้ำ จนถึงโรงคัดแยกขยะ กระทงและคำขอขมาถูกจัดการด้วยกระบวนการไหน ‘สวนเบญจกิติ’ คือพื้นที่สาธารณะใจกลางเมืองขนาดใหญ่ และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งอนุญาตให้ประชาชนสามารถนำกระทงมาลอยลงแหล่งน้ำได้ และเนื่องจากเป็นแหล่งน้ำระบบปิด จึงต้องมีวิธีในการจัดการชัดเจนมากกว่าแหล่งน้ำธรรมชาติ จากเทศกาลลอยกระทงสองปีที่ผ่านมา ผลกระทบจากขยะตกค้างส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และส่งผลให้สัตว์น้ำเสียชีวิต

 

หลังจากกระทงใบสุดท้ายของค่ำคืนถูกปล่อยลงแหล่งน้ำ เจ้าหน้าที่ของสวนเบญจกิติ และเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครกว่า 100 ชีวิต รถขยะ 4 คัน และเรือ 4 ลำ แข่งกับเวลา ขยะที่อยู่ในแหล่งน้ำต้องถูกนำขึ้นให้เร็วที่สุด เพื่อเริ่มกระบวนการบำบัดน้ำในขั้นตอนต่อไป

 

กระทงจากวัสดุธรรมชาติและกระทงจากโฟมถูกนำขึ้นจากแหล่งน้ำเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหมือนทุกๆ ปี เหลือทิ้งไว้เพียงสิ่งที่ไม่สามารถเก็บกู้ขึ้นมาได้เหมือนขยะทั่วไปอย่างคราบน้ำมัน เศษขนมปัง และเศษวัสดุ เช่น เข็มกลัดกระทง ลูกแม็ก ที่อาจหลุดไปในช่วงกระทงลอยอยู่ในแหล่งน้ำ

 

จากวัสดุธรรมชาติที่ใครหลายคนเข้าใจว่ากลายเป็นอาหารของสัตว์น้ำ กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาของระบบนิเวศที่ต้องใช้งบประมาณในการจัดการ จากประเพณีเพื่อการขอขมาตามความเชื่อ กลายเป็นประเพณีที่ถูกตั้งคำถามถึงการจัดการขยะจำนวนมหาศาลภายในหนึ่งคืน 

 

กทม. สรุปยอดขยะกระทงปี 2566 เก็บได้ 639,828 ใบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.74 ปี 2565 กทม. จัดเก็บกระทงในพื้นที่ กทม. ได้จำนวนทั้งสิ้น 572,602 ใบ เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่จัดเก็บได้ 403,203 ใบ เพิ่มขึ้นจำนวน 169,367 ใบ คิดเป็นร้อยละ 42 โดยประเภทที่จัดเก็บได้ทำจากวัสดุธรรมชาติ 548,086 ใบ หรือร้อยละ 95.7 และทำจากโฟม 24,516 ใบ หรือร้อยละ 4.3 อย่างไรก็ตาม กระทงจากวัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนมีสัดส่วนลดลงจากร้อยละ 96.5 เป็น 95.7 ส่วนสัดส่วนของโฟมเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.5 เป็น 4.3

 

ข้อมูลจาก www.bangkok.go.th และ www.thestandard.co/bangkok-collect-krathong-garbage

 

สำหรับกระทงที่จัดเก็บได้จะถูกนำไปคัดแยกและส่งไปกำจัดที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วยศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหม และศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ในส่วนของกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายได้จะนำเข้าสู่โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์หนองแขม ส่วนกระทงโฟมจะนำเข้าสู่กระบวนการฝังกลบต่อไป

 

ถึงแม้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติจะมีกระบวนการในการย่อยสลายได้เอง และบางส่วนถูกส่งไปช่วยย่อยยังโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ในทุกๆ ปีเราจะเห็นข้อมูลการจัดการขยะจากกระทงเหมือนเดิม ต่างกันเพียงจำนวนขยะที่เพิ่มมากขึ้น ถ้าพระแม่คงคาขอพรคืนได้ คำอธิษฐานข้อเดียวที่อยากขอคงเป็นการจัดการขยะจากกระทงไม่ให้เพิ่มขึ้นในแม่น้ำได้อย่างไรในปีหน้า

 

กระทงโฟมที่ถูกคัดแยก และนำไปยังศูนย์กำจัดมูลฝอย 

กระทงโฟมที่ถูกคัดแยก และนำไปยังศูนย์กำจัดมูลฝอย 

 

รถขนขยะกระทงในเขตคลองเตย มุ่งหน้าสู่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ในคืนวันลอยกระทง

รถขนขยะกระทงในเขตคลองเตย มุ่งหน้าสู่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ในคืนวันลอยกระทง

 

รถขนขยะกระทงคันแรกที่มาถึงศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ไม่รู้ว่าจะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับขยะกระทงที่กำลังจะตามมาหรือเปล่าสำหรับคืนนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยให้ข้อมูล

 

เจ้าหน้าที่ประจำสวนเบญจกิติเร่งนำขยะจากกระทงขึ้นผิวน้ำ เพื่อเริ่มขั้นตอนการบำบัดน้ำ

เจ้าหน้าที่ประจำสวนเบญจกิติเร่งนำขยะจากกระทงขึ้นผิวน้ำ เพื่อเริ่มขั้นตอนการบำบัดน้ำ

 

เจ้าหน้าที่ประจำสวนเบญจกิติพายเรือเก็บกระทง เพื่อเริ่มขั้นตอนการบำบัดน้ำ

เจ้าหน้าที่ประจำสวนเบญจกิติพายเรือเก็บกระทง เพื่อเริ่มขั้นตอนการบำบัดน้ำ

 

สีของดอกไม้ที่ไม่ได้ทำจากวัสดุธรรมชาติบนขยะกระทง เป็นอีกหนึ่งปัญหาตกค้างในแม่น้ำที่มีผลต่อระบบนิเวศ

สีของดอกไม้ที่ไม่ได้ทำจากวัสดุธรรมชาติบนขยะกระทง เป็นอีกหนึ่งปัญหาตกค้างในแม่น้ำที่มีผลต่อระบบนิเวศ

 

เจ้าหน้าที่ประจำสวนเบญจกิติที่อยู่บนเรือจะเร่งตักขยะกระทงประเภทขนมปัง หรือวัสดุที่ย่อยสลายง่าย ขึ้นจากแหล่งน้ำก่อน เพื่อลดการตกค้างและปัญหาน้ำเน่าเสีย
เจ้าหน้าที่ประจำสวนเบญจกิติที่อยู่บนเรือจะเร่งตักขยะกระทงประเภทขนมปัง หรือวัสดุที่ย่อยสลายง่าย ขึ้นจากแหล่งน้ำก่อน เพื่อลดการตกค้างและปัญหาน้ำเน่าเสีย

 

เศษขนมปังที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ สำหรับแหล่งน้ำระบบปิดนี่คือปัญหาใหญ่ที่ก่อให้เกิดภาวะน้ำเน่าเสีย และทำให้สัตว์น้ำเสียชีวิต

เศษขนมปังที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ สำหรับแหล่งน้ำระบบปิดนี่คือปัญหาใหญ่ที่ก่อให้เกิดภาวะน้ำเน่าเสีย และทำให้สัตว์น้ำเสียชีวิต

 

เจ้าหน้าที่ กทม. และสวนเบญจกิติเร่งตักขยะกระทงขึ้นผิวน้ำ เพื่อส่งต่อไปยังโรงงานกำจัดขยะ

เจ้าหน้าที่ กทม. และสวนเบญจกิติเร่งตักขยะกระทงขึ้นผิวน้ำ เพื่อส่งต่อไปยังโรงงานกำจัดขยะ

 

ขยะกระทงจากโฟมถูกคัดแยกเพื่อง่ายต่อการจัดการในกระบวนการต่อไป

ขยะกระทงจากโฟมถูกคัดแยกเพื่อง่ายต่อการจัดการในกระบวนการต่อไป

 

แม่ค้าขายกระทงบริเวณสะพานพระพุทธยอดฟ้า

แม่ค้าขายกระทงบริเวณสะพานพระพุทธยอดฟ้าบอกว่า ปีนี้เงียบกว่าปีที่ผ่านมา คนมาลอยกระทงน้อยมาก ที่มาส่วนใหญ่ก็นำกระทงมาเอง

 

กระทงหลากสีสัน

กระทงหลากสีสันรอลูกค้ามาซื้อเพื่อนำไปอธิษฐานและขอขมาพระแม่คงคา

 

กระทงตุ๊กตาปลาฉลาม

กระทงตุ๊กตาปลาฉลาม การย่อยสลายอาจใช้เวลานานเป็นร้อยปี เนื่องจากไม่ใช่วัสดุที่ย่อยสลายในน้ำได้ตามธรรมชาติ

 

คำอธิษฐานและคำขอขมาพระแม่คงคาในวันลอยกระทง วัฒนธรรมที่ส่งต่อจากอดีตสู่ปัจจุบัน

 

กระทงจากวัสดุธรรมชาติในคืนวันลอยกระทง ปี 2566

 

กระทงจากวัสดุธรรมชาติถูกทำด้วยความประณีต

กระทงจากวัสดุธรรมชาติถูกทำด้วยความประณีต เขาทำมันด้วยความตั้งใจทุกๆ ปี เพื่อมาอธิษฐานขอพร และขอขมาที่เคยทิ้งสิ่งสกปรกลงในแม่น้ำ หรือล่วงเกินสายน้ำ

 

คำอธิษฐาน คำขอขมาจากใจถึงพระแม่คงคา ฝากไว้ในกระทงก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำ

The post ‘กระทง’ เศษซากขยะในคืนวันเพ็ญ appeared first on THE STANDARD.

]]>
เก่าแก่กว่า 200 ปี ประเพณีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ แห่งเดียวในกรุงเทพมหานคร ประเพณีชักพระทางน้ำ วัดนางชี https://thestandard.co/buddhas-relics-only-place-in-bangkok/ Thu, 30 Nov 2023 00:27:11 +0000 https://thestandard.co/?p=871641

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) พุทธศาสนิกชน ร่วมจัดงานงานประเพณี […]

The post เก่าแก่กว่า 200 ปี ประเพณีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ แห่งเดียวในกรุงเทพมหานคร ประเพณีชักพระทางน้ำ วัดนางชี appeared first on THE STANDARD.

]]>

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) พุทธศาสนิกชน ร่วมจัดงานงานประเพณีชักพระ อัญเชิญ ‘พระบรมสารีริกธาตุ’ ที่วัดนางชี เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เพื่อสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวฝั่งธนบุรีได้ถือปฏิบัติ สืบเนื่องกันมาเป็นเวลานาน

 

สำหรับปีนี้กองทัพเรือได้รับการสนับสนุนขบวนแห่เรือ เพื่อร่วมสืบสานประเพณีให้อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป

 

ขณะที่ขบวนเรือ ออกจากวัดนางชี ประมาณเวลา 08.00 น ผ่านวัดปากน้ำภาษีเจริญ วัดนวลนรดิศ วัดกำแพงบางจาก ตลาดน้ำคลองบางหลวง วัดหนัง สี่แยกคลองมอญ คลองบางขุนศรี สะพานวัดแก้ว วัดป่าเชิงเลน วัดเรไร วัดช่างเหล็ก สำนักงานเขตตลิ่งชัน วัดตลิ่งชัน ออกประตูน้ำคลองชักพระ ผ่านวัดขี้เหล็ก วัดนายโรง ออกแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านโรงพยาาลศิริราช ผ่านวัดระฆัง วัดโมลี วัดอรุณราชวราราม เลี้ยวขวา เข้าคลองบางกอกใหญ่ ผ่านวัดอินทาราม ตลาดพลู ตามลำดับ

 

สำหรับกิจกรรมนี้ ทางวัดได้เปิดให้ประชาชนสักการะบูชา พระบรมสารีริกธาตุ ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 18.00 น. โดยพระสงฆ์ 108 รูป จะเริ่มพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร เจริญสมาธิภาวนาถวายเป็นพุทธบูชา และอัญเชิญเสด็จพระบรมสารีริกธาตุสู่ที่ประดิษฐานเดิม ในเวลา 19.00 น.

 

The post เก่าแก่กว่า 200 ปี ประเพณีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ แห่งเดียวในกรุงเทพมหานคร ประเพณีชักพระทางน้ำ วัดนางชี appeared first on THE STANDARD.

]]>
คุณป้า 5 ทุ่ม แก้หิวยามดึก ตำนานก๋วยเตี๋ยวแห่งงามวงศ์วาน https://thestandard.co/five-pm-ngamwongwan-road-noodle-store/ Tue, 28 Nov 2023 08:42:09 +0000 https://thestandard.co/?p=870787 ร้านก๋วยเตี๋ยวป้า 5 ทุ่ม

งามวงศ์วาน ถนนที่มีระยะทางสั้นเพียงไม่กี่กิโลเมตร เริ่ม […]

The post คุณป้า 5 ทุ่ม แก้หิวยามดึก ตำนานก๋วยเตี๋ยวแห่งงามวงศ์วาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ร้านก๋วยเตี๋ยวป้า 5 ทุ่ม

งามวงศ์วาน ถนนที่มีระยะทางสั้นเพียงไม่กี่กิโลเมตร เริ่มต้นจากแยกแคราย สิ้นสุดลงที่แยกเกษตร เป็นอีกหนึ่งเส้นทางสำคัญที่ใช้เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลักและเส้นรอง ตลอดช่วงเช้าจนถึงเย็นถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย และยังเป็นถนนที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย

 

เวลา 23.00 น. ถนนงามวงศ์วานกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ผู้คนมากมายหลากหลายอาชีพเข้าคิวรอต่อแถว หลายคนมาเพราะคำร่ำลือของรสชาติ บางคนมาเพราะกระแสจากโซเชียลมีเดีย ขณะที่บางคนมาเพราะความคุ้นเคย เป็นลูกค้ามานานหลายปี ร้านก๋วยเตี๋ยวธรรมดาของคุณป้า 5 ทุ่ม ได้เปลี่ยนถนนเศรษฐกิจแห่งนี้ให้เป็นถนนของคนหิวยามค่ำคืน

 

การให้บริการในช่วงเวลาวิกาลอาจเป็นตัวกำหนดกลุ่มลูกค้าและยอดขาย ขณะที่ร้านก๋วยเตี๋ยวป้า 5 ทุ่ม หน้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน มีลูกค้ามาเข้าคิวรอแถวยาวเหมือนเทศกาลแจกของฟรีตั้งแต่ร้านคุณป้า 5 ทุ่ม ยังไม่ตั้ง เป็นภาพการันตีความนิยมของร้านก๋วยเตี๋ยวที่ไม่ธรรมดาร้านนี้

 

ป้าแตนเล่าว่า 10 ปีก่อนในทุกๆ วันจะเตรียมเส้นบะหมี่วันละ 1.5 กิโลกรัม ส่วนเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่อย่างละ 1 กิโลกรัม ขายตั้งแต่เวลา 16.00-02.30 น. ตระเวนขายตั้งแต่ตลาดพงษ์เพชร เรื่อยมาจบหน้าป้ายรถเมล์เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน บางวันก็ขายไม่หมด เพราะด้วยภายนอกที่ดูเป็นก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆ ธรรมดา ทำให้คนไม่ค่อยสนใจ

 

กระทั่งกลุ่มรถรับจ้างสาธารณะที่มารอรับผู้โดยสาร และคนที่รอรถโดยสารประจำทางยามค่ำคืนได้ลองชิม ต่างก็ติดใจในรสชาติกลมกล่อมของน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวเอง กระเทียมเจียวกากหมูที่ตั้งใจทำ บวกกับหมูแดงย่างถ่าน และที่สิ่งชูโรงหลักขาดไม่ได้คือเส้นบะหมี่ที่เหนียวนุ่ม จนพูดกันปากต่อปาก จากร้านก๋วยเตี๋ยวธรรมดา ทำให้ทุกวันนี้ป้าแตนลวกเส้นจนแทบไม่มีเวลาได้พัก

 

จากเส้นบะหมี่กิโลกรัมครึ่งที่ขายแทบไม่หมด ทุกวันนี้เตรียมไว้วันละเกือบ 10 กิโลกรัมยังแทบไม่พอขาย ส่วนเส้นอื่นๆ ก็ต้องเตรียมเพิ่มไว้อีกกว่า 2 เท่าตัว น้ำซุปเติมระหว่างขายอีกวันละ 5 ถุงใหญ่ เพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น

 

นาฬิกาบอกเวลา 23.00 น. เป็นที่มาของก๋วยเตี๋ยวคุณป้า 5 ทุ่ม เมื่อรถก๋วยเตี๋ยวของป้าแตนมาจอด ลูกค้ายืนต่อคิวยาวไปจนเกือบ 02.00 น. และอีกหนึ่งความน่ารักของก๋วยเตี๋ยวร้านคุณป้า 5 ทุ่ม คือ ลูกค้าที่มาใช้บริการ เมื่อกินเสร็จทุกคนจะต้องเก็บจาน คัดแยกเศษอาหารมาทิ้งในจุดที่เตรียมไว้ให้ เพื่อความเป็นระเบียบและช่วยกันรักษาความสะอาดให้สถานที่

 

เสาไฟฟ้าที่ตั้งห่างจากรถขายก๋วยเตี๋ยวเป็นเหมือนจุดวัดความรู้สึกของป้าแตน หากหันไปมองแถวของลูกค้าแล้วหางแถวยาวเกินเสาไฟฟ้าจะทำให้ป้าแตนกดดัน เกรงใจลูกค้าที่ต้องรอนาน ขณะที่ป้าแตนจะมีคุณลุงที่เป็นคู่ชีวิตคอยรับออร์เดอร์และเป็นคนคุยกับลูกค้าแทน เพื่อลดความกดดัน และให้ลูกค้าสบายใจที่ต้องรอนาน

 

มนตร์เสน่ห์ของก๋วยเตี๋ยวป้า 5 ทุ่ม ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 40 บาท และรสชาติรวมถึงคุณภาพของอาหาร ที่เรียกร้องเชิญชวนให้กลุ่มลูกค้ามายืนเข้าแถวรอตั้งแต่ร้านยังไม่เริ่ม บางคนเดินทางมาไกลหลายกิโลเพื่อกินก๋วยเตี๋ยวเพียงหนึ่งชาม บางคนกินที่ร้านป้าแตนติดต่อกันมาเป็นเวลาเกิน 10 ปี บวกกับน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มของป้า นี่คือหมัดเด็ดมัดใจคนหิวยามดึก

 

หมายเหตุ: THE STANDARD ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยใบหน้าจากทุกคนในภาพแล้ว

 

เก้าอี้พลาสติกถูกนำมาประยุกต์ให้เป็นโต๊ะสำหรับกินอาหาร

 

บะหมี่ไข่เส้นนุ่ม น้ำซุปรสกลมกล่อม ลูกค้าที่เคยใช้บริการแนะนำว่าห้ามพลาดหากมีโอกาสได้มาชิม

 

ลูกค้าหลายท่านอดใจไม่ได้ที่จะบันทึกภาพร้านก๋วยเตี๋ยวในตำนาน ส่งต่อและเชิญชวนผู้คนในโซเชียลให้มาลองชิม

 

ลูกค้าหลายคนไลฟ์บอกต่อบรรยากาศตั้งแต่รอต่อคิวจนถึงช่วงเวลาของความอร่อย 

 

เสน่ห์ของอาหารริมทางยามค่ำคืน เชิญชวนให้นักชิมให้มาชื่นชมรสชาติและบรรยากาศ อีกรูปแบบหนึ่งของวัฒนธรรมการกินของประเทศไทย

 

มือที่ไม่เคยว่างของป้าแตน รีบเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องยืนรอนาน

 

สติกเกอร์คุณป้า 5 ทุ่ม บนตู้กระจกที่อัดแน่นไปด้วยหมูแดง ลูกชิ้น และเส้นบะหมี่ คือฉายาที่กลุ่มลูกค้าตั้งให้ป้าแตน เพราะเริ่มให้บริการในเวลา 5 ทุ่มตรง

 

เวลา 23.00 น. ป้ายรถประจำทางหน้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน จุดนัดพบระหว่างป้าแตนกับลูกค้า

 

ป้าแตน เจ้าของฉายา คุณป้า 5 ทุ่ม กับสีหน้านิ่งเฉยที่ซ่อนความกังวลและเกรงใจ เพราะกลัวลูกค้ารอนาน 

 

ลูกค้าที่ใช้บริการมีทั้งนั่งกินที่ร้านและสั่งกลับบ้าน

 

ลูกค้าจากรังสิตเดินทางมาอุดหนุนป้าแตนเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง กินที่ไหนก็ไม่ถูกใจเท่าร้านป้าแตน 

 

ลูกค้ากินอาหารจากฝีมือของป้าแตนอย่างมีอรรรถรส จากการเฝ้าสังเกตไม่เห็นใครคุยกันระหว่างกิน

 

วัตถุดิบเริ่มลดปริมาณลง ไม่รู้ว่าจะเพียงพอสำหรับลูกค้าในค่ำคืนนี้หรือเปล่า เป็นสิ่งหนึ่งที่ป้าแตนกังวล ลูกค้าบางคนเดินทางมาไกล ไม่อยากให้ผิดหวัง

 

เวลา 01.45 น. ลูกค้าของป้าแตนเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แต่ปริมาณวัตถุดิบลดลงอย่างเห็นได้ชัด 

 

ความผูกพันระหว่างคนกับอาหาร จนสร้างวัฒนธรรมร้านป้าร้านลุง ลูกค้าบางท่านกินก๋วยเตี๋ยวร้านป้าแตนตั้งแต่สมัยยังศึกษาอยู่มัธยมต้น ปัจจุบันเข้าสู่วัยทำงานก็ยังเลือกที่จะมากินก๋วยเตี๋ยวร้านป้าแตนเหมือนเดิม

 

ลูกค้าที่มาใช้บริการ เมื่อกินเสร็จทุกคนจะช่วยคัดแยกเศษอาหาร เพื่อความเป็นระเบียบและช่วยกันรักษาความสะอาดให้สถานที่ อีกหนึ่งความน่ารักระหว่างลูกค้ากับป้าแตนที่ทำให้กันโดยไม่ต้องร้องขอ

 

รอยยิ้มแรกของป้าแตนก่อนปิดร้าน คนที่มาได้กินอาหารอย่างมีความสุข ป้าแตนก็มีความสุข

 

เก้าอี้พลาสติก อุปกรณ์ประกอบการกินอาหารร้านคุณป้า 5 ทุ่ม

 

ความกังวลใจของป้าแตนกับวัตถุดิบชุดสุดท้ายของวันนี้ที่น่าจะไม่เพียงพอกับลูกค้าที่ยืนรอต่อคิว

The post คุณป้า 5 ทุ่ม แก้หิวยามดึก ตำนานก๋วยเตี๋ยวแห่งงามวงศ์วาน appeared first on THE STANDARD.

]]>
ปิดตำนานทำเลเก่า 2 ร้านดังเจริญกรุง คั้นกี่น้ำเต้าทอง-ลอดช่องสิงคโปร์ https://thestandard.co/2-famous-shops-in-charoen-krung/ Tue, 28 Nov 2023 01:57:47 +0000 https://thestandard.co/?p=870585

เรียกเสียงฮือฮาจากนักชิมทั้งสายขมและสายหวานได้ไม่น้อย ห […]

The post ปิดตำนานทำเลเก่า 2 ร้านดังเจริญกรุง คั้นกี่น้ำเต้าทอง-ลอดช่องสิงคโปร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>

เรียกเสียงฮือฮาจากนักชิมทั้งสายขมและสายหวานได้ไม่น้อย หลังจาก 2 ร้านดังแยกหมอมี ย่านเยาวราช ประกาศปิดร้านที่เปิดให้บริการมานานกว่า 122 ปี ร้านคั้นกี่น้ำเต้าทอง ขวัญใจสายขมริมถนนเจริญกรุง และร้านสิงคโปร์โภชนา ขวัญใจสายหวาน ที่เสิร์ฟความหวานด้วยขนมไทยชื่อต่างประเทศอย่างลอดช่องสิงคโปร์ หลังเปิดให้บริการมานานกว่า 80 ปี

 

ลูกค้าร้านลอดช่องสิงคโปร์ถ่ายภาพใบประกาศย้ายร้านบริเวณหน้าร้านสิงคโปร์โภชนา

 

ร้านน้ำเต้าทอง หรือซังโฮ่วโล้วเหลี่ยงเต๊ เปิดบริการมาอย่างยาวนานกว่า 122 ปี ตั้งแต่ปี 2444 ในนามร้านขายน้ำขมและน้ำหวานยี่ห้อ ‘น้ำเต้าทอง ซังโฮ่วโล้วเหลี่ยงเต๊’ สินค้าขึ้นชื่อ มีตั้งแต่ยาขมชนิดต้ม ยาขมชนิดชง ยาหวานชนิดชง น้ำสมุนไพร และเครื่องดื่มสมุนไพรชนิดชงละลาย 

 

พระเอกของร้านถ้าไม่พูดถึงคงไม่ได้ สำหรับยาน้ำขมที่มีความขมระดับขมปี๋ บางท่านเวลาจะดื่มต้องดื่มน้ำเก๊กฮวยหรือน้ำที่มีรสหวานเพื่อเจือจาง บางท่านใช้วิธีอมบ๊วยเค็มหลังจากการดื่ม เพื่อให้ดื่มสมุนไพรน้ำขมได้ง่ายที่สุด ด้วยสรรพคุณปรับสมดุลร่างกาย แก้อาการร้อนใน และช่วยให้เจริญอาหาร หวานเป็นลมขมเป็นยา

 

เฮียสี่จัดเรียงสินค้าน้ำเต้าทองก่อนส่งมอบให้ลูกค้าตามคำสั่งซื้อ

 

บรรยากาศภายในร้านสิงคโปร์โภชนา ลูกค้าทุกโต๊ะมาเพื่อกินลอดช่องสิงคโปร์

 

ปัจจุบันความนิยมในรสขมไม่ต่างจากสมัยของ 4 รุ่นก่อนหน้า ภายใต้การดูแลของเฮียสี่ ผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่ 5 เพราะมีลูกค้าแวะเวียนเข้าร้านตลอดทั้งวัน 

 

จากเอกลักษณ์เครื่องดื่มสมุนไพรชงใส่แก้วพร้อมดื่ม แช่ในตู้แช่สเตนเลส ที่เป็นภาพจำของรุ่นคุณลุงคุณป้า น้ำเก๊กฮวย จับเลี้ยง มะขามป้อม ใบบัวบก ฟ้าทะลายโจร ถูกบรรจุลงขวดรูปทรงน้ำเต้าขนาดพอดีมือ พร้อมผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างไอศกรีมสมุนไพร สเลอปี้สมุนไพร ลูกอมสมุนไพร ง่ายต่อการเข้าถึงของทุกเพศทุกวัย

 

แก้วพลาสติกถูกนำมาใช้แทนแก้วที่เคยใช้ปกติ ในช่วงการระบาดของโควิด

 

วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ร้านคั้นกี่น้ำเต้าทองจะเปิดให้บริการที่อาคารปัจจุบันวันสุดท้าย ก่อนย้ายร้านใหม่ไปบริเวณวงเวียน 22 กรกฎา ถนนมิตรพันธ์ ห่างจากร้านเดิมเพียง 100 เมตร ซึ่งทางเพจร้านโพสต์เชิญชวนลูกค้ามาร่วมถ่ายรูปและดื่มน้ำขมเพื่อเป็นที่ระลึกก่อนย้ายร้านไปเปิดให้บริการที่ใหม่

 

น้ำขม ยาขม ยาหวาน และน้ำเก๊กฮวย ในรูปแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่

 

เจ๊ณี้-เฮียณรงค์ ผู้สืบทอดกิจการลอดช่องสิงคโปร์ รุ่นที่ 3

 

‘ลอดช่องสิงคโปร์’ ของหวานขึ้นชื่อของร้าน ‘สิงคโปร์โภชนา’ อีกหนึ่งสัญลักษณ์บนถนนเจริญกรุง ขนมรับแขกเรียกน้ำย่อย หรือเป็นของตบท้ายหลังตะลุยชิมของอร่อยย่านเยาวราช ยิ่งเป็นสายหวานคงพลาดไม่ได้ จากกรณีการเวนคืนที่ดิน หลายกระแสในโซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกตในการรื้อถอน เพราะพื้นที่ตรงนี้มีประวัติเก่าแก่ยาวนาน ควรอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้คนรุ่นหลัง ไม่อยากให้หายไปตามกาลเวลา

 

ลูกค้าร้านน้ำเต้าทอง วัฒนธรรมการกินอาหารสร้างความผูกพันที่ส่งต่อในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น

 

ส่งต่อความหวานมายาวนานกว่า 80 ปี โดยเจ้ณี้ เจ้าของร้านรุ่นที่ 3 เล่าถึงอดีตย้อนไปยุคคุณปู่ผู้คิดค้นสูตรลอดช่อง พร้อมเปิดเผยที่มาของชื่อร้านลอดช่องสิงคโปร์ที่ไม่ได้มาจากประเทศสิงคโปร์อย่างชื่อ แต่เกี่ยวพันกับยุครุ่งเรืองของโรงภาพยนตร์ย่านเยาวราช เพราะร้านอยู่หลังโรงหนังสิงคโปร์ (โรงหนังเฉลิมบุรี) ใครมารอดูหนังก็ต้องมาแวะกิน 

 

เวลาลูกค้ามารอดูภาพยนตร์ส่วนมากจะนัดพบกันที่ ‘ร้านลอดช่องหน้าโรงหนังสิงคโปร์’ แล้วก็เรียกกันสั้นลงจนเป็น ‘ร้านลอดช่องสิงคโปร์’ บรรยากาศในสมัยนั้นมีมนตร์เสน่ห์มากๆ เวลามีภาพยนตร์เรื่องใหม่ๆ เข้าฉาย ร้านจะคึกคักเป็นพิเศษ แม้แต่ ‘นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง’ คุณเพชรา เชาวราษฎร์ ยังเคยมาลองกิน

 

บรรยากาศหน้าร้านสิงคโปร์โภชนา ต้นตำรับลอดช่องสิงคโปร์ 

 

โหลบรรจุน้ำชงรูปน้ำเต้าทอง สัญลักษณ์ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 122 ปี เฮียสี่บอกว่าจำความได้ก็เห็นโหลน้ำเต้าแล้ว ไม่ทราบที่มาหรืออายุของโหลจริงๆ

 

“นั่งข้างในก่อนได้ครับ” เสียงพนักงานร้านสิงคโปร์โภชนาเชิญชวนอย่างเป็นมิตร สำหรับผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาบริเวณริมถนนเจริญกรุง

 

รู้สึกใจหายมากหลังได้รับแจ้งเรื่องการเวนคืนที่เจ๊ณี้อยู่ที่นี่มาตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณย่า ตอนนี้ทำได้แค่ทำใจยอมรับการเปลี่ยนแปลง โดยจะให้บริการร้านเดิมวันสุดท้าย 6 ธันวาคมนี้ จากนั้นจะปิดเป็นเวลา 7 วัน เพื่อย้ายร้าน ก่อนเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ บริเวณถนนทรงสวัสดิ์ ห่างจากร้านเดิมเพียง 70 เมตร

 

ผลิตภัณฑ์ของน้ำเต้าทองในรูปแบบทันสมัย พร้อมให้บริการกับลูกค้าทุกเพศทุกวัย

 

ลอดช่องสิงคโปร์ที่ไม่ได้ถือกำเนิดจากประเทศสิงคโปร์

 

ลูกค้าประจำที่มาอุดหนุนส่วนใหญ่รู้สึกใจหายที่ร้านต้องถูกย้าย ด้วยความผูกพัน บางคนกินมาตั้งแต่รุ่นปู่ยันรุ่นหลาน อย่างไรก็จะตามไปอุดหนุน เพราะเหมือนเติบโตมาด้วยกัน

 

ร้านคั้นกี่น้ำเต้าทองตึกเก่าที่เปิดกิจการมากว่า 122 ปี ย่านเยาวราช ริมถนนเจริญกรุง

The post ปิดตำนานทำเลเก่า 2 ร้านดังเจริญกรุง คั้นกี่น้ำเต้าทอง-ลอดช่องสิงคโปร์ appeared first on THE STANDARD.

]]>
คืนหนาวของคนไร้บ้านกลางกรุงเทพฯ https://thestandard.co/cold-night-of-a-homeless-person-in-bangkok/ Tue, 21 Nov 2023 13:30:28 +0000 https://thestandard.co/?p=868145 คนไร้บ้าน กรุงเทพ

คำ่คืนที่อุณหภูมิอากาศของกรุงเทพมหานครลดลง THE STANDARD […]

The post คืนหนาวของคนไร้บ้านกลางกรุงเทพฯ appeared first on THE STANDARD.

]]>
คนไร้บ้าน กรุงเทพ

คำ่คืนที่อุณหภูมิอากาศของกรุงเทพมหานครลดลง THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจย่านถนนราชดำเนินและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พบว่าบางคนมีผ้าผืนบาง พลาสติก เสื้อกันฝน เป็นอุปกรณ์ในการสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย หลายคนนอนขดตัว ซุกมือใต้รักแร้ พร้อมกางร่มคันเล็กไว้ต้านแรงลม

 

ขณะที่พยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่า กรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วงวันที่ 21-25 พฤศจิกายน จะมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

 

ชายไร้บ้านบริเวณถนนราชดำเนิน ท่ามกลางอุณหภูมิที่ลดลง

 

ชายไร้บ้านนอนหลับพักผ่อนบริเวณเสาชิงช้า หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 

 

ริมทางเท้าบริเวณแยกคอกวัว ชายไร้บ้านกับผ้าบางๆ หนึ่งผืน

 

ในคืนที่มีลมแรงและอากาศหนาว ร่มคือวัสดุกันลมชั้นดีสำหรับคนไร้บ้าน 

 

ชายไร้บ้านบริเวณริมทางเท้าตรอกสาเก คืนที่ไม่มีแม้ผ้าห่มคลุมกาย

 

คนไร้บ้านบริเวณหัวลำโพง ร่มนอกจากกันแสงแดดในเวลากลางวัน บางครั้งในเวลากลางคืนยังสามารถใช้กันลมเพื่อทุเลาความหนาว

 

ชายไร้บ้านในชุดกันฝน ในค่ำคืนที่มีแต่ลมหนาว สิ่งของใกล้ตัวถูกดัดแปลงเพื่อความอยู่รอด

 

คนไร้บ้านใช้สะพานเป็นที่นอนพัก บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์

 

คนไร้บ้านกับผ้าเช็ดตัวที่ทำหน้าที่แทนผ้าห่มบริเวณป้ายรถเมล์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

 

คนไร้บ้านบริเวณถนนราชดำเนิน เสื่อน้ำมัน เสื้อกันหนาว อุปกรณ์ในการข้ามผ่านค่ำคืนที่อุณหภูมิกำลังลดลง

 

เสื้อกันฝนและผ้าผืนบาง อุปกรณ์ให้ความอบอุ่นของคนไร้บ้านบริเวณเกาะพญาไท

The post คืนหนาวของคนไร้บ้านกลางกรุงเทพฯ appeared first on THE STANDARD.

]]>