×

เมื่อความสำเร็จต้องสร้างตั้งแต่เด็ก เปิดบทเรียนชีวิตของนักกีฬาระดับโลก [Advertorial]

23.01.2019
  • LOADING...

5 ขวบ 6 ขวบ 7 ขวบ อยากเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ ควรเริ่มเล่นหรือฝึกซ้อมตั้งแต่อายุเท่าไร?

 

เท่าที่สังเกต นักกีฬาระดับโลกส่วนใหญ่มักเล่นกีฬาตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งบางคนเริ่มตั้งแต่ยังอยู่ชั้นอนุบาลด้วยซ้ำไป

 

 

รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงชาวไทย ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลก ก็เริ่มก้าวเข้าคอร์ตอย่างจริงจังเมื่ออายุได้ 6 ขวบ ที่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด

 

 

หรือแม้กระทั่งคู่พี่น้องจุฑานุกาล อย่าง โมรียา และ เอรียา โปรกอล์ฟหญิงระดับโลก ที่ได้ไม้กอล์ฟเป็นของเล่นในวัยเด็ก และคุณพ่อวางแผนการซ้อมพร้อมกับให้เริ่มออกรอบตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และ 5 ขวบตามลำดับ

 

จากบทความของ Journalstandard ที่เขียนถึงเรื่องวัยที่เหมาะสำหรับการเริ่มเล่นกีฬาที่ดีสุด ซึ่งสอบถามความคิดเห็นจากผู้ฝึกสอนในหลายๆ กีฬา และส่วนใหญ่จะตอบว่าอยู่ในช่วง 5-7 ขวบ เป็นช่วงอายุที่เหมาะสม

 

 

โดยเด็กวัยนี้เป็นวัยที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างดี ทั้งเรื่องการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องของการวิ่ง, การเตะ, การจับบอล, หรือแม้กระทั่งการถีบล้อ รวมถึงการเข้าใจเรื่องของการเล่นเป็นทีมและทำตามคำสั่ง ซึ่งเป็นพื้นฐานของกีฬาอย่างซอฟต์บอล, ฟุตบอล, ยิมนาสติก, ว่ายน้ำ, เทนนิส หรือกรีฑา

 

มองได้ว่า เด็กวัยนี้เป็นวัยที่ต้องการปล่อยพลังอย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ซึ่งการเล่นกีฬาก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดี และจากข้อมูลที่บอกว่า วัยดังกล่าวสามารถรับรู้เรื่องต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งที่ส่งเสริมกันได้อย่างยอดเยี่ยม

 

แต่ก็มีนักกีฬาหลายคนที่ชีวิตไม่ได้ถูกปูทางให้เริ่มต้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม และตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคงจะเป็นนักมวยเจ้าของแชมป์สภามวยโลก WBC รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ อย่าง ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น หรือที่คนไทยเรียกว่า เจ้าแหลม

 

 

‘เจ้าแหลม’ เริ่มขึ้นชกในสังเวียนผ้าใบครั้งแรกด้วยอายุ 13 ปี แต่เนื่องจากฐานะทางครอบครัวที่ไม่ดีมากนัก ทำให้แหลมต้องทำอาชีพอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย ตั้งแต่ กรรมกร ช่างทาสี ช่างไฟ ติดฝ้าเพดาน จนไปถึงการเป็น รปภ. แต่ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ และไม่คิดที่จะยอมแพ้ต่อโชคชะตา ทำให้ศรีสะเกษกลายเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งของไทย

 

การเริ่มเล่นกีฬาตั้งแต่เด็กหรืออายุยังน้อยอาจเป็นการเริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จที่ดี ซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่ใบเบิกทาง มันคงไร้ประโยชน์ ถ้าระหว่างทางไม่สามารถข้ามสิ่งกีดขวาง และยอมแพ้ต่ออุปสรรคอย่างง่ายๆ

 

ชนาธิป สรงกระสินธ์ คงเป็นตัวอย่างนักกีฬาที่ชัดเจนที่สุดในการหลอมรวมระหว่างวัยที่เริ่มเล่นกีฬาได้อย่างเหมาะสม และความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาและอุปสรรค

 

 

เจถูกคุณพ่อบังคับให้ฝึกฟุตบอลอย่างหนักหน่วงตั้งแต่ 4 ขวบ ซึ่งเน้นไปที่เรื่องพื้นฐานฟุตบอลโดยเฉพาะ แต่อุปสรรคของชนาธิปที่ไม่สามารถแก้ไขและจะติดตัวของเขาไปตลอดคือ เรื่องของร่างกาย

 

158 เซนติเมตร คือความสูงของชนาธิป ซึ่งทำให้การทดสอบในการเข้าทีมในหลายๆ ครั้งของเจถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า ตัวเล็กเกินไป แต่นั่นไม่เคยทำให้เขาท้อ แต่กลับกลายเป็นแรงผลักดันที่จะสู้ต่อไป

 

จนสุดท้ายในทุกวันนี้ เจกลายเป็นกำลังหลักของทีมชาติ และเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ไปเล่นในเจลีก ลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในเอเชีย และในฤดูกาล 2018 ที่ผ่านมา เขาถูกรับเลือกให้เป็น 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปี

 

ความสำเร็จของนักกีฬาที่ยกตัวอย่าง มองผ่านๆ พวกเขาอาจจะถูกมองว่าประสบความสำเร็จด้วยพรสวรรค์ ซึ่งเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง แต่หากมองย้อนไปที่เบื้องหลังความสำเร็จ จะเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมอย่างหนัก และไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาที่ใครขีดเส้นให้พวกเขาถึงฝั่งฝัน แต่เป็นสิ่งพวกเขากำหนดมันขึ้นมาเอง

 

ความพยายามมักอยู่คู่กับนักกีฬาเสมอ และการพยายามทุกครั้งล้วนมีความหมาย แต่หากทำอย่างสุดกำลังแล้วยังไม่สามารถไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ อย่างน้อยมันก็สอนให้รู้จักคำว่าวินัย คำว่าน้ำใจนักกีฬา และความมุ่งมั่น ซึ่งสามารถต่อยอดให้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพ และทำให้ประสบความสำเร็จในด้านอื่นๆ จึงเปรียบได้ว่า #กีฬาคือครูชีวิต

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising